เมื่อจักรพรรดินีทรงได้ยินว่าปันหมิ่นจะมา สายตาของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย นางสั่งคนใช้นำทางปันหมิ่นไปที่ตำหนักปีก
และเข้าพบปันหมิ่นในตำหนักปีก
ปันหมิ่นสวมอาภรณ์ขาว ใบหน้าถูกผ้าบางสีขาวปกคลุม งดงามหยดช้อยเป็นที่สุด
“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”
ปันหมิ่นโค้งคำนับจักรพรรดินีเล็กน้อย
จักรพรรดินีทรงโปรดเก้าอี้ประทับให้นาง จากนั้นตรัสอย่างรีบร้อน
“ครั้งนี้แม่หญิงปัน มาเพื่อท่านกุนซือใช่หรือไม่”
เมื่อปันหมิ่นได้ยินชื่อหลี่จุ่น ในใจนางก็โกรธเคืองอย่างควบคุมมิได้ แต่นางมิได้แสดงออกมา เพียงข่มโทสะของตนเอาไว้ พยักหน้าและทูลตอบ
“เพคะ ฝ่าบาท...ครั้งนี้หม่อมฉันมาเพื่อเรื่องนี้จริงๆ”
นางมั่นใจแล้ว
หลี่จุ่นนั่นเป็นเพียงคนกำมะลอ
มิคิดว่าผู้นี้จะกล้าหาญถึงขั้นแอบอ้างลัทธิขงจื้อ
ช่างริอาจนัก
รนหาที่ตายชัดๆ
แต่แล้ว
วินาทีต่อมา
ปันหมิ่นกลับได้ยินประโยคที่ต้องทำนางตะลึง
“หากแม่หญิงปันมาเพื่อเรื่องนี้ เช่นนั้นก็มิจำเป็นแล้ว ข้ามิสนว่าตัวตนกุนซือข้าจะเป็นผู้ใด แม่หญิงปันเองก็เลิกสืบหาเรื่องนี้เถิด”
จักรพรรดินีตรัสเสียงเบา
“เพคะ เหตุใดจึง...”
ปันหมิ่นสงสัยว่าตนฟังผิดไป
เมื่อนั้นท่านจักรพรรดินีเป็นคนให้นางสืบเองมิใช่หรือ
เหตุใดตอนนี้จึงไม่สนใจแล้วเล่า
ปันหมิ่นรู้สึกสับสน
“แม่หญิงปันแปลกใจมากหรือ”
จักรพรรดินีสังเกตเห็นสีหน้าตะลึงของปันหมิ่น จึงตรัสถามด้วยรอยยิ้มอ่อน
ปันหมิ่นพยักหน้า
จักรพรรดินีทรงแย้มพระโอษฐ์และตรัส
“มิว่ากุนซือจะเป็นคนของลัทธิขงจื้อหรือไม่ก็ตาม ตอนนี้เขาก็เป็นกุนซือข้า เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”
“ที่ข้าสนใจมีเพียงเรื่องนี้ ส่วนท่านกุนซือจะเป็นผู้ใด มาจากแดนใด และมีจุดประสงค์ใด ข้ามิสนใจนัก ข้าเชื่อใจกุนซือของข้า”
ปันหมิ่นได้ยินเข้าก็อ้าปากค้าง รู้สึกตะลึงเล็กน้อย
มิคิดว่าผู้นั้นจะมีสเน่ห์มากเพียงนี้ กระทั่งจักรพรรดินีแห่งแคว้นหนานยังเชื่อใจเขาเช่นนี้เชียวหรือ
น่าเสียดาย
ที่เจ้านั่นเป็นเพียงคนกำมะลอ
นางมิรู้
แต่ตอนนี้ดีที่นางไม่มีความกังวลนี้แล้ว
และปันหมิ่นเป็นคนของลัทธิขงจื้อ คำพูดของปันหมิ่นย่อมต้องเชื่อถือได้
“แม่หญิงปัน ทัพใหญ่แห่งแคว้นฉีตอนนี้อยู่ที่ใดหรือ” เมื่อวางพระทัยลง จักรพรรดินีก็รีบถามเรื่องทหารฉีที่นางค่อนข้างห่วงใยขึ้น
ปันหมิ่นมองจักรพรรดินีทีหนึ่ง นางแอบถอนหายใจ แต่ก็เอ่ยตอบด้วยท่าทีจริงจัง
“แคว้นฉีส่งกองทัพมาตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อน ส่วนตอนนี้กองทัพฉีเดินทางถึงที่ใดแล้วนั้น หม่อมฉันเองก็มิทราบเพคะ แต่ฝ่าบาทมิต้องกังวล คาดว่ากองทัพฉีจักเดินทางถึงแดนราชวงศ์อู่ภายในสองวันนี้”
“เช่นนั้นยิ่งดี”
จักรพรรดินีดีใจมากยิ่งขึ้น
หากเช่นนั้น จักสามารถพบปะกับอีกฝ่ายที่ทิศอุดรได้อย่างสำเร็จ
หลี่จุ่นมิกล้าแอบแนบหูฟังผ่านกำแพง อย่างไรท่านจักรพรรดินีก็มีที่วรยุทธ์เก่งกาจอย่างยากจะหยั่งถึง วิชาตัวเบาไก่อ่อนของตนนั้น คงปิดบังอีกฝ่ายมิได้
จึงได้แต่ล้มเลิกความคิดไปอย่างไร้หนทาง จู่ๆ เขารู้สึกปวดปัสสาวะ จึงมาหลบในพุ่มใต้กำแพงเรือน เพื่อเตรียมปลดปล่อย
ตงฟางซั่วเองก็รู้สึกปวดเช่นกัน จึงวิ่งมาปลดปัสสาวะพร้อมกับเขา
หลี่จุ่นเหลือบมองของอีกฝ่ายโดยสัญชาตญาณ
พบว่าเป็นแบบนี้ Booo
แล้วเขาก็กลับมาเหลือบมองของตนเอง
ซึ่งเป็นแบบนี้ BOOOOD
หลี่จุ่นจึงปลดปล่อยออกมาอย่างเชี่ยวกรากด้วยความพอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...