เมืองซ่างหยวนเพิ่งเปิดตัวอาหารใหม่ที่เรียกว่าหม้อไฟ
ในวันแรกของการเปิดกิจการ ครอบครัวที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในเมืองซ่างหยวนได้ส่งคนมามอบของขวัญเพื่อสนับสนุน
ได้ยินมาว่าเจ้าของร้านเป็นเพื่อนของเฟิงเป่าหลินแห่งตระกูลเฟิง และใช้ชื่อเสียงของตระกูลเฟิงเชิญแขกมาให้เกียรติ
ไปก็ไป ลองไปดูก็ไม่ได้เสียหายอะไร
ไม่สำคัญว่าอาหารจะเป็นอย่างไร
นายท่านเฟิงเป็นถึงหมอเทวดา แม้แต่จักรพรรดิหญิงองค์ปัจจุบันยังต้องเชิญเขามารักษาให้ การให้เกียรติตระกูลเฟิงก็เหมือนเป็นการให้ชีวิตตระกูลตนเองในอนาคต
ด้วยความคิดนี้ทุกคนก็ไปด้วยความยินดี
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเฟิงนั้นเป็นงานรักษาหน้าตามีแต่ได้ไม่เสียแน่นอน
แต่ทว่า!
ใครจะไปคิดว่านี่เป็นวันที่สองแล้ว
คนที่ไปสนับสนุนวันแรกต่างก็พาลูก ๆ ของตัวเองไปที่นั่นกันอีกครั้ง และในวันที่สามก็ไปอีกครั้ง
สิ่งนี้ทำให้หลายคนที่ไม่ได้ไปรู้สึกประหลาดใจและตกใจ!
คิดในใจว่ามันแปลก ทำไมตระกูลเฟิงถึงเชิญแขกมาทุกวัน แล้วร้านนี้จะเปิดหรือไม่เปิดกันแน่
เมื่อคิดเช่นนี้ก็มีหลายคนลองไปดู
ผลลัพธ์
เมื่อมองแวบเห็นข้างนอก “ร้านหม้อไฟจิ่งเจีย” ทางตะวันออกของเมือง มีรถม้าทุกที่และมีผู้คนมากมาย
นอกจากนี้ยังมีผู้คนมากมายที่ออกมาด้วยความอิ่มเอมใจ ดูเหมือนว่าใบหน้าทุกคนแดง ๆ เหมือนโดนนึ่งมา
เกิดอะไรขึ้น
พอถามก็พบว่าอาหารประเภทนี้ก็คือน้ำซุปรสเผ็ด
น้ำซุปรสเผ็ดนี้เป็นซอสอันเป็นเอกลักษณ์ทางแคว้นหนาน ในช่วงฤดูฝนที่ชื่นฉ่ำนี้กินเพียงคำเดียวก็สามารถขจัดความชื้นออกจากร่างกายและทำให้ร่างกายอบอุ่นได้
แต่ว่าของพวกนี้ก็คงกินเยอะไม่ได้หรอกมั้ง
มันจะอร่อยไหมนะ
เอาเถอะ ลองเข้าไปชิมดูละกัน
ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คน ต่างก็เข้าแถวรอคิว ในที่สุดคนที่มาดูอยากรู้อยากเห็นก็ไปลองชิม
ผลลัพธ์ของการชิมก็คือ ไม่มีวันลืมรสชาติมันได้!
กลับบ้านไปพยายามลองทำเอง แต่ก็ทำไม่ได้อร่อยเหมือนของเขา ผลลัพธ์ก็คือวันรุ่งขึ้นก็ต้องวิ่งกลับไปกินอีก
หลี่จุ่นมั่นใจมานานแล้วว่าธุรกิจร้านหม้อไฟจะต้องออกมาดี แต่ไม่คิดว่าจะดีขนาดนี้ ผ่านมาห้าวันร้านหม้อไฟก็ยังเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
ต้องรับลูกค้าสองถึงสามร้อยคนตลอดทั้งวัน!
เยี่ยมไปเลย!
เกือบจะกินกันจนวัตถุดิบของร้านหม้อไฟขาดตลาดแล้ว
หลี่จุ่นคิดสักพักแล้วพูดกับเฟิงหลิงจือทันทีว่า
“พี่หลิงจือ เงินก่อนหน้านี้ทั้งหมดยืมมาจากตระกูลเฟิง ตอนนี้ได้คืนมาแล้วก็ต้องคืนก่อน แต่ข้าตั้งใจว่าจะใช้มันเปิดร้านเพิ่มอีกสองร้าน แล้วค่อยจ่ายคืนทีหลัง พี่คิดว่าอย่างไร!
เฟิงหลิงจือกล่าวทันทีว่า
“เจ้า เจ้า ไม่ต้อง...คืนมันเมื่อไหร่ก็ได้”
ท่านแม่ของนางเองก็จะเอาเขามาเป็นลูกเขยแล้ว เงินแค่นี้ต่อให้ไม่คืน ท่านแม่ก็ไม่ได้สนใจ ตระกูลเฟิงไม่ได้ขาดแคลนกับเงินอีแค่นี้
อีกทั้งยืมเงินไม่คืน งั้นท่านแม่ก็คอยแต่จะดีใจมากขึ้นเท่านั้น
หลี่จุ่นพยักหน้า ก่อนจะพูดว่า
“เอาล่ะ งั้นอย่าเพิ่งบอกคนในครอบครัวเลย อีกสักสองวันข้าจะไปเปิดอีกสองแห่งที่ถนนประจิมและถนนอุดรเพื่อขยายความครอบคลุม แบบนี้จะดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นและทำกำไรได้เร็วขึ้น”
“อืม ตามที่เจ้าว่าเลย...” เฟิงหลิงจือพูดด้วยใบหน้าที่แดงเล็กน้อย
ทั้งสองคุยกันอย่างสนิทสนม ซึ่งทำให้ทัวทัวและอาหยวนรู้สึกอิจฉา
ทัวทัวเตะหลี่จุ่นใต้โต๊ะทันที หลี่จุ่นมองลงไปและทัวทัวก็ยกกระโปรงขึ้น
จากนั้นดวงตาของหลี่จุ่นก็หดตัวลงทันที!
ให้ตายเถอะ!
นี่มันป่าดงดิบชัด ๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...