องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 827

คืนนั้น

โรงเตี้ยมที่หลี่จุ่นเลือก ที่จริงแล้วคือสถานที่ที่ได้นัดหมายไว้กับทัวทัวและอาหยวนก่อนล่วงหน้าแล้ว เขาเตรียมจะแกล้งตายเพื่อเอาชีวิตรอดในครั้งนี้

ฉะนั้นจึงได้เรียกหม่าหยวนฮั่นและจงจื่อหนิงมาด้วย

เป้าหมายเพื่อให้คนที่วรยุทธ์สูงส่งได้เห็นกับตาของตนเอง

หม่าหยวนฮั่นนำข่าวที่ตนเสียชีวิตรายงานต่อลัทธิเทียนซาน หลังจากนี้ตนเองก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ลัทธิเทียนซานต้องการหาเรื่องตนอีก!

ส่วนจงจื่อหนิงเป็นฝ่ายที่สำคัญมาก!

เขาจำเป็นต้องเห็นว่าตนได้สิ้นลมหายใจอย่างแท้จริง เห็นว่าตนได้ตายไปแล้ว!

เช่นนี้ถึงจะทำให้หลี่เจิ้ง รวมถึงตาเฒ่าเหล่านั้นเชื่อสนิทใจว่าตนได้ตายแล้วจริงๆ!

แม้ว่าจะยังคงสงสัย แต่โอกาสในการเชื่อก็มีมากกว่า!

ด่านนี้ถือว่าได้ทำสำเร็จแล้ว

หลี่จุ่นเข้าใจนิสัยของหม่าหยวนฮั่นดี

ถ้าตนเองถูกลอบทำร้ายต่อหน้าเขา จะต้องเป็นคนแรกที่วิ่งออกไปไล่ล่า

เช่นนั้นก็เหลือแค่จงจื่อหนิงก็ต้องอยู่ดูแลตนเพียงลำพัง?

สิ่งสำคัญเรื่องที่สอง!

ใครจะสามารถช่วยชีวิตของตนจากวินาทีความเป็นความตายได้?!

นี่ถือเป็นด่านที่สำคัญอย่างยิ่ง…

ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมา ชีวิตของตนก็ต้องสังเวยอย่างแท้จริง!

สุดท้ายหลี่จุ่นก็ได้ตัวเฟิงฉีถัวแห่งแคว้นหนาน ซึ่งเป็นหมอเทวดาที่เลื่องชื่อไปทั่วใต้หล้า!

มีแค่เขาเท่านั้นที่จะสามารถช่วยตนได้ในเวลาใกล้จะสิ้นลมหายใจ!

เพื่อแผนการนี้ ตนได้ทำการทดสอบฝีมือการรักษาของเฟิงฉีถัวก่อนล่วงหน้า ซึ่งสมแล้วที่ถูกขนานนามว่าเป็นหมอเทวดา!

หลี่จุ่นได้เริ่มวางแผนการนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

ตั้งแต่แรก!

ตอนที่หลี่เจิ้งได้พระราชทานงานสมรสให้ตน ตั้งแต่ที่รู้ว่าหัวใจของตนโน้มเอียงไปทางด้านขวา

เขาก็ได้เริ่มวางแผนการแล้ว

เขาใช้สมาคมเทียนตี้เดินทางไปแคว้นหนานเพื่อตรวจสอบตระกูลเฟิง ขึ้นไปยังเมืองซ่างหยวน และทำการตรวจสอบตระกูลเฟิงอย่างละเอียดถี่ถ้วน

จึงรู้ว่าเฟิงฉีถัวกำลังกลุ้มใจกับหลานสาวของตน ก็คือเฟิงหลิงจือที่มีจุดดำทั่วใบหน้า!

จึงได้ส่งคนไปสอบถามอาการโรคจุดดำที่ใบหน้าของเฟิงหลิงจือ

หลี่จุ่นจึงตัดสินใจเริ่มลงมือจากเรื่องนี้!

หลังจากนั้นก็ส่งคนแฝงตัวเข้าไปในสำนักหมอหลวงเพื่อสืบหาประวัติของโรคนี้ และทำการค้นหาจากตำราทุกเล่ม

สุดท้ายก็เจอประวัติที่มีอาการคล้ายคลึงกัน

จากนั้นจึงนำข้อมูลส่งกลับไปที่แคว้นหนาน ผ่านคนกลางที่มีประสบการณ์ด้านการสนทนา แฝงตัวเป็นผู้ป่วยเข้าไปรับการรักษา ทำให้เฟิงฉีถัวค่อยๆเข้าใจขึ้นมาทีละน้อย

มิหนำซ้ำ

หลี่จุ่นยังได้นำข้อมูลสำคัญจากโลกอนาคตที่เกี่ยวกับจุดดำและฝ้ากระ จากนั้นก็ใช้วิธีเดิมโดยการส่งคนให้ข้อมูลเฟิงฉีถัวไปวิเคราะห์ไตร่ตรอง

แต่คาดไม่ถึงว่าจะได้พบปะกับคนของลัทธิขงจื๊อ…เดิมทีคิดว่าแผนการอาจจะต้องล้าช้าไปแล้ว

แต่อาหยวนก็หาตนจนเจอได้สำเร็จ

เรื่องราวหลังจากนั้น ก็เป็นดังนี้

ส่วนเรื่องที่หลี่จุ่นรู้ได้อย่างไรว่าหัวใจของตนเอียงไปทางด้านขวา?

ที่จริงแล้วก็คือระหว่างที่เจียงเยว่ฉานได้สอนวรยุทธ์ให้ตนเอง ก็สังเกตได้ว่าจังหวะการเต้นของหัวใจของตนเองนั้นไม่เหมือนกับคนปกติทั่วไป

เมื่อสังเกตดูอย่างละเอียดจึงรับรู้ได้ว่าหัวใจของตนเอียงไปทางขวา ที่แท้ก็หันไปทางตำแหน่งด้านขวา!

เมื่อเป็นเช่นนี้ แผนการแกล้งตายของเขาก็ค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

แต่ว่า เจียงเยว่ฉานจะสงสัยหรือไม่?

คงจะสงสัยอยู่แล้ว เมื่อเอ่ยถึงวรยุทธ์ของเจียงเยว่ฉาน สำหรับเขาแล้วในปฐพีนี้ไม่มีใครเทียบได้!

และนางก็สังเกตได้ว่าหัวใจของตนเอียงไปทางขวา แต่หม่าหยวนฮั่นและจงจื่อหนิงที่ติดตามเขามานาน และเป็นผู้มีวรยุทธ์สูงส่งเช่นกัน แต่พวกเขากลับไม่รู้สึกเอะใจเลยสักนิด

จึงเห็นได้ว่า วรยุทธ์ของเจียงเยว่ฉานอยู่ในระดับขั้นที่สูงกว่า!

ฉะนั้น คนที่สงสัยว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่นั้นคงจะมีแค่เจียงเยว่ฉานเพียงคนเดียวเท่านั้น!

แต่ว่า หลี่จุ่นยังคงกังวลใจ

ถึงแม้ว่านางจะสงสัยว่าตนเองยังไม่ตาย ก็ต้องหาหลักฐานให้ได้ก่อน!

อีกอย่าง ยังไงก็ต้องหาตนจนเจอ!

ส่วนหลักฐานเหล่านี้ หลี่จุ่นได้กำชับให้ทัวทัวกับอาหยวนกำจัดอย่างสิ้นซาก และยังใช้ความสัมพันธ์ทางยุทธภพที่ตนบ่มเพาะมานาน ทำลายทิ้งแล้ว!