องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 953

เมื่อออกจากสถานีพักม้า ทัพใหญ่ก็เดินทางลงใต้ต่อ

หลี่จุ่นยังโมโหอยู่

วิธีการต่ำช้าเยี่ยงนี้ โดยมากถ้าไม่ใช่ฝีมือของรัชทายาท ก็ต้องเป็นพวกเลวระยำอย่างองค์ชายสี่แน่!

หมอนี่ต้องอยากหาเรื่องเขาแน่

“แม่เอ๊ย ไอ้พวกชิงหมามาเกิดพวกนี้ รอข้ากลับไปก่อนเถอะ ต้องถล่มจวนเหยียนอ๋องเจ้าให้ราบเป็นหน้ากลองแน่!”

หลี่จุ่นขมุบขมิบปากด่า

ทัพใหญ่ลงใต้ต่อ ตรงดิ่งไปยังหลินโจว

ลากยาวตลอดทางอย่างนี้ ที่แปลกคือ ทุกเมืองตลอดทางที่ผ่าน อีกฝ่ายเปิดประตูเมืองโดยตรง ไม่ขวางสักนิด

พอถามจึงรู้ เพราะผู้ว่าการชิงโจวส่งพิราบสื่อสารไปบอกเล่าสถานการณ์ถึงทุกเมืองก่อนแล้ว

บอกพวกเขาไม่ต้องต่อต้าน ไม่ต่อต้านก็จะไม่เป็นอะไร

ด้วยเหตุนี้

ตอนนี้ผู้ว่าการหลินโจวเปิดประตูเมืองรอแล้ว กระทั่งยังแจ้งไปยังอำเภอต่าง ๆ รอให้กองทัพแคว้นหนานมาท่องเที่ยว

หลี่จุ่นได้รู้เรื่องนี้ก็ตลกขบขัน

ทำดีนัก!

นี่ก็คือขุนนางของราชวงศ์อู่!

ซื่อสัตย์เสียเหลือเกิน!

ฉลาดแกมโกงหาผลประโยชน์!

หลี่จุ่นส่ายหน้าในใจ คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะได้เจอกับเรื่องอัศจรรย์พันลึกเช่นนี้

ผู้ว่าการชิงโจวผู้นั้นก็เป็นผู้ที่น่าสนใจทีเดียว

หยวนเฟิงกับเหล่าทหารมองหน้ากันไปมองหน้ากันมา ทึ่งกับวิธีการนี้ทั่วถ้วน

หลี่จุ่นกลับยิ้มร้าย

“ความดำมืดปานอีกาใต้หล้า ก็พูดถึงขุนนางราชวงศ์อู่นี่แหละ แม้จะเป็นขุนนางแคว้นหนานก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ไม่แปลก”

ราชวงศ์อู่กว้างใหญ่เพียงนี้ โครงสร้างซับซ้อนมากกว่า พวกที่โกงกินทำร้ายผู้อื่นย่อมไม่น้อย

แคว้นหนานแม้เล็ก ทว่าขุนนางก็เหมือนกัน

ทุกคนต่างกลัวความตาย ชอบเป็นนกสองหัว ชอบใช้ความฉลาดแกมโกงหาผลประโยชน์

รับราชการก็เพื่อเงิน ถ้าไม่ทำเพื่อเงินเพื่ออำนาจ แล้วจะเป็นขุนนางไปทำอะไร!

ขุนนางจำนวนมากกระทั่งว่ามีปณิธานว่าจะเป็นขุนนางกังฉิน!

หยวนเฟิงอยากคัดค้านหลี่จุ่นสักหน่อย

บอกว่าแคว้นหนานเราไม่เป็นเช่นนี้ แต่จู่ ๆ นึกถึงขุนนางที่เขาเคยเจอในสมัยก่อน หุบปากฉับพลัน ไม่พูดอะไรอีก

ดำเหมือนกันแท้ ๆ ไม่ปฏิเสธแล้ว

หนึ่งชั่วยามให้หลัง

“กุนซือ ระหว่างทางที่มาข้าได้ข่าวมาแล้ว บอกว่าทัพใหญ่แสนนายของศัตรูตีเมืองเป่ยกวนแตกแล้ว มุ่งหน้าไปที่เมืองหลวง ท่านมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร”

จักรพรรดินีนั่งอยู่บนแท่น น้ำเสียงเย็นชา

หลี่จุ่นมองดวงหน้าหมดจดที่ถูกผ้าขาวผืนบางบังอยู่ ดูท่าทีไม่ออก คิดแล้วจึงถาม

“ฝ่าบาททรงคิดว่าเมืองหลวงแคว้นหนานในเวลานี้มีอะไรล้ำค่าให้กล่าวถึงหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ขุนนางแคว้นหนานเสียชีวิตไปกว่าครึ่ง การเมืองแคว้นหนานในตอนนี้อยู่ในภาวะชะงัก แล้วบ้านเก่าเป็นอะไรจะทำไม

จักรพรรดินีได้ยินพลันขมวดคิ้ว มองหลี่จุ่นลึก ๆ ทีหนึ่งจึงเอ่ย

“หากเมืองหลวงของแคว้นหนึ่งตกอยู่ในมือของศัตรู เช่นนั้นจะเสียหน้าแคว้นหนานเราอย่างยิ่ง หรือว่าท่านไม่คิดเช่นนี้”

พอหลี่จุ่นได้ยินก็หัวเราะ

ให้ตายเถอะ ขุนนางหกกรมในมือคุณถูกหลี่เจิ้งเชือดไปจะหมดแล้ว นี่ยังมีหน้าตาอะไรอีก

ไม่ว่าจะหน้าตาหรืออะไร มันหมดเกลี้ยงไปตั้งนานแล้ว!

แต่

หลี่จุ่นจะตอบอย่างนี้ไม่ได้ เกิดสะกิดต่อมโมโหของแม่สาวนี่ล่ะ มอบฝ่ามือให้เขาโดยตรง ซัดเขาจนบาดเจ็บสาหัสจะทำอย่างไร

ด้วยเหตุนี้

หลี่จุ่นหัวเราะเหอะ ๆ อยู่ในใจ แต่ใบหน้ากลับเข้มขรึม ตอบ

“ฝ่าบาทตรัสถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นพวกเรามิสู้บุกไปเมืองหลวงราชวงศ์อู่เลย ให้หลี่เจิ้งขายหน้าบ้างเป็นอย่างไร”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน