องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 972

พอหลี่จุ่นได้ยินก็ตะลึงงันไป

คงเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิเช่นนั้นเขาเพิ่งจะออกมาจัดการกับสวะสองตัวนี่ ก็เจาะจงส่งคนมาเรียก ไม่จำเป็นเลย

หลี่จุ่นพลิกตัวขึ้นม้าทันที ควบทะยานไป

ครั้นถึงจวนจิ่งอ๋องก็ลงจากม้าแล้วตรงดิ่งไปที่ห้องโถงใหญ่

จักรพรรดินียืนเอามือไพล่หลังเดินไปเดินมานานแล้ว พอเห็นหลี่จุ่นมาถึงก็พูดขึ้นเลยว่า

“กุนซือ เมื่อครู่ข้าได้ข่าวมา ด่านเหิงกู่ทางตงเป่ยสงครามยุติแล้ว จางเฟิงลู่แคว้นจ้าวนำทัพข้ามแม่น้ำถอยไปแล้ว”

“ส่วนเจิ้นเป่ยอ๋องประกาศทั่วหล้าว่าได้รับบัญชาจากฮ่องเต้ราชวงศ์อู่ให้ปราบรัชทายาทเหมือนกัน ตอนนี้กำลังนำทัพสองแสนนายจากด่านเหิงกู่มาเมืองหลวงราชวงศ์อู่แล้ว!”

พอหลี่จุ่นได้ยินก็ร้องอุทานทันที

สมกับที่เป็นเจิ้นเป่ยอ๋อง เรียนรู้เร็วจริง ๆ!

เจิ้นเป่ยอ๋องก็มีปณิธานการรบเหมือนกัน

ในที่คมเล็บของเจิ้นเป่ยอ๋องโผล่ออกมาแล้ว!

“กุนซือ ทัพเรามิอาจเอาชนะทหารกล้าของเจิ้นเป่ยอ๋องได้ ท่านว่าควรทำอย่างไรดี” จักรพรรดินีขมวดคิ้วมองหลี่จุ่น

หลี่จุ่นคิดแล้วจึงเอ่ย

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ดูท่าคงมีแต่ถอยไปทางเหนือตามแผนเดิมแล้ว ฝ่าบาท จะรอช้าไม่ได้ รีบเดินทางเถอะพ่ะย่ะค่ะ การเคลื่อนพลจากด่านเหิงกู่มายังเมืองหลวงราชวงศ์อู่ หากไม่มีความล่าช้า เดินทัพอย่างปกติไม่ถึงสิบวัว แต่เกรงว่ากองทัพของเจิ้นเป่ยอ๋องจะเร็วมาก รอช้าไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วันนี้ข้าจะสั่งให้เหล่าทหารพักผ่อนเตรียมตัว พรุ่งนี้ขึ้นเหนือ!” จักรพรรดินีทุบโต๊ะฉับพลัน

ถึงเจิ้นเป่ยอ๋องเพิ่งตบตีกับจางเฟิงลู่มา แต่จากสายลับ ยังมีทหารอีกสองแสนกว่าคน ดูท่าจะเสียหายไม่หนัก

เวลานี้หากเจอกับกองทัพพิทักษ์อุดรของเจิ้นเป่ยอ๋อง กองทัพแคว้นหนานมีกำลังพลอยู่เพียงเท่านี้ เกรงว่าจะไม่พอให้อีกฝ่ายฟันเลย

อย่างไรเสีย กองทัพของเจิ้นเป่ยอ๋องก็เป็นยอดทหารของราชวงศ์อู่ ชื่อเสียงกองทัพพิทักษ์อุดรขึ้นชื่อว่าน่ากลัวในใต้หล้า

เช่นนั้นบัดนี้สามารถต่อสู้ผลักดันให้กองทัพจ้าวที่มีความเก่งกล้าในการรบที่สุดได้ น่ากลัวว่ายากจะเกียรติศักดิ์ระบือไกล!

กองทัพแคว้นหนานไม่เหมาะที่จะเผชิญกับศัตรูซึ่งหน้า

หลี่จุ่นก็พยักหน้าเหมือนกัน คิดแล้วจึงถาม

“ฝ่าบาท อัครมหาเสนาบดีเฟิงส่งข่าวมาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

เฟิงเป่าจินนำคนสองหมื่นอยู่เฝ้าอยู่ที่เมืองเฟิงหลิง ภายหลังเขาส่งกำลังพลหนึ่งหมื่นนายขนส่งยุทโธปกรณ์ไปรวมตัวกับเขา

แต่หลังจากนั้นอวี่เหวินจิ้งส่งทหารแสนคนยึดเมืองเฟิงหลิง เฟิงเป่าจินต้องนำคนสามหมื่นต่อสู้พลางถอยแน่

ด้วยนิสัยของเฟิงเป่าจิน สู้ไม่ไหวก็คงจะหนี ดังนั้นต้องไม่ทำสงครามยืดเยื้อกับทหารแสนคนของอีกฝ่ายแน่

หลี่จุ่นไม่อ้อมค้อม หมุนตัวออกจากห้องโถงใหญ่เลย

เพิ่งมาถึงลานบ้าน เงาสายหนึ่งก็เกือบจะชนกับเขา

เป็นองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าประตู อีกฝ่ายเห็นว่าตัวเองเกือบชนกุนซือพลันตกใจเหงื่อแตก รีบพูดว่า

“ขออภัยกุนซือ ข้าน้อยสมควรตาย!”

หลี่จุ่นโบกมือแล้วถามแบบสบาย ๆ “เกิดเรื่องอันใดหรือ เหตุใดจึงร้อนรนเช่นนี้”

องครักษ์ผู้นั้นลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตอบ

“อ้อ กุนซือ เป็นเช่นนี้ ที่หน้าประตูมีแม่นางแซ่ปันท่านหนึ่งบอกว่าต้องการเข้าเฝ้าฝ่าบาท ข้าน้อยตัดสินใจไม่ได้จึงเตรียมจะไปทูลฝ่าบาทขอรับ”

แซ่ปันหรือ

หลี่จุ่นหัวใจเต้นตึกตัก!

ปันหมิ่นหรือ!

แม่ตัวดี ร้ายนะเนี่ย!

หลี่จุ่นจึงพูดทันทีว่า “อ้อ พี่ปันของข้าเอง พาข้าไปเดี๋ยวนี้! ไม่ต้องทูลฝ่าบาทแล้ว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน