หลี่จุ่นตกตะลึงในทันที
ได้ไง?
หากนางไปด้วย แล้วเขาจะร่วมทำสงครามรักสามร้อยเพลงรบกับทัวทัวและอาหยวนได้ยังไง
มันเป็นไปไม่ได้
“เอ่อ พี่หลิงจือ ไม่เห็นต้องทำถึงเพียงนั้นเลย...”
หลี่จุ่นแสดงสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย
ทว่า
เฟิงหลิงจือกลับมีท่าทีเด็ดขาด และพูดว่า
“ไม่ได้ จิ่งจุ่น แม่นางตระกูลจิ่งทั้งสองต่างเป็นหญิงที่ออกเรือนแล้ว หากเจ้าไปไหนมาไหนกับพวกนางตามลำพังย่อมส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของพวกนางอย่างมาก และยังส่งผลเสียต่อตัวเจ้าเองเช่นกัน”
หลี่จุ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย
แอบพูดในใจว่าเจ้ายังไม่ออกเรือน ข้าก็ยังไปเที่ยวเล่นกับเจ้าบ่อยๆ เหตุใดไม่กังวลชื่อเสียงและเกียรติยศของตัวเองบ้างล่ะ
แต่ก็เพราะเฟิงหลิงจือหวังดีต่อเขา หลี่จุ่นเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดีจึงพูดว่า
“ก็ได้ พี่หลิงจือ เช่นนั้นแล้วข้าก็จะพาท่านไปด้วย”
“พี่จุ่น ท่านพี่ ข้าก็อยากไป”
ในเวลานี้
เฟิงหลิงหวนเด็กสาวผมแกะวิ่งเข้ามาพร้อมตะโกนดังลั่น
ทั้งสองคนที่อยู่ในห้องตกตะลึงก่อนจะหันหน้ามายิ้มให้กัน
หลี่จุ่นลูบศีรษะของเด็กสาวพลางพูดว่า
“ก็ได้ งั้นก็พาเสี่ยวหวนไปด้วย”
แผนการของหลี่จุ่นที่ต้องการใช้โอกาสนี้สานสัมพันธ์กับทัวทัวและอาหยวนล้มเหลวจึงทำได้เพียงยกเลิก
เขาตัดสินบอกแผนการต่อไปของตนกับพวกนางเมื่อไปถึงหอชุนเฟิงในวันพรุ่ง
เขามาที่แคว้นหนานไม่ใช่เพราะเฟิงฉีถัวพาเขามาแคว้นหนานเพื่อช่วยเขา แต่เขาใช้โอกาสนี้ย้ายศูนย์กลางอำนาจของตนเองมาแคว้นหนานด้วย
แม้แต่
ขุนนางใหญ่ในราชสำนักจากตระกูลเฟิงผู้นั้นก็เป็นเป้าหมายของเขาเช่นกัน
กระนั้นเขาจึงแสร้งความจำเสื่อมและอาศัยอยู่ในตระกูลเฟิงต่อไปเพื่อหาทางติดต่อกับคนๆ นั้น
และคนๆ นี้สามารถช่วยให้เขาติดต่อกับจักรพรรดินีได้ การติดต่อกับจักรพรรดินีนั้นก็เพื่อช่วยอวี้เซียงแก้แค้นและเพื่อบรรลุความร่วมมือกับจักรพรรดินี
เพราะราชวงศ์อู่เป็นภัยคุกคามอันใหญ่หลวงที่สุดของจักรพรรดินีและหลี่เจิ้งก็คืออุปสรรคอันใหญ่หลวงที่สุดในการสืบต่อราชบัลลังก์
ตอนนี้เขาไม่สามารถหาเงินจากการค้าของตนในเมืองหลวงได้จึงทำได้เพียงวางแผนการค้าอื่นเพื่อสร้างรายได้ใหม่
มีเงินทำอะไรก็ง่าย
กระนั้น
เขาเตรียมเริ่มแผนการค้าใหญ่ของตนในแคว้นหนาน แล้วเรียนวรยุทธ์กับเฟิงอู่หังและอาหยวนเพื่อพัฒนาความสามารถในการต่อสู้ตัวต่อตัวของตน จากนั้นค่อยๆ วางแผนการต่อไป
หลังจากนั้นก็เกณฑ์ทหารและซื้อม้า... ไปล้างแค้น
ความแค้นระหว่างเขากับหลี่เจิ้งควรถึงเวลาปิดฉากเสียที
เขาไม่คิดจะเขียนนิยายแนวไซอิ๋วหรือห้องสินอะไรทำนองนี้แล้ว
และครั้งนี้ไม่คิดจะขายแบบเปิดเผย แต่อยากลักลอบขาย
แล้วหนังสืออะไรที่สร้างรายได้และทำให้ลูกค้ายอมจ่ายเงินล่ะ
แน่นอนว่าต้องเป็นบุปผาในกุณฑีทอง
ทว่า
แม้ว่าเขาจะจำเนื้อหาของสี่สุดยอดวรรณกรรมจีนได้ถึงร้อยละแปดสิบก่อนข้ามมิติมา แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนจริงจังเช่นนี้จะอ่านหนังสืออย่างบุปผาในกุณฑีทองได้อย่างไรกัน
แม้ว่าหนังสือนี้จะได้รับการยกย่องอย่างสูง มีคนบอกว่าเรื่องนี้ควรเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีน แต่เขาเป็นคนจริงจัง
เขาอ่านแค่ไป่เจี๋ย
อาปินกับคุณป้าเจ้าของห้องอะไรทำนองนี้เท่านั้น
หลี่จุ่นตัดสินใจไม่ลอกแล้ว แต่จะเขียนเอง แต่งเอง
เพราะเขาเขียนมันได้
และเชี่ยวชาญอย่างมาก
ก็แค่หนังสือลามกเท่านั้น
ความรู้ที่มีในหัวบวกกับประสบการณ์จริงจะเอาชนะใจผู้คนในสังคมดั้งเดิมนี้ไม่ได้เชียวหรือ
เป็นไปไม่ได้
หลี่จุ่นมั่นใจอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...