เมื่อออกจากสถานีพักม้า ทัพใหญ่ก็เดินทางลงใต้ต่อ
หลี่จุ่นยังโมโหอยู่
วิธีการต่ำช้าเยี่ยงนี้ โดยมากถ้าไม่ใช่ฝีมือของรัชทายาท ก็ต้องเป็นพวกเลวระยำอย่างองค์ชายสี่แน่!
หมอนี่ต้องอยากหาเรื่องเขาแน่
“แม่เอ๊ย ไอ้พวกชิงหมามาเกิดพวกนี้ รอข้ากลับไปก่อนเถอะ ต้องถล่มจวนเหยียนอ๋องเจ้าให้ราบเป็นหน้ากลองแน่!”
หลี่จุ่นขมุบขมิบปากด่า
ทัพใหญ่ลงใต้ต่อ ตรงดิ่งไปยังหลินโจว
ลากยาวตลอดทางอย่างนี้ ที่แปลกคือ ทุกเมืองตลอดทางที่ผ่าน อีกฝ่ายเปิดประตูเมืองโดยตรง ไม่ขวางสักนิด
พอถามจึงรู้ เพราะผู้ว่าการชิงโจวส่งพิราบสื่อสารไปบอกเล่าสถานการณ์ถึงทุกเมืองก่อนแล้ว
บอกพวกเขาไม่ต้องต่อต้าน ไม่ต่อต้านก็จะไม่เป็นอะไร
ด้วยเหตุนี้
ตอนนี้ผู้ว่าการหลินโจวเปิดประตูเมืองรอแล้ว กระทั่งยังแจ้งไปยังอำเภอต่าง ๆ รอให้กองทัพแคว้นหนานมาท่องเที่ยว
หลี่จุ่นได้รู้เรื่องนี้ก็ตลกขบขัน
ทำดีนัก!
นี่ก็คือขุนนางของราชวงศ์อู่!
ซื่อสัตย์เสียเหลือเกิน!
ฉลาดแกมโกงหาผลประโยชน์!
หลี่จุ่นส่ายหน้าในใจ คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะได้เจอกับเรื่องอัศจรรย์พันลึกเช่นนี้
ผู้ว่าการชิงโจวผู้นั้นก็เป็นผู้ที่น่าสนใจทีเดียว
หยวนเฟิงกับเหล่าทหารมองหน้ากันไปมองหน้ากันมา ทึ่งกับวิธีการนี้ทั่วถ้วน
หลี่จุ่นกลับยิ้มร้าย
“ความดำมืดปานอีกาใต้หล้า ก็พูดถึงขุนนางราชวงศ์อู่นี่แหละ แม้จะเป็นขุนนางแคว้นหนานก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ไม่แปลก”
ราชวงศ์อู่กว้างใหญ่เพียงนี้ โครงสร้างซับซ้อนมากกว่า พวกที่โกงกินทำร้ายผู้อื่นย่อมไม่น้อย
แคว้นหนานแม้เล็ก ทว่าขุนนางก็เหมือนกัน
ทุกคนต่างกลัวความตาย ชอบเป็นนกสองหัว ชอบใช้ความฉลาดแกมโกงหาผลประโยชน์
รับราชการก็เพื่อเงิน ถ้าไม่ทำเพื่อเงินเพื่ออำนาจ แล้วจะเป็นขุนนางไปทำอะไร!
ขุนนางจำนวนมากกระทั่งว่ามีปณิธานว่าจะเป็นขุนนางกังฉิน!
หยวนเฟิงอยากคัดค้านหลี่จุ่นสักหน่อย
บอกว่าแคว้นหนานเราไม่เป็นเช่นนี้ แต่จู่ ๆ นึกถึงขุนนางที่เขาเคยเจอในสมัยก่อน หุบปากฉับพลัน ไม่พูดอะไรอีก
ดำเหมือนกันแท้ ๆ ไม่ปฏิเสธแล้ว
หนึ่งชั่วยามให้หลัง
“กุนซือ ระหว่างทางที่มาข้าได้ข่าวมาแล้ว บอกว่าทัพใหญ่แสนนายของศัตรูตีเมืองเป่ยกวนแตกแล้ว มุ่งหน้าไปที่เมืองหลวง ท่านมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร”
จักรพรรดินีนั่งอยู่บนแท่น น้ำเสียงเย็นชา
หลี่จุ่นมองดวงหน้าหมดจดที่ถูกผ้าขาวผืนบางบังอยู่ ดูท่าทีไม่ออก คิดแล้วจึงถาม
“ฝ่าบาททรงคิดว่าเมืองหลวงแคว้นหนานในเวลานี้มีอะไรล้ำค่าให้กล่าวถึงหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ขุนนางแคว้นหนานเสียชีวิตไปกว่าครึ่ง การเมืองแคว้นหนานในตอนนี้อยู่ในภาวะชะงัก แล้วบ้านเก่าเป็นอะไรจะทำไม
จักรพรรดินีได้ยินพลันขมวดคิ้ว มองหลี่จุ่นลึก ๆ ทีหนึ่งจึงเอ่ย
“หากเมืองหลวงของแคว้นหนึ่งตกอยู่ในมือของศัตรู เช่นนั้นจะเสียหน้าแคว้นหนานเราอย่างยิ่ง หรือว่าท่านไม่คิดเช่นนี้”
พอหลี่จุ่นได้ยินก็หัวเราะ
ให้ตายเถอะ ขุนนางหกกรมในมือคุณถูกหลี่เจิ้งเชือดไปจะหมดแล้ว นี่ยังมีหน้าตาอะไรอีก
แต่
หลี่จุ่นจะตอบอย่างนี้ไม่ได้ เกิดสะกิดต่อมโมโหของแม่สาวนี่ล่ะ มอบฝ่ามือให้เขาโดยตรง ซัดเขาจนบาดเจ็บสาหัสจะทำอย่างไร
ด้วยเหตุนี้
หลี่จุ่นหัวเราะเหอะ ๆ อยู่ในใจ แต่ใบหน้ากลับเข้มขรึม ตอบ
“ฝ่าบาทตรัสถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นพวกเรามิสู้บุกไปเมืองหลวงราชวงศ์อู่เลย ให้หลี่เจิ้งขายหน้าบ้างเป็นอย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...