องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 56

หลี่จุ่นและหยางจงแทบจะตื่นพร้อมกันและในขณะนั้นฟ้าก็มืดแล้ว

“ห้ามทำร้ายองค์ชายของข้า”

เมื่อหยางจงตื่นก็ร้องตะโกนโหวกเหวก แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าโจรหายไปแล้วและตนใส่เพียงชุดในบางๆ

และรู้สึกหนาววาบไปทั้งตัว

“เชี่ย!”

เมื่อหลี่จุ่นตื่นก็สบถด่าชุดใหญ่และพบว่าสองโจรสาวหายไปแล้ว และฟ้าก็มืดมากแล้ว

“องค์ชาย ท่านทรงเป็นอันใดหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อหยางจงรีบเข้าไปประคองหลี่จุ่นก็พบว่าชุดนอกของตนคลุมอยู่บนตัวของหลี่จุ่น

ทันใดนั้นเขาก็กล่าวด้วยสีหน้าขุ่นเคืองว่า “องค์ชาย เหตุใดท่านจึงทรงแย่งเสื้อผ้าของกระหม่อมไปล่ะพ่ะย่ะค่ะ...”

หลี่จุ่นตกตะลึงชั่วครู่ แต่ก็เข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบโยนเสื้อผ้าบนร่างของตนให้หยางจง ทันใดนั้นเขาก็พลันรู้สึกฉงนงุนงง

โจรสาวสองคนนั้นใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ ถอดเสื้อผ้าของหยางจงมาคลุมให้ตน

ดูเหมือนจะไม่ใช่คนร้าย

หรือว่าพวกนางหลงใหลในความหล่อเหลาอย่างไร้ที่เปรียบของตนจึงไม่อยากทำร้ายตน

“หัวหน้าขันทีหยาง รีบลงจากภูเขากันเถอะ” หลี่จุ่นพลันกล่าว

“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย”

หยางจงจามหนึ่งทีก่อนจะรีบใส่เสื้อผ้าและตามหลี่จุ่นลงจากภูเขาไปอย่างรวดเร็ว

เวลานี้ล่วงเลยยามซวีแล้ว หากพวกเขายังไม่กลับไป จ้าวเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันต้องตามหาพวกเขาแน่

ทั้งสองคลำหาทางกลับสนามประลองและฟ้าก็มืดสนิทแล้ว

ตอนพวกเขากลับถึงตำหนักก็ได้ยินเสียงอันร้อนรนใจของหวังเยียนหรันดังออกมาจากข้างใน

“ป่านนี้แล้ว เหตุใดองค์ชายจึงยังไม่กลับมา หรือว่าไปที่แห่งใด คงไม่เกิดเรื่องอันใดใช่หรือไม่”

จ้าวเฟยเอ๋อร์กลับกล่าวอย่างสงบว่า “องค์ชายฉลาดเฉลียวปานนั้น ไม่เกิดเรื่องอันใดดอก รออีกปะเดี๋ยวเถอะ”

“ข้าไม่เป็นไร”

หลี่จุ่นและหยางจงก้าวเข้าไปในตำหนักอย่างถูกเวลาพอดีพลางเอ่ยถามว่า “สถานการณ์การล่าสัตว์เป็นเช่นใดบ้าง”

“องค์ชาย ท่านเสด็จไปแห่งใดมาหรือเพคะ”

เมื่อหวังเยียนหรันเห็นหลี่จุ่นและหยางจงก็พลันโล่งอกทันที จากนั้นรีบก้าวไปข้างหน้า “พวกเราเป็นห่วงมากเพคะ”

“ขออภัย มีเรื่องนิดหน่อยจึงมาช้าไป”

สีหน้าของหลี่จุ่นเต็มไปด้วยความขอโทษ

จ้าวเฟยเอ๋อร์ก็แอบโล่งอกและตอบคำถามของหลี่จุ่นว่า “วันนี้เราล่าสัตว์ได้ค่อนข้างมากเพคะ เนื่องด้วยความช่วยเหลือจากพลุสัญญาณของท่านทำให้เราล่าสัตว์ได้สามสิบเอ็ดตัว เราตามล่ากันเองได้สิบสองตัว ทั้งหมดห้าสิบสามตัว ส่วนขององค์ชายทรงล่าได้หกสิบสามตัว กระนั้นวันนี้เราล่าได้ทั้งหมดหนึ่งร้อยหกตัวเพคะ”

“ใช่แล้ว ใช่แล้วเพคะ องค์ชาย ท่านเยี่ยมยอดมากเพคะ ข้าและท่านพี่เฟยเอ๋อร์นึกไม่ถึงว่าท่านจะทรงใช้พลุสัญญาณ และนึกไม่ถึงว่าท่านจะทรงทุบตายหกสิบสามตัว” หวังเยียนหรันกระตือรือร้นขึ้นมาทันที

หลี่จุ่นพยักหน้าด้วยสีหน้าพึงพอใจเป็นที่สุด “ไม่เลวๆ เช่นนี้แล้ว หากวันพรุ่งล่าได้อีกสามสิบตัวก็จะครบหนึ่งร้อยสามสิบหกตัว หากแบ่งเท่าๆ กันก็จะได้ทีมละหกสิบแปดตัว เกินหกสิบหกของค่าเฉลี่ยระดับสาม เช่นนั้นองค์รัชทายาทก็จะตกรอบ”

หนึ่งร้อยสามสิบหกตัว หลี่จุ่นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ล่าได้เยอะขนาดนี้ในคราวเดียว

“องค์ชาย แต่สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนักเพคะ”

จากนั้น

จ้าวเฟยเอ๋อร์พลันเอ่ยปากพลางขมวดคิ้ว “องค์ชายรัชทายาททรงจับได้ห้าสิบสี่ตัว บัดนี้บนภูเขาเหลือเพียงกวางสี่สิบตัว หากเราต้องการล่าสามสิบตัว เกรงว่าจะเป็นไปได้ยากเพคะ...”

อะไรนะ

หลี่จุ่นขมวดคิ้วทันที องค์รัชทายาทฆ่าได้ห้าสิบสี่ตัวเหรอ

นี่...

ถ้าพรุ่งนี้แย่งสามสิบตัวในสี่สิบตัวที่เหลือจากมือองค์รัชทายาท นี่มันยากมากเลยนะ

นึกไม่ถึงว่าองค์รัชทายาทผู้นี้จะเก่งกาจมากขนาดนี้

ฝ่ายตนอาศัยดวงและพลุสัญญาณถึงล่าได้เยอะขนาดนี้

“องค์ชายหกพ่ะย่ะค่ะ”

ในขณะนั้นเอง

ก็มีเสียงเรียกดังขึ้นนอกตำหนัก เมื่อหลี่จุ่นและคนอื่นๆ หันหน้าไปมองก็พบว่ามีขันทีคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน

ขันทีคนนั้นก็คือคนรับใช้ของหวังเหลียน

“องค์ชายหก ท่านหญิงจ้าว ยอดหญิงหวัง หัวหน้าขันทีหวังให้กะหม่อมมาทูลท่านทั้งสามว่าองค์หญิงใหญ่แห่งตำหนักชิ่งหนิงทรงถอนตัวจากพิธีการแข่งขันล่าสัตว์แล้วพ่ะย่ะค่ะ ทุกท่านจะได้เลื่อนเข้ารอบถัดไปและเริ่มการแข่งขันรอบสุดท้ายกับองค์ชายรัชทายาทในวันมะรืนพ่ะย่ะค่ะ ขอกรุณาโปรดทราบ”

คำกล่าวของขันทีผู้นั้นทำให้ตกใจมาก

“เจ้าว่าอย่างไรนะ องค์หญิงใหญ่ทรงถอนตัวอย่างนั้นหรือ” หวังเยียนหรันโวยวายด้วยความตกใจทันที

สีหน้าของจ้าวเฟยเอ๋อร์และหลี่จุ่นก็เต็มไปด้วยความตกใจ

หลี่เหวินจวินขอถอนตัวเหรอ

เพราะเหตุอันใดกัน

พวกเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

แต่ไม่รู้ทำไม หลี่จุ่นที่เดิมทีควรแอบดีใจ แต่ในใจของเขากลับไม่รู้สึกดีใจ ทำไมหลี่เหวินจวินถึงถอนตัวล่ะ

“ข้าจะไปพบพี่หญิงใหญ่” หลี่จุ่นรีบเดินออกจากประตู

“องค์ชาย ข้าตามเสด็จด้วยเพคะ” หวังเยียนหรันรีบตามเขาออกไป

เมื่อทั้งสองมาถึงตำหนักของหลี่เหวินจวิน

ก็เห็นหลี่เหวินจวินกำลังจิบชาด้วยสีหน้าอาลัยอยู่ในห้องโถงใหญ่ และมีพี่น้องตระกูลเซียวบุตรชายของเจ้ากรมโยธา อวี่เหวินตูพร้อมด้วยเสิ่นจิงหงยืนเคียงข้างด้วยความเคารพ

“น้องหก เยียนหรัน พวกเจ้ามากันแล้วหรือ” เมื่อหลี่เหวินจวินเห็นหลี่จุ่นและหวังเยียนหรันก็พลันเผยรอยยิ้มอันน่าหลงใหลออกมาทันที

“องค์หญิง เหตุใดท่านจึงทรงถอนตัวเพคะ” หวังเยียนหรันรีบถามทันที

หลี่จุ่นก็ถามด้วยความสงสัย “พี่หญิงใหญ่ ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้ายและยังไม่รู้ว่าใครชนะ เหตุใดพี่หญิงใหญ่จึงถอนตัวกะทันหันเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน