หลี่จุ่นและหยางจงแทบจะตื่นพร้อมกันและในขณะนั้นฟ้าก็มืดแล้ว
“ห้ามทำร้ายองค์ชายของข้า”
เมื่อหยางจงตื่นก็ร้องตะโกนโหวกเหวก แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าโจรหายไปแล้วและตนใส่เพียงชุดในบางๆ
และรู้สึกหนาววาบไปทั้งตัว
“เชี่ย!”
เมื่อหลี่จุ่นตื่นก็สบถด่าชุดใหญ่และพบว่าสองโจรสาวหายไปแล้ว และฟ้าก็มืดมากแล้ว
“องค์ชาย ท่านทรงเป็นอันใดหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อหยางจงรีบเข้าไปประคองหลี่จุ่นก็พบว่าชุดนอกของตนคลุมอยู่บนตัวของหลี่จุ่น
ทันใดนั้นเขาก็กล่าวด้วยสีหน้าขุ่นเคืองว่า “องค์ชาย เหตุใดท่านจึงทรงแย่งเสื้อผ้าของกระหม่อมไปล่ะพ่ะย่ะค่ะ...”
หลี่จุ่นตกตะลึงชั่วครู่ แต่ก็เข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบโยนเสื้อผ้าบนร่างของตนให้หยางจง ทันใดนั้นเขาก็พลันรู้สึกฉงนงุนงง
โจรสาวสองคนนั้นใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ ถอดเสื้อผ้าของหยางจงมาคลุมให้ตน
ดูเหมือนจะไม่ใช่คนร้าย
หรือว่าพวกนางหลงใหลในความหล่อเหลาอย่างไร้ที่เปรียบของตนจึงไม่อยากทำร้ายตน
“หัวหน้าขันทีหยาง รีบลงจากภูเขากันเถอะ” หลี่จุ่นพลันกล่าว
“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย”
หยางจงจามหนึ่งทีก่อนจะรีบใส่เสื้อผ้าและตามหลี่จุ่นลงจากภูเขาไปอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ล่วงเลยยามซวีแล้ว หากพวกเขายังไม่กลับไป จ้าวเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันต้องตามหาพวกเขาแน่
ทั้งสองคลำหาทางกลับสนามประลองและฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
ตอนพวกเขากลับถึงตำหนักก็ได้ยินเสียงอันร้อนรนใจของหวังเยียนหรันดังออกมาจากข้างใน
“ป่านนี้แล้ว เหตุใดองค์ชายจึงยังไม่กลับมา หรือว่าไปที่แห่งใด คงไม่เกิดเรื่องอันใดใช่หรือไม่”
จ้าวเฟยเอ๋อร์กลับกล่าวอย่างสงบว่า “องค์ชายฉลาดเฉลียวปานนั้น ไม่เกิดเรื่องอันใดดอก รออีกปะเดี๋ยวเถอะ”
“ข้าไม่เป็นไร”
หลี่จุ่นและหยางจงก้าวเข้าไปในตำหนักอย่างถูกเวลาพอดีพลางเอ่ยถามว่า “สถานการณ์การล่าสัตว์เป็นเช่นใดบ้าง”
“องค์ชาย ท่านเสด็จไปแห่งใดมาหรือเพคะ”
เมื่อหวังเยียนหรันเห็นหลี่จุ่นและหยางจงก็พลันโล่งอกทันที จากนั้นรีบก้าวไปข้างหน้า “พวกเราเป็นห่วงมากเพคะ”
“ขออภัย มีเรื่องนิดหน่อยจึงมาช้าไป”
สีหน้าของหลี่จุ่นเต็มไปด้วยความขอโทษ
จ้าวเฟยเอ๋อร์ก็แอบโล่งอกและตอบคำถามของหลี่จุ่นว่า “วันนี้เราล่าสัตว์ได้ค่อนข้างมากเพคะ เนื่องด้วยความช่วยเหลือจากพลุสัญญาณของท่านทำให้เราล่าสัตว์ได้สามสิบเอ็ดตัว เราตามล่ากันเองได้สิบสองตัว ทั้งหมดห้าสิบสามตัว ส่วนขององค์ชายทรงล่าได้หกสิบสามตัว กระนั้นวันนี้เราล่าได้ทั้งหมดหนึ่งร้อยหกตัวเพคะ”
“ใช่แล้ว ใช่แล้วเพคะ องค์ชาย ท่านเยี่ยมยอดมากเพคะ ข้าและท่านพี่เฟยเอ๋อร์นึกไม่ถึงว่าท่านจะทรงใช้พลุสัญญาณ และนึกไม่ถึงว่าท่านจะทรงทุบตายหกสิบสามตัว” หวังเยียนหรันกระตือรือร้นขึ้นมาทันที
หลี่จุ่นพยักหน้าด้วยสีหน้าพึงพอใจเป็นที่สุด “ไม่เลวๆ เช่นนี้แล้ว หากวันพรุ่งล่าได้อีกสามสิบตัวก็จะครบหนึ่งร้อยสามสิบหกตัว หากแบ่งเท่าๆ กันก็จะได้ทีมละหกสิบแปดตัว เกินหกสิบหกของค่าเฉลี่ยระดับสาม เช่นนั้นองค์รัชทายาทก็จะตกรอบ”
หนึ่งร้อยสามสิบหกตัว หลี่จุ่นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ล่าได้เยอะขนาดนี้ในคราวเดียว
“องค์ชาย แต่สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนักเพคะ”
จากนั้น
จ้าวเฟยเอ๋อร์พลันเอ่ยปากพลางขมวดคิ้ว “องค์ชายรัชทายาททรงจับได้ห้าสิบสี่ตัว บัดนี้บนภูเขาเหลือเพียงกวางสี่สิบตัว หากเราต้องการล่าสามสิบตัว เกรงว่าจะเป็นไปได้ยากเพคะ...”
อะไรนะ
หลี่จุ่นขมวดคิ้วทันที องค์รัชทายาทฆ่าได้ห้าสิบสี่ตัวเหรอ
นี่...
ถ้าพรุ่งนี้แย่งสามสิบตัวในสี่สิบตัวที่เหลือจากมือองค์รัชทายาท นี่มันยากมากเลยนะ
นึกไม่ถึงว่าองค์รัชทายาทผู้นี้จะเก่งกาจมากขนาดนี้
ฝ่ายตนอาศัยดวงและพลุสัญญาณถึงล่าได้เยอะขนาดนี้
“องค์ชายหกพ่ะย่ะค่ะ”
ในขณะนั้นเอง
ก็มีเสียงเรียกดังขึ้นนอกตำหนัก เมื่อหลี่จุ่นและคนอื่นๆ หันหน้าไปมองก็พบว่ามีขันทีคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน
ขันทีคนนั้นก็คือคนรับใช้ของหวังเหลียน
“องค์ชายหก ท่านหญิงจ้าว ยอดหญิงหวัง หัวหน้าขันทีหวังให้กะหม่อมมาทูลท่านทั้งสามว่าองค์หญิงใหญ่แห่งตำหนักชิ่งหนิงทรงถอนตัวจากพิธีการแข่งขันล่าสัตว์แล้วพ่ะย่ะค่ะ ทุกท่านจะได้เลื่อนเข้ารอบถัดไปและเริ่มการแข่งขันรอบสุดท้ายกับองค์ชายรัชทายาทในวันมะรืนพ่ะย่ะค่ะ ขอกรุณาโปรดทราบ”
คำกล่าวของขันทีผู้นั้นทำให้ตกใจมาก
“เจ้าว่าอย่างไรนะ องค์หญิงใหญ่ทรงถอนตัวอย่างนั้นหรือ” หวังเยียนหรันโวยวายด้วยความตกใจทันที
สีหน้าของจ้าวเฟยเอ๋อร์และหลี่จุ่นก็เต็มไปด้วยความตกใจ
หลี่เหวินจวินขอถอนตัวเหรอ
เพราะเหตุอันใดกัน
พวกเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
แต่ไม่รู้ทำไม หลี่จุ่นที่เดิมทีควรแอบดีใจ แต่ในใจของเขากลับไม่รู้สึกดีใจ ทำไมหลี่เหวินจวินถึงถอนตัวล่ะ
“ข้าจะไปพบพี่หญิงใหญ่” หลี่จุ่นรีบเดินออกจากประตู
“องค์ชาย ข้าตามเสด็จด้วยเพคะ” หวังเยียนหรันรีบตามเขาออกไป
เมื่อทั้งสองมาถึงตำหนักของหลี่เหวินจวิน
ก็เห็นหลี่เหวินจวินกำลังจิบชาด้วยสีหน้าอาลัยอยู่ในห้องโถงใหญ่ และมีพี่น้องตระกูลเซียวบุตรชายของเจ้ากรมโยธา อวี่เหวินตูพร้อมด้วยเสิ่นจิงหงยืนเคียงข้างด้วยความเคารพ
“น้องหก เยียนหรัน พวกเจ้ามากันแล้วหรือ” เมื่อหลี่เหวินจวินเห็นหลี่จุ่นและหวังเยียนหรันก็พลันเผยรอยยิ้มอันน่าหลงใหลออกมาทันที
“องค์หญิง เหตุใดท่านจึงทรงถอนตัวเพคะ” หวังเยียนหรันรีบถามทันที
หลี่จุ่นก็ถามด้วยความสงสัย “พี่หญิงใหญ่ ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้ายและยังไม่รู้ว่าใครชนะ เหตุใดพี่หญิงใหญ่จึงถอนตัวกะทันหันเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ขอบคุณครับที่ลงให้อ่าน...
ลงเลยครับเรื่องนี้สนุกมาก...