วันที่สอง
หลี่จุ่นยังไม่ทันตื่นนอน เฟิงเป่าจินก็เข้ามาหาและเอ่ยขึ้นทันทีว่า
“ฝ่าบาทต้องการพบเจ้า ตามข้ามา”
จักรพรรดินีต้องการพบข้า?
หลี่จุ่นอึ้งอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้า
หลังจากล้างหน้าแต่งตัวเสร็จ ก็เดินตามเฟิงเป่าจินออกจากห้อง
ระหว่างทาง เฟิงเป่าจินได้ปิดตาของหลี่จุ่นเอาไว้
เมื่อมาถึงค่ายทหาร
จักรพรรดินีรับสั่งให้หลี่จุ่นเข้าไปลำพัง
หลี่จุ่นยักไหล่ขึ้น และรู้แล้วว่าจักรพรรดินีก็คือาจารย์เผียนอีของตน จึงไม่รู้สึกเกรงกลัวอย่างใด
“ถวายบังคมฝ่าบาท!”
หลี่จุ่นเข้ามาด้านในกระโจมแม่ทัพ ท่าทางเคารพนอบน้อม
หลังฉากบังลม เสียงนุ่มนวลชวนฟังของจักรพรรดินีดังขึ้นอีกครั้ง
“ข้าจะยอมเชื่อเจ้าสักครั้งว่าเป็นคนของลัทธิขงจื๊อ เจ้าลองเอ่ยมาสิว่า ที่เจ้ามาแคว้นหนานมีเป้าหมายเพื่ออะไร?”
หลี่จุ่นอึ้งไปชั่วครู่ เชื่อเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?
เขาใคร่ครวญสักพักก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ฝ่าบาท ฝ่าบาทติดต่อกับพี่เมิ่งของข้าได้แล้วหรือ?”
แน่นอนว่าเขาจงใจถามคำถามเพื่อหาข้ออ้าง
ถ้าติดต่อได้จริง ก็ต้องทราบสถานะที่แท้จริงของตน จักรพรรดินีจะเสียเวลามาเอ่ยถามตนอีกหรือ?
“เจ้าตอบข้ามาตามความจริง” จักรพรรดินีเอ่ยขึ้น
เสียงนี้ไม่เหมือนกับเสียงของอาจารย์เผียนอี คาดว่าคงจะจงใจเปลี่ยนเสียง
ช่างลำบากนางจริงๆ
หลี่จุ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย
แต่ทำไมฟังแล้วรู้สึกราวกับว่ากำลังทดสองตนอยู่!
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าลัทธิขงจื๊อกับจักรพรรดินีมีความเกี่ยวข้องกัน การปรากฎตัวที่นี่ของจักรพรรดินี เป็นเพราะต้องการโจมตีราชวงศ์อู่อย่างแน่!
แต่จะออกรบเมื่อไหร่ล่ะ?
ถ้าหากว่าตนตอบผิด คงต้องแย่แน่ๆ
ควรจะพูดตอบอย่างไรดี?
หลี่จุ่นใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ฝ่าบาท ความหมายของพี่เมิ่งก็คือ…ภายในสิบวัน ต้องโจมตีราชวงศ์อู่!”
“ภายในสิบวัน?”
เสียงของจักรพรรดินีมีความประหลาดใจ ราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อ จึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า
จักรพรรดินีเดินออกมาจากฉากบังลม ยืนอยู่ตรงหน้าเฟิงเป่าจิน จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นว่า
“เสนาบดีเฟิง เจ้าหนุ่มนั่นบอกว่าลัทธิขงจื๊อให้พวกเรานำทัพโจมตีราชวงศ์อู่ภายในสิบวัน เรื่องนี้ท่านคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
สีหน้าเฟิงเป่าจินตกตะลึง เอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำอย่างฉับพลันว่า
“ฝ่าบาท เขา เขาเป็นคนของลัทธิขงจื๊อจริงหรือ?”
จักรพรรดินีส่ายหน้าและเอ่ยขึ้นว่า
“เขาจะเป็นคนของลัทธิขงจื๊อหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ จะเป็นคนของลัทธิขงจื๊อหรือจะเป็นคนของจักรพรรดินีอู่ส่งมาทดสอบข้าก็ช่าง ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถขัดขวางข้านำทัพโจมตีราชวงศ์อู่ได้ แต่ข้าก็หวังว่าเขาจะเป็นคนของลัทธิขงจื๊อ”
เฟิงเป่าจินขมวดคิ้ว และเอ่ยขึ้นทันทีว่า
“ฝ่าบาท เวลานี้เสบียงอาหารยังไม่พร้อม ถ้าออกรบเวลานี้ เกรงว่าจะไม่เหมาะสม!”
เสบียงอาหารต้องขนส่งมาจากเมืองหลวง บัดนี้ยังมาไม่ครบ
ออกทัพเวลานี้ ถ้าหากเกิดการปะทะขึ้นมา เสบียงอาหารตามมาไม่ทัน ก็เท่ากับส่งทหารไปตาย
จักรพรรดินีขมวดคิ้วและเอ่ยขึ้นว่า
“เสนาบดีเฟิง ข้าได้รับข่าวสารมาว่า…เสิ่นคั่วเสียชีวิตแล้ว และ หน่วยข่าวลับของเสิ่นคั่วได้หายสาบสูญไป ด้านข่าวสารของจักรพรรดิอู่ดูเหมือนจะไม่รวดเร็วเช่นเดิม ถ้าหากว่าพวกเราออกรบเวลานี้ ไม่แน่ว่าอาจจะโจมตีให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้อย่างตั้งรับไม่ทัน”
“ว่าไงพ่ะย่ะค่ะ? เสิ่นคั่วเสียชีวิตแล้ว?” เฟิงเป่าจินรู้สึกตกตะลึงอย่างสุดขีด!
สำหรับแคว้นหนานแล้ว สามผู้มีอิทธิพลของราชวงศ์อู่ คนที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่จี้จงชิง และก็ไม่ใช่อวี่เหวินจิ้งไท่ซือ แต่คือเสิ่นคั่ว!
ตอนนี้ เสิ่นคั่วเสียชีวิตกะทันหัน?!
เป็นเรื่องที่น่าทึ่งอย่างมาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...