เวลาหนึ่งเค่อผ่านไป
ภายในห้องโถงของอาราม
เฟิงอู่หังแม้จะพูดจาไม่ให้เกียรติ แต่ก็พาหลี่จุ่นทั้งสองเดินเข้าไปด้านในอาราม
มิหนำซ้ำ ยังลงมือชงชาให้กับทั้งสองดื่ม
ขณะที่ดื่มชากันอยู่ เมื่อฟังเฟิงฉีถัวพูดจบ เฟิงอู่หังก็เอ่ยขึ้นอย่างเสียงดังว่า
“มานี่ เจ้าหนุ่ม ให้ข้าดูบาดแผลของเจ้าหน่อย!”
“ขอรับ ท่านอาวุโส!”
หลี่จุ่นเรียกท่านอาวุโสอย่างเคารพ
และถอดเสื้อคลุมออกโดยทันที เปิดบาดแผลตรงหน้าอกออกมาให้ดู
เฟิงอู่หังจ้องเข้าไปดูใกล้ๆอยู่พักใหญ่ สีหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน คล้ายกับว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
เอ่ยขึ้นมาอย่างเร่งรีบว่า
“เจ้าบอกว่าช่วงนี้กำลังและความอึดทนของเจ้าทวีมากขึ้นงั้นหรือ?”
หลี่จุ่นพยักหน้าและเอ่ยขึ้นว่า “ขอรับ ท่านอาวุโส!”
เฟิงอู่หังรีบคว้ามือของหลี่จุ่นไว้ จากนั้นก็ตรวจจับชีพจรให้เขา
ผ่านไปพักใหญ่แววตาก็เปล่งประกายขึ้นมาฉับพลัน และเอ่ยปากพูดขึ้นว่า
“เยี่ยม เยี่ยมมากๆ! ช่างวิเศษจริงๆ ช่างวิเศษจริงๆ! ”
“พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้น…” เฟิงฉีถัวเอ่ยถามอย่างเร่งรีบ
แต่ทว่า!
เฟิงอู่หังปล่อยมือของหลี่จุ่นลง และลูบเครายาวของตน จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังแล้วเอ่ยว่า
“เทพเจ้าช่างดีต่อข้าจริงๆ มอบลูกศิษย์ให้ข้าในช่วงวัยที่ใกล้จะเข้าโลงศพ เพื่อให้วรยุทธ์ของข้าได้สืบทอดต่อไปอยู่บนโลกนี้”
นี่…
หลี่จุ่นและเฟิงฉีถัวต่างพากันตกใจ!
หมายความว่า…ข้อจำกัดการฝึกวรยุทธ์ของหลี่จุ่นได้เปลี่ยนไปแล้ว!
เฟิงฉีถัวรู้สึกร้อนใจ เอ่ยถามขึ้นอย่างเร่งรีบว่า
“พี่ใหญ่ ท่านพูดให้ชัดเจนหน่อยสิ เกิดอะไรขึ้นกับจิ่งจุ่นหรือ?”
เฟิงอู่หังกลับหัวเราะขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“เป็นเรื่องดี เป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง! โธ่ น้องชาย ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้เอาอะไรมาฝากข้า แต่กลับนำของวิเศษมาให้ข้า!”
หลี่จุ่นได้ยินดังนั้นก็รู้สึกร้อนใจ!
ชายชราผู้นี้ช่างเรื่องมากจริงๆ!
จากนั้นก็มองไปที่หลี่จุ่นอย่างไม่พูดไม่จา สักพักก็เอ่ยขึ้นว่า
“เจ้าหนุ่ม เจ้าพูดเกินจริงไปแล้ว…”
“เอ่อ…แล้วที่จริงคือ…”
ทันใดนั้นหลี่จุ่นก็เกาหัวขึ้นมาอย่างวางตัวไม่ถูก
เฟิงอู่หังจึงเอ่ยขึ้นว่า
“เส้นลมปราณเริ่นตูเป็นส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของชีพจรพลังภายใน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะสามารถควบคุมพลังภายในได้แค่บางส่วนเท่านั้น ที่เหลือก็จะถูกปิดกั้นเอาไว้”
“และคนที่สามารถฝึกฝนวรยุทธ์ได้ดีเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถควบคุมชีพจรพลังภายในได้เท่าไหร่ ยิ่งมากก็ยิ่งเป็นผลดี และถ้าสามารถเคลื่อนไหวได้ทุกส่วนถือว่าดีที่สุด”
“มีอย่างหนึ่งที่เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง ถ้าเส้นชีพจรพลังภายในเคลื่อนไหวได้ทั้งหมด ก็จะใช้พลังภายในได้อย่างเต็มที่ การฝึกฝนวรยุทธ์ก็จะรวดเร็วกว่าคนทั่วไป”
“แต่จะสามารถฝึกวิชาลับของสำนักหนึ่งได้สำเร็จหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเส้นลมปราณเคลื่อนไหวได้มากเพียงใด แต่ขึ้นอยู่กับสติปัญญาและไหวพริบปฏิภาณของเจ้า ยังมีอีกอย่าง เรื่องที่จะสามารถชนะผู้อื่นได้หรือไม่นั้น ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของเส้นลมปราณ”
“เป็นเช่นนี้นี่เอง ข้าเข้าใจแล้ว!”
หลี่จุ่นพยักหน้า!
ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน!
คิดไม่ถึงเลยว่า จู่ๆตนเองก็สามารถฝึกฝนวรยุทธ์ได้แล้ว!
เหมือนกำลังอยู่ในความฝัน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...