องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 964

คนของเมืองหลวงอพยพไปข้างนอกหมดแล้ว

ทว่า

ยังออกไปไม่หมด หลี่เจิ้งเพิ่งเข้าจงโจวก็ได้ข่าวที่จักรพรรดินีแคว้นหนานนำกำลังพลมุ่งไปยังเมืองหลวงราชวงศ์อู่

หลี่เจิ้งขมวดคิ้วมุ่น

ให้อวี่เหวินจิ้งที่อยู่แถบชายแดนนำพลเข้าจงโจวทันที จากนั้นก็ไปรับคนที่มาจากเมืองหลวง

อวี่เหวินจิ้งย่อมไม่กล้าขัด นำทหารเข้าจงโจว

หลี่เจิ้งถูกรัชทายาท ‘ขับ’ ออกจากเมืองหลวงได้พาใครมาด้วยบ้าง

ก็ต้องเป็นบรรดานางสนมที่ถูกรัชทายาทขับออกมาพร้อมกันอยู่แล้ว

แต่

เฉินกุ้ยเฟยมารดาขององค์ชายสี่ไม่รีบร้อนตามมา แต่ตระเตรียมเดินทางกับตระกูลเฉิน

ด้วยเหตุนี้ หลี่เจิ้งจึงนำฮองเฮา กุ้ยเฟยที่เหลือสามคนพร้อมเหล่านางสนมตรงดิ่งไปทางใต้ภายใต้การอารักขาขององครักษ์และทหารรักษาพระองค์สามพันคน

ฮองเฮานั่งรถม้าคันเดียวกับหลี่เจิ้ง

หลี่เจิ้งเห็นท่าทางอมทุกข์ของฮองเฮา ย่อมปวดใจถึงที่สุด จึงถามเสียงอ่อนโยนว่า

“ฮองเฮาแสนดีของข้า เหตุใดเจ้าจึงอารมณ์ไม่ดี”

ฮองเฮาลังเลก่อนจะตอบทันทีว่า

“ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นห่วงรัชทายาทเพคะ...”

หลี่เจิ้งคิดแล้วก็เห็นว่าใช่ จึงพิจารณาและพูดว่า

“ฮองเฮา ข้าขอพูดตามตรง ครานี้เป็นบททดสอบที่ข้ามอบให้เขา ถ้าเขาผ่านมันไปได้ ต่อไปบัลลังก์นี้ไม่ใช่ของเขาแล้วจะเป็นของผู้ใด ดังนั้นฮองเฮาก็ดูก่อนเถิด ต้องเชื่อรัชทายาทของพวกเรา”

พอฮองเฮาได้ยินก็ผงะ

จากนั้นก็มองหลี่เจิ้งนิ่ง ๆ ครู่หนึ่งร้องเสียงหวาน โถมตัวเข้าอ้อมอกของหลี่เจิ้ง ร่ำร้องขึ้นมาว่า

“ไอ้หยา ฝ่าบาท ทรงหลอกหม่อมฉันเสียลำบากแทบแย่”

“เอาละ ๆ ไม่ร้องแล้ว ๆ ข้าผิดเอง เป็นข้าที่ผิดเอง ข้าควรบอกเจ้าแต่แรก ฮองเฮาแสนดีของข้า ไม่ร้องไห้นะ”

หลี่เจิ้งหัวเราะทันใด รีบกอดฮองเฮา

ต้องพูดเลย หลี่เจิ้งมีลูกไม้เอาใจผู้หญิงเยอะมาก

หลังจากรถม้าของหลี่เจิ้งเข้าจงโจวก็มิได้หยุดพัก ตรงดิ่งไปยังเจียงหนานไม่หยุด

พอเจอกับกองทัพแสนนายของอวี่เหวินจิ้งระหว่างทาง อวี่เหวินจิ้งก็แบ่งทหารห้าหมื่นคนอารักขาหลี่เจิ้งลงใต้

ส่วนอวี่เหวินจิ้งกลับนำห้าหมื่นคนที่เหลือไปยังเมืองหลวง รับขุนนางใหญ่และครอบครัวที่อพยพออกจากเมืองหลวงตลอดทาง

อีกด้านหนึ่ง

หลี่จุ่นและจักรพรรดินีนำกำลังพลหนึ่งแสนสองหมื่นนายผ่านจงโจวลงทางใต้และถึงเมืองหลวงในเวลาไม่ถึงสองวัน

พบกับคนที่หนีออกจากเมืองหลวง

หลี่จุ่นสั่งการทันที ให้ตั้งด่านและสกัดอยู่นอกเมือง

จากนั้นก็ตรวจสอบทีละคน ขอเพียงเป็นคนที่เขาอย่างสั่งสอนก็ดึงตัวเองไว้ หากไม่ใช่ก็ให้อีกฝ่ายไปเสีย

ความแค้นระหว่างนักแต่งหลอน ก็ต้องสู้ด้วยกลอน!

เจียงเฟิงหนอเจียงเฟิง เห็นกลอนของข้าแล้ว ต่อไปเจ้ายังจะกล้าแต่งกลอนอีกหรือไม่!

หลี่จุ่นแค่คิดในใจก็สะใจแล้ว

สุดท้าย

หลี่จุ่นนำพลเฝ้าอยู่นอกเมืองเองหนึ่งวัน แต่ก็ไม่พบหวังเยียนหรันกับจ้าวเฟยเอ๋อร์เลย

ครั้นสอบถามจึงรู้ จวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหวังและครอบครัวของจวนเหยียนอ๋องผู้เฒ่าออกจากเมืองหลวงนานแล้ว

หลี่จุ่นอึดอัดใจ

อยากเจอพวกนางสักครั้งยากขนาดนี้เลยหรือ

พลาดไปอย่างนี้

แต่หลี่จุ่นสืบชัดแล้ว พี่ชายเผียนอีพวกนั้นของเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ได้หนีไปเร็วอย่างนั้น!

รัชทายาทไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้กำลังเบ่งบารมีกับพวกขุนนางจำนวนหนึ่งอยู่ในวังหลวง

ทำดีนี่!

ทำจนเขาไม่เหลืออะไรเลย!

ทันใดนั้น

หลี่จุ่นแนะนำให้จักรพรรดินีบุกเข้าเมืองโดยตรง

ทำเขาให้กระเจิดกระเจิงไปเลย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน