องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 9

สามปัญหาหินที่ราชทูตแคว้นหลางนำมาสะเทือนเลือนลั่นไปทั่ววังหลวงในคืนนั้นเลย!

พอหลี่เจิ้งเห็นตัวอักษรพิลึกกึกกือนั่นแล้วก็เปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน ถามฮองเฮาและบรรดานางสนมทั้งวังหลวง แล้วยังรบกวนไปถึงไทฮองไทเฮาด้วย แต่ก็ไม่มีใครรู้จักตัวอักษรที่มีลักษณะพิลึกพิลั่นนั่น

แม้แต่หลี่เหวินจวินผู้ได้สมญานามว่ามีสติปัญญาเฉลียวฉลาดที่สุดในปฐพีก็ยังจนปัญญา

ไม่เคยพบเคยเห็นตัวอักษรเช่นนั้นเลย!

หลี่เจิ้งเรียกคนใหญ่คนโตในราชสำนักทั้งหมดเข้าวังในคืนนั้น

ขุนนางบุ๋นบู๊ผู้ที่อยู่ในเมืองหลวงจะต้องเข้าวังหมด

ทว่า...

ก็ไม่มีใครรู้จักสักคนเดียว

หลี่เจิ้งนั่งอยู่บนบัลลังก์ ทั้งร้อนใจทั้งโมโหโกรธา เกรี้ยวกราดอย่างหนัก “ราชวงศ์อู่อันกว้างใหญ่ของเรา กลับไม่มีใครรู้จักตัวอักษรนี่ หรือว่าราชวงศ์อู่เราจะไร้ความสามารถเช่นนี้เลยรึ!”

พรุ่งนี้เช้าราชทูตแคว้นหลางก็จะเข้าวังเข้าเฝ้าแล้ว!

อีกฝ่ายต้องการใช้สามปัญหานี้ทดสอบขุนนางบุ๋นบู๊ของราชวงศ์อู่ หากตอบไม่ได้ต้องขายหน้าหมดแน่ หลี่เจิ้งคงเงยหน้าต่อหน้าแคว้นต่าง ๆ ไม่ได้อีก

แต่...

ปัญหาใหญ่ในเวลานี้มิใช่การตอบปัญหาได้หรือไม่

แม้แต่คำถามก็อ่านไม่ออก แล้วจะตอบได้อย่างไร!

“เสด็จพ่อ หม่อมฉันตอบปัญหาข้อแรกได้เพคะ แต่ข้อที่สองและข้อที่สาม หม่อมฉันความรู้ตื้นเขินกลับไม่รู้จัก...เกรงว่าแคว้นหลางนั่นคิดจะกลืนกินพวกเราแต่แรกแล้วแน่” หลี่เหวินจวินพูดขึ้น

ปัญหาข้อแรกไม่นับว่ายากเท่าไร ต่อให้ไม่ใช่หลี่เหวินจวินก็ต้องมีคนในราชสำนักไขปัญหาได้อยู่ดี

อวี่เหวินจิ้งไท่ซือในรัชกาลปัจจุบันกล่าวขึ้นทันที “ฝ่าบาท หนนี้ราชทูตแคว้นหลางมาเยี่ยมเยือนราชสำนักเราเช่นนี้ คงต้องการผลประโยชน์อะไรจึงคิดแผนการเจ้าเล่ห์ บัดนี้พวกเราไม่รู้จุดประสงค์ของอีกฝ่าย มิสู้รอให้พรุ่งนี้ราชทูตมาก่อนค่อยแก้ไขตามสถานการณ์ ราชวงศ์อู่อันกว้างใหญ่ไพศาลของเรา ย่อมมีความใจกว้างเยี่ยงแคว้นใหญ่พ่ะย่ะค่ะ”

พออวี่เหวินจิ้งเอ่ยปากก็มีคนจำนวนมากเห็นด้วยทันที

หลี่เจิ้งย่อมเจ็บใจอยู่แล้ว สีหน้าปั้นยาก ทว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้ เอาแต่ยุ่งวุ่นวายกันเองอยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์ จึงได้แต่พูดว่า

“ดูท่าคงได้แต่ทำอย่างนี้แล้ว แคว้นหลางชั่วช้ายิ่งนัก ถึงกับใช้วิธีต่ำทรามเยี่ยงนี้!”

หลี่เจิ้งออกคำสั่งเลิกการประชุม จากนั้นเจาะจงให้หลี่เหวินจวินอยู่ต่อ ก่อนจะถามขึ้น

“จวินเอ๋อร์ เจ้าเคยเห็นตัวอักษรเช่นนี้หรือไม่”

หลี่เหวินจวินส่ายหน้า ขมวดคิ้วมุ่น ตรึกตรองอย่างหนักแล้วตอบ

“แม้หม่อมฉันจะศึกษาตำราโบราณมามาก ตัวอักษรของแคว้นต่าง ๆ ก็เคยศึกษา แต่ไม่เคยพบตัวอักษรเช่นนี้มาก่อนเลย ตัวอักษรนี้กลับคล้าย...ตัวอักษรของตะวันตกที่กล่าวถึงในบันทึกการเดินทางเล่มหนึ่งเพคะ”

“ตัวอักษรทะเลทิศประจิม?”

หลี่เจิ้งขมวดคิ้ว “นั่นเป็นตัวอักษรเยี่ยงไร”

หลี่เหวินจวินอธิบาย “ยังมีอีกแคว้นหนึ่งอยู่ทางตะวันตกอันไกลโพ้น นอกมหาสมุทรไร้ขอบเขต คนสมัยก่อนเคยพบปะกับพวกเขา เรียกทางนั้นว่าทะเลทิศประจิมเพคะ”

หลี่เจิ้งกำลังคิด แต่ก็ส่ายหัวพลัน ถอนหายใจเอ่ย

“เฮ้อ จวินเอ๋อร์ ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชวงศ์อู่เราไม่มีใครรู้ตัวอักษรเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรอะไรก็ไม่สำคัญ”

หลี่เหวินจวินนิ่งงันไม่พูด

ยามนี้ความฉลาดของนางมิอาจใช้งาน กับเรื่องที่ไม่เข้าใจก็ได้แต่ร้อนรนทำอะไรไม่ถูก

หลี่เจิ้งส่ายหน้า เรียกหวังเหลียนทันที

“ถ่ายทอดโองการข้า ส่งสารลับไปถึงทุกมณฑลคืนนี้ หาคนที่รู้ตัวอักษรนี้ทั้งราชวงศ์อู่เรา! ถ้ามีคนรู้จักอักษรนี้ ข้าจะมอบทองคำหนึ่งร้อยตำลึงให้ด้วยตัวเอง! อย่าลืม ทุกอย่างต้องทำอย่างลับ ๆ ห้ามผิดพลาดเป็นอันขาด!”

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!” หวังเหลียนรับบัญชาทันที

แม้ใบหน้าของหลี่เจิ้งจะเฒ่าชรา แต่ดวงตากลับลุ่มลึก แค่นเสียงเย็นเอ่ย

“แคว้นหลางรังแกราชวงศ์อู่ข้า แค้นนี้ข้าจดจำไว้แล้ว แต่ราชวงศ์อู่แผ่นดินกว้างใหญ่ทรัพยากรพรั่งพร้อม ผู้มีความสามารถเป็นภูเขาเลากา ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครรู้จักตัวอักษรนี้เลย!”

วันต่อมา

ราชทูตแคว้นหลางเข้าวัง สะเทือนเลือนลั่นไปทั่วเมืองหลวง

แต่ราชทูตมาไวมาก และจากไปไวมากเช่นกัน

ได้ยินว่าพอเข้าเฝ้าแล้วก็ออกจากวังตั้งแต่ยังไม่เที่ยง

หลี่จุ่นได้ฟังสภาพตอนที่ราชทูตเข้าวังเข้าเฝ้ากับหยางจง

เห็นว่าราชทูตนำบุตรธิดามาด้วยทั้งหมดสามคน สองชาย หนึ่งหญิง

บุตรสาวหน้าตางามล่มเหมือง เป็นสตรีชั้นยอด

รูปพรรณสัณฐานของคนแคว้นหลางกับคนราชวงศ์อู่ไม่เหมือนกัน หน้าตาของผู้หญิงจะยาวหมดจดมากกว่า ส่วนผู้ชายจะหลังเสือเอวหมีเป็นส่วนมาก กระทั่งยังมีบางคนที่มีเส้นผมสีทอง ไม่ได้มีเส้นผมสีดำเหมือนกับคนในราชวงศ์อู่

“องค์ชาย ราชทูตหญิงแคว้นหลางผู้นั้นฟ้อนรำถวายฝ่าบาทต่อหน้าธารกำนัล ได้ยินว่าเอวอย่างกับงูอ่อน ทำท่วงท่าต่าง ๆ ได้ ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนักดูกันจนตาโต นางผู้นั้นงดงามยิ่งนัก ล่อลวงวิญญาณคน เฮ้อ น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นกับเขาด้วย”

พอหยางจงพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน