วันรุ่งขึ้น หลี่จุ่นตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่
หลังล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้วก็ไปฝึกหมัดมวยที่ลานจวน
เป็นดังคาด
นับตั้งแต่ที่ตนเปิดเส้นลมปราณเริ่นตู ร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และการนอนหลับก็ดีขึ้นมาก
ฝึกฝนปาจี๋ฉวนจนครบกระบวนท่า แต่ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย
“เสี่ยวจุ่น ตื่นแต่เช้าเลยนะ”
ลุงสองของตระกูลเฟิงเป็นลูกของอนุของตระกูลเฟิงเดินมาจากทางเดินในลานจวนขณะที่หลี่จุ่นกำลังฝึกฝนอยู่
หัวเราะพลางมองหลี่จุ่น เมื่อเห็นหลี่จุ่นดูสดชื่นมากจึงยิ้มอย่างอิจฉาและพูดว่า
“วัยหนุ่มสาวช่างดีเสียจริง ดูกระปรี้กระเปร่า”
“ท่านลุงเป่าหลิน ท่านช่างพูดจาน่าขัน ตอนนี้ท่านลุงเป่าหลินเพิ่งสี่สิบกว่าๆ กำลังอยู่ในวัยฉกรรจ์เลย”
หลี่จุ่นหยุดฝึกทันที
เฟิงเป่าหลินเป็นผู้นำเรือนรองของตระกูลเฟิง มีลูกชายหนึ่งหญิงหนึ่ง แต่ทั้งคู่อายุยังไม่ถึงสิบขวบ
เขาเป็นคนมีการศึกษา พูดง่ายๆ ก็คือหนอนหนังสือ
แต่คนๆ นี้มีบุคลิกเฉพาะตัว
น้องชายของเขาก็คือขุนนางใหญ่ในราชสำนักคนนั้น เคยแนะนำให้เขาเข้ารับราชการในราชสำนัก แต่เขาไม่ยอมเพราะรังเกียจที่จักรพรรดิเป็นหญิง
จึงปฏิเสธความหวังดีของน้องชายอย่างเด็ดขาด
ตั้งใจทำการค้าของตระกูลเฟิงต่อไปอย่างสบายใจ
แน่นอนว่าเขาไม่เก่งเรื่องการค้า
ตอนนั้นเรือนใหญ่มอบร้านขายยาให้เขาเพื่อลองมือ แต่ปรากฏว่าร้านขายยาขาดทุนจนติดลบ ภายหลังให้เขาทำการจัดซื้อพืชสมุนไพรยาจีน แต่ปรากฏว่าร้านขายยาขาดสินค้าติดต่อกันครึ่งเดือน
เล่นเอาเฟิงฉีถัวและเรือนใหญ่ตกใจกลัวจนไม่กล้าให้เขาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการค้าอย่างจริงจังอีกเลย
ตอนนี้เขาก็เลยรับผิดชอบเก็บค่าเช่าของตระกูลเฟิง
เพราะมันง่ายมากจริงๆ เมื่อถึงเวลาเก็บค่าเช่า เพียงรอให้ผู้เช่ามาจ่ายค่าเช่าก็พอแล้ว
เขาไม่จำเป็นต้องวิ่งไปไหนมาไหนและไม่ต้องคอยชี้นิ้วสั่งการ
ประจวบเหมาะที่เขารู้วิธีคำนวณ การเก็บเงินจึงเหมาะสมกับเขาที่สุดแล้ว
เฟิงเป่าหลินส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า
“เอ่อ เสี่ยวจุ่น ลุงมีเรื่องจะคุยกับเจ้าหน่อย ตอนนี้สะดวกหรือไม่”
“สะดวกสิท่านลุง ท่านพูดมาเถอะ”
หลี่จุ่นพยักหน้า
พลางคิดในใจว่าลุงสองของตระกูลเฟิงมาหาตนด้วยเรื่องอะไร
เฟิงเป่าหลินรีบพูดว่า
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวลเลย ตระกูลเฟิงก็เคยทำร้านหนังสือมาก่อน เพียงแต่ต่อมาน้องสามข้าได้เป็นขุนนางในราชสำนักจึงไม่มีใครทำต่อ ก็เลยต้องหยุดไป”
“แต่ของทุกอย่างที่ควรมียังอยู่ครบ ที่ศาลาว่าการก็ยังมีสำเนา เพียงแค่เปิดร้านใหม่ก็พอแล้ว ข้าคิดว่าลองดูก็ไม่เสียหาย”
หลี่จุ่นลูบคางพลางครุ่นคิด
บางทีงานเขียนหนังสือลามกของตนอาจให้เฟิงเป่าหลินเอาไปขายได้ แต่ลุงสองของตระกูลเฟิงคนนี้ แค่ดูก็รู้ว่าเป็นคนสุภาพ
เขาจะชี้หน้าด่าว่าตนแรงๆ ไหมอ่ะ
ด่าว่าตนมีความคิดสกปรก
หลี่จุ่นรู้สึกลังเลเล็กน้อย
เขาครุ่นคิดชั่วขณะก่อนจะถามว่า
“ท่านลุง ข้าขอถามหน่อย หากให้ท่านลักลอบขายหนังสือนี้ ท่านจะขายได้หรือไม่”
เฟิงเป่าหลินครุ่นคิดชั่วขณะก่อนจะพยักหน้าช้าๆ แล้วพูดว่า
“หากเรื่องราวน่าสนใจ เรื่องนี้ไม่ยาก เมื่อตอนที่น้องสามข้าเพิ่งเริ่มทำร้านหนังสือก็ลักลอบขายมาก่อน ภายหลังถึงเปิดร้านหนังสืออย่างเป็นทางการ”
หลี่จุ่นได้ยินดังก็ตาลุกวาวทันที
เห็นทีน่าจะได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...