ในใจของหลี่จุ่นกลัดกลุ้มเป็นที่สุด
เดิมทีเขาและหยางจงกำลังสนุกกันมาก คอยตามหาสัตว์ป่าไปทั่วทุกสารทิศ จากนั้นจุดพลุสัญญาณเพื่อแจ้งพวกจ้าวเฟยเอ๋อร์
แต่นึกไม่ถึงว่าจู่ๆ จะบังเอิญเจอโจรสาวสองคนซ่อนตัวอยู่ที่นี่
ทั้งสองสะดุ้งตื่นตกใจทันที แล้วอีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยที่เขาสองคนยังไม่ทันตั้งตัว จากนั้นทุบหยางจงจนสลบด้วยท่วงท่าคล่องแคล่วและปราดเปรียวพร้อมกับจับตัวหลี่จุ่นไว้
หลี่จุ่นเดาว่าสองคนนี้อาจเป็นสาเหตุที่หลี่เจิ้งเพิ่มองครักษ์ข้างกายเขา
และเป็นไปได้มากว่าพวกนางอาจมาที่นี่เพื่อลอบปลงพระชนม์หลี่เจิ้ง เพราะชาติก่อนหลี่จุ่นเคยดูหนังละครแนวนี้มาไม่รู้กี่รอบแล้ว
เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้ตนจะได้เล่นบทชายผู้โชคร้าย
“ข้าไว้ชีวิตเจ้าก็ย่อมได้ หากเจ้าตอบคำถามข้าตามความจริง ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป”
โจรสาวอีกคนกล่าวด้วยสีหน้าดุร้าย แต่น้ำเสียงไพเราะอย่างผิดแปลกราวกับว่านางเป็นท่านหญิงที่สวยมากภายใต้ชุดดำสนิทนั้น
ส่วนโจรสาวอีกคนเอาแต่กลอกตาไปมาและจ้องหน้าหลี่จุ่นอย่างไร้ความเกรงกลัวจนทำให้หลี่จุ่นรู้สึกประหลาดใจ
แม้ในใจของหลี่จุ่นจะหวาดกลัว แต่เขากลับกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านจอมยุทธ์หญิงทั้งสอง ย่อมได้ขอรับ ท่านจอมยุทธ์หญิงถามมาได้เลย ข้าน้อยจะเล่าทุกอย่างที่รู้ให้ฟังอย่างแน่นอนขอรับ”
โจรสาวผู้ดุร้ายกำลังจะรีบเอ่ยปาก แต่ถูกโจรสาวอีกคนดึงตัวไปอีกด้านและกระซิบข้างหูสองสามประโยค เมื่อนางหันหน้ากลับมาก็เอ่ยถามทันทีว่า “เจ้าเป็นใคร มีนามว่าอย่างไร อาศัยอยู่ที่แห่งใด บิดามารดาทำการค้าขายอันใด รีบตอบข้าตามความจริงแต่โดยดี”
หลี่จุ่นนิ่งงันไปชั่วครู่
แม่คุณ นี่กำลังสอบประวัติหรือออกเดทเหรอ
แต่ทว่าในหัวสมองของหลี่จุ่นคิดได้อย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังทันทีว่า “เรียนท่านจอมยุทธ์หญิงทั้งสอง ข้าน้อยมีนามว่าเย่เฟย บิดาข้าเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ในเมืองหลวงนามว่าเย่หง”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ” โจรสาวผู้ดุร้ายกล่าวเสียงสูงด้วยความตกใจ
บุตรชายของเย่หงหรือ
ตอนนี้เย่หงก็อยู่แถวนี้อย่างนั้นหรือ
พวกตนโชคร้ายถึงเพียงนี้เชียวหรือ
จับตัวบุตรชายของเย่หง นี่มันเรื่องอันใดกัน หากเย่หงพบว่าบุตรชายของตนหายตัวไป เขาจะต้องระดมกองกำลังทหารชุดใหญ่ค้นหาทั่วทั้งภูเขาเป็นแน่ แล้วพวกนางก็จะไม่สามารถซ่อนตัวได้อีก
เมื่อหลี่จุ่นเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่ายก็แอบหัวเราะในใจทันที
โจรสาวสองคนนี้คงซ่อนตัวอยู่ที่นี่ตลอด และดูจากร่องรอยของตีนเขานี้แล้ว เห็นทีคงไม่ได้ซ่อนอยู่ที่นี่แค่วันสองวัน
เดิมทีเขาคิดว่าโจรสองคนนี้อาจจะมาเพื่อลอบปลงพระชนม์หลี่เจิ้ง แต่พอคิดไปคิดมาก็รู้สึกทะแม่งๆ
หากต้องการลอบปลงพระชนม์หลี่เจิ้ง เหตุใดจึงได้โง่เขลาจนทำให้หลี่เจิ้งไหวตัวทันและเตรียมพร้อมป้องกันตัวเช่นนี้
อย่างไรเสียเหล่าราชองครักษ์และจอมยุทธ์ที่อยู่รอบกายหลี่เจิ้งก็ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งนั้น ไม่มีโจรที่วางแผนลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้คนไหนโง่เขลาได้ถึงเพียงนี้
ด้วยเหตุนี้เอง
หลี่จุ่นพลันคิดออกทันที
เขาคาดว่าโจรสาวสองคนนี้อาจกำลังทำเรื่องไม่ดีและบุกเข้ามาที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ และโชคร้ายเกิดปะทะกับทหารรักษาพระองค์ที่อยู่รอบๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลี่เจิ้งไหวตัวทัน
ขณะนี้เมื่อเห็นว่านางทั้งสองไม่ได้ชักดาบออกมาฟันตนในทันที หลี่จุ่นก็รู้สึกโล่งอกทันทีและคิดว่าตนเดาถูกไม่มากก็น้อย
หากโจรสาวสองคนนี้มาเพื่อลอบปลงพระชนม์หลี่เจิ้ง เมื่อรู้ว่าตนเป็นบุตรชายของผู้บัญชาการจะต้องชักดาบออกมาฟันตนจนตายในทันทีอย่างแน่นอน อย่างไรเสียหากกล้าปลงพระชนม์ฮ่องเต้แล้ว ก็แค่บุตรชายของผู้บัญชาการเพียงคนเดียวเหตุใดจะไม่กล้าฆ่า
ฆ่าแล้วจะเป็นประโยชน์มากกว่าด้วยซ้ำ
หลี่จุ่นแอบหัวเราะในใจ
แต่ทว่า
ผ่านไปชั่วครู่เขาก็เห็นโจรสาวอีกคนจ้องตนด้วยสายตาเคร่งขรึม จากนั้นดึงโจรสาวอีกคนไปด้านข้างและกระซิบข้างหูนางอีกครั้ง
เมื่อโจรสาวผู้ดุร้ายหันหน้ากลับมาก็ทุบตีหลี่จุ่นจนน่วม จากนั้นกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “หน็อยแน่! เจ้ากล้าหลอกข้า รนหาที่ตายเสียจริง เจ้าไม่ใช่เย่เฟยด้วยซ้ำ”
หลี่จุ่นตกตะลึง “ไม่ใช่นะขอรับ ท่านจอมยุทธ์หญิง ข้าคือเย่เฟยจริงๆ นะขอรับ...”
เชี่ย! ทำไมถึงโป๊ะแตกได้ล่ะ
“ฮึ เย่เฟยเป็นพวกผู้ดีตีนแดง พวกข้าเคยเจอเขามาก่อน ไอ้เสเพลผู้นั้นไม่ได้มีหน้าตาเยี่ยงเจ้า”
โจรสาวกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดและใช้น้ำเสียงเย้ยหยัน
พร้อมกับเอื้อมมือไปบีบใบหน้าอันขาวผ่องและเรียบเนียนของหลี่จุ่น แล้วกล่าวเย้ยหยันว่า “ไม่เลว ผิวพรรณดีกว่าข้าด้วยซ้ำ โอ้ พ่อหนุ่ม เจ้าช่างรูปลักษณ์หล่อเหลาเสียจริง จนข้าเองใจเต้นแรง...”
แต่ทว่าโจรสาวพูดจาแทะโลมไม่ทันไรก็ถูกโจรสาวอีกคนดึงตัวออก
ส่วนหลี่จุ่นกำลังตกตะลึง
เยี่ยมจริงๆ !
ตนถูกโจรสาวแทะโลมหรือนี้
เกิดอะไรขึ้น
โจรสาวสองคนกระซิบกระซาบกันอีกครั้ง จากนั้นโจรสาวผู้ดุร้ายก็เอามือเท้าสะเอวอันเรียวบางและกล่าวว่า “รีบบอกมาว่าเจ้าเป็นใคร”
ในใจของหลี่จุ่นกลัดกลุ้มและถอนหายใจอีกครั้งก่อนกล่าวว่า “ข้าน้อยนามว่าอวี่เหวินตู บิดาข้าดำรงตำแหน่งไท่ซือในราชการปัจจุบันนามว่าอวี่เหวินจิ้ง ท่านจอมยุทธ์หญิงทั้งสอง...”
สองสาวตกตะลึงทันที
คราวนี้พวกนางไม่ได้กระซิบกระซาบกัน แต่ทุบหลี่จุ่นให้สลบด้วยท่วงท่าคล่องแคล่วและปราดเปรียว
จากนั้นหลี่จุ่นก็สบถด่าเชี่ยก่อนจะสลบไป
ทำไมถึงยังตีล่ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน