องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 963

ข่าวที่ราชวงศ์อู่โกลาหลแพร่ไปนานแล้ว

ไม่เพียงแต่แคว้นหลาง แม้แต่แคว้นฉี แคว้นฉู่ที่ไกลออกไปข่าวก็ยังส่งไปถึง

เรียกว่าเรื่องดีไม่ออกประตู เรื่องร้ายส่งไปพันลี้

พอเมืองหลวงราชวงศ์อู่เกิดการเปลี่ยนแปลง สายสืบของแคว้นต่าง ๆ ก็พากันส่งข่าวออกไป พยายามเร่งความเร็วสุดฤทธิ์ เกรงจะช้ากว่าแคว้นอื่นก้าวหนึ่ง

เมืองหลวงราชวงศ์อู่ในยามนี้ บนท้องถนนไม่เห็นคนสัญจร

แม้แต่บ้านเรือนประชาชนนอกเมืองหลวงยังว่างเปล่า ทุกคนหนีออกจากเมืองหลวงราชวงศ์อู่ไปไกลแล้ว

ตอนนี้ก็คือสถานที่ผี!

ใครอยากอยู่ที่นี่ก็อยู่ไป

แน่นอน

มีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่รีบร้อนเคลื่อนตัว กำลังรออยู่

แน่นอนว่าคือราชนิกุลอ๋องเหล่านั้น

อย่างเช่นจวนต้าเฉียนอ๋อง จวนเหยียนอ๋อง จวนหมิงอ๋อง กระทั่งจวนอวี๋เหวินไท่ซือ จวนกั๋วจิ้วเป็นต้น

ยามนี้

จวนเหยียนอ๋องขององค์ชายสี่

องค์ชายสี่กินไม่ได้นอนไม่หลับกับเรื่องที่เกิดขึ้นติดต่อกันในหลายวันนี้

เขาไม่รู้ว่ารัชทายาทกับเสด็จพ่อกำลังทำอะไรกันอยู่ แต่เดาออกได้ง่าย เสด็จพ่อจะทิ้งเมืองหลวงแล้ว

ใช้เรื่องที่รัชทายาทก่อกบฏ สลัดตัวย้ายถิ่นไปที่อื่นโดยตรง

เขารู้ว่าเสด็จพ่อเตรียมแผนรองรับเสมอ และยังพอคาดเดาได้ประมาณหนึ่งด้วย

ก็อย่างเช่นยังซ่องสุมกำลังพลจำนวนมาก และการที่อิงโจวมีทหารพวกนี้โผล่มากะทันหัน ได้พิสูจน์การสันนิษฐานของเขาแล้ว

แต่

รัชทายาทในยามนี้กลับยึดอำนาจฉับพลัน เขาไม่เคยคิดมาก่อน และไม่รู้ว่านี่เป็นแผนการอะไรด้วย

ถ้าไม่เอาเมืองหลวง แล้วจะไปที่ใด

ความหมายในนั้นคืออะไรอีก

“ท่านอ๋อง มีคนมาจากในวังขอรับ”

พ่อบ้านในจวนกุลีกุจอมารายงาน นำขันทีคนหนึ่งเข้ามา

พอองค์ชายสี่เห็น นี่เหมือนจะเป็นขันทีข้างกายเสด็จพ่อนี่

“คารวะท่านอ๋อง ข้าน้อยได้รับคำสั่งของหัวหน้าขันทีหวังเหลียนให้มาส่งข่าวกับท่านอ๋องขอรับ” ขันทีท่านนั้นรายงานอย่างเคารพนบนอบ

องค์ชายสี่ดวงตาเพ่งเล็ง พลันถาม

“มีอะไรหรือ”

ขันทีผู้นั้นจึงตอบ

“ท่านอ๋อง หัวหน้าขันทีหวังให้ข้าน้อยบอกกับท่านอ๋อง หวังว่าท่านอ๋องจะย้ายจวนไปสมทบกับฝ่าบาทที่เมืองอวี๋เจียงทางเจียงหนานขอรับ”

ย้ายไปเมืองอวี๋เจียงหรือ!

สมทบกับเสด็จพ่อหรือ

องค์ชายสี่หรี่ดวงตา แววตาสุขุมอย่างยากจะได้เห็นปรากฏความแปลกใจเล็กน้อยแล้ว

เดิมเตรียมจะคัดเลือกชายาแล้ว แต่เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหันจึงทำให้ล่าช้าออกไป

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ตอนนี้ยังได้รับการบอกอย่างนี้อีก หลี่เฉียนขมวดคิ้วมุ่น กระวนกระวายเล็กน้อย

ทว่า

ไม่นานเท่าไรนัก น้องห้าที่สมองบ้องตื้นก็มา

องค์ชายห้าอ๋องหมิงพอเข้าจวนต้าเฉียนอ๋อง เพิ่งเห็นหลี่เฉียนก็เอ็ดตะโร

“เจ้าหวังเหลียนถือที่เป็นคนข้างกายเสด็จพ่อ ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาสักนิด ยังส่งคนมาถ่ายทอดคำพูดกับข้าอีก! มีอย่างที่ไหนกัน!”

หลี่เฉียนมองน้องชายของตนแวบหนึ่งก่อนจะเอ่ย

“น้องห้า ไยต้องโมโหโทโสกับเรื่องนี้ด้วย ไม่คุ้มเลย”

หลี่จงพูดทันที “พี่สาม หวังเหลียนก็ส่งคนมาบอกกับท่านเหมือนกันกระมัง นี่เสด็จพ่อกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ เมืองหลวงดี ๆ ไม่อยู่ ตอนนี้จะไปเมืองอวี๋เจียง หรือว่ากลัวรัชทายาทแล้วจริง ๆ”

พอหลี่เฉียนได้ยินคำพูดนี้ก็ส่ายหน้าในใจ

ในบรรดาพี่น้อง แม้จะเป็นน้องเจ็ดที่จากไปแต่ยังเยาว์วัยก็ยังมีไหวพริบมากกว่าเจ้านี่มาก นานขนาดนี้แล้วยังมองไม่ออกอีกว่ารัชทายาทร่วมมือเล่นละครกับเสด็จพ่อ

ศีรษะนี่ตั้งอยู่บนคอเสียเปล่าจริง ๆ

หลี่เฉียนคร้านจะอธิบาย เพียงแต่พยักหน้ากลบเกลื่อนไป ก่อนจะพูดว่า

“ในเมื่อเป็นพระประสงค์ของเสด็จพ่อ น้องห้าก็รีบกลับไปเตรียมตัวเถอะ”

เมืองหลวงแห่งนี้กลายเป็นที่ที่มีปัญหา ในเมื่อมีที่ไป เช่นนั้นก็รีบไปเสียแต่เนิ่น ๆ เป็นดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน