องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 650

เมื่อซือหม่าชิงอวิ๋นหารือเรื่องกับเหล่าแม่ทัพในกองทัพเสร็จ ก็ให้ทุกคนแยกย้ายกันออกไป

จากนั้นเขาก็มานั่งบนเตียง แล้วเรียกซือหม่าเหย่มาตรงหน้า

ตอนนี้เขาขยับร่างกายได้แล้ว ทว่ายังไม่สามารถลงสนามได้

แต่นั่งพูดสั่งการอยู่บนเตียงยังพอทำได้

ซือหม่าชิงอวิ๋นให้หลานชายเอาแผนที่เดินทัพออกมาตั้งบนชั้นวางให้ตัวเอง จากนั้นก็เริ่มปรึกษาหารือกับหลานชาย

ทันใดนั้นซือหม่าเหย่ก็เอ่ยขึ้นว่า

“ท่านอา ท่านว่าโจรจี้ผู้นี้คิดจะทำอะไรกันแน่? ข้าลองคิดอย่างละเอียดดูแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากลเอามาก ๆ หากไม่ใช่กับดักจริง ๆ เช่นนั้นเหตุใดโจรจี้ผู้นั้นถึงยังจงใจปิดบังสภาพว่างเปล่าของในเมืองอีก ขอแค่ทัพของเราคิดดูอย่างถี่ถ้วนก็คงจะปิดบังไม่ได้ การปิดบังนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นมาก็เท่านั้น เห็นได้ชัดว่ากระทั่งเป็นการกระทำที่เกินความจำเป็น”

ซือหม่าชิงอวิ๋นครุ่นคิด ก่อนจะถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“เรื่องแต่งเรื่องจริง จริง ๆ ปลอม ๆ นี่เป็นจุดฉลาดของโจรจี้ล่ะ! ฉะนั้น ไม่ว่าจะสมเหตุสมผลหรือไม่ นี่อันที่จริงแล้วมันไม่สำคัญเลย ที่สำคัญมีเพียงจุดเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือทิศทางการเคลื่อนทัพของกองทัพพิทักษ์อุดร!”

“ขอแค่แน่ใจว่าทัพใหญ่ของกองทัพพิทักษ์อุดรไปด่านเฟิงเป่ยหรือด่านเหิงกู่แล้ว เช่นนั้นทัพใหญ่ของเราก็จะเคลื่อนทัพลงใต้ เพื่อยึดเมืองเฟิงหั่ว ไม่ว่านี่จะเป็นกับดักหรือไม่ ภายใต้กีบเหล็กแห่งทัพใหญ่ร่วมหนึ่งแสนหกพันนายของทัพแคว้นเยียนเรามันก็ไร้ประโยชน์!”

เมื่อซือหม่าเหย่ได้ฟัง แววตาก็อึ้งไปเลย จากนั้นก็มีความละอายใจอยู่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“นี่ ข้ายังห่างไกลจากท่านอาอีกมากทีเดียว ข้ากำลังคิดอยู่เชียวว่าปกติหรือไม่ สมเหตุสมผลหรือไม่ แต่ไม่นึกเลยว่าท่านอากลับมองแผนของอีกฝ่ายอย่างทะลุปรุโปร่ง เห็นวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของอีกฝ่าย”

ซือหม่าชิงอวิ๋นพลันมองหลานชายของตัวเองด้วยความชื่นชมทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“อย่าคิดเช่นนี้เลย เจ้าเองก็เก่งมากแล้ว ที่ขาดมีเพียงการฝึกฝนเท่านั้น ขอแค่ฝึกฝนให้มากอีกสักสองสามปี เวลาผ่านไปไม่ช้าก็เร็วเจ้าก็จะอยู่เหนือกว่าข้าผู้เป็นอาของเจ้าอยู่แล้ว”

“ขอรับ ท่านอา ข้าจะตั้งใจเล่าเรียน!” ซือหม่าเหย่เอ่ย

“อืม”

ซือหม่าชิงอวิ๋นพยักหน้า จากนั้นก็ชี้ไปที่แผนที่ แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า

“เจ้าคิดว่าหากกองทัพพิทักษ์อุดรไปสนับสนุนกองกำลังจริง ๆ จะไปสนับสนุนที่ใด?”

ซือหม่าเหย่มองแผนที่ ครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“หากพิจารณาเพียงว่าต้องไปสนับสนุนอย่างรวดเร็ว เกรงว่าจะเลือกด่านเฟิงเป่ย แต่สถานการณ์ในตอนนี้ด่านเหิงกู่วิกฤติยิ่งกว่า ตามข่าวของหลายวันมานี้ ทัพแคว้นจ้าวข้ามแม่น้ำได้สำเร็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทัพใหญ่สองแสนของนายของเจิ้นเป่ยอ๋องผู้นั้นอาจจะสูญเสียกำลังทหารอย่างหนัก...ฉะนั้นข้าคิดว่า อีกฝ่ายคงจะเลือกด่านเหิงกู่ เพื่อช่วยเจิ้นเป่ยอ๋องแก้ปัญหาจวนตัว”

ซือหม่าชิงอวิ๋นเองก็แอบครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ไม่ว่าจะเป็นทัพใหญ่ห้าแสนนายของแคว้นจ้าว หรือว่าทัพใหญ่หนึ่งแสนของโจวชิง ต่างก็สร้างแรงกดดันให้แก่ราชวงศ์อู่เป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน ทัพใหญ่ของโจวชิงใกล้จะตีด่านเฟิงเป่ยแตกแล้ว ทัพแคว้นจ้าวเองอีกไม่นานก็จะข้ามแม่น้ำได้เสร็จสมบูรณ์...”

“ทั้งสองฝ่ายล้วนเป็นสถานการณ์วิกฤติเช่นเดียวกัน ทว่าโจรจี้ผู้นี้มีสติปัญญาและมีแผนการที่ไร้ซึ่งผู้ใดเปรียบ ต้องมองความแตกต่างของสถานการณ์สงครามทั้งสองฝั่งออกแน่ ๆ จากนั้นก็ต้องไปสนับสนุนหรือพลิกสถานการณ์สงครามด้านหนึ่ง แต่ด้านนี้จะเป็นด้านไหนกันแน่?”

สองอาหลานพิจารณาอย่างล้ำลึก

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายแว่วมาจากด้านนอก ได้ยินพลทหารไม่น้อยกำลังตะโกนขึ้นว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน