หลี่จุ่นก้าวเข้าไปในรถของปันหมิ่น
พวกหยวนเฟิงที่เดินทางไปด้วยกันหลับตาลงข้างหนึ่ง เดิมทีไม่กล้ามองทั้งลืมตาทั้งสองข้างอยู่แล้ว
และไม่กล้าสงสัยว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกัน รู้เพียงแค่ว่ากุนซือคือลูกผู้ชาย!
กล้าเผชิญหน้ากับสาวงาม ชอบก็ไป!
ถ้าเป็นพวกเขาละก็ หากต้องมาเผชิญหน้ากับสาวงามเช่นนี้ แค่ยกเท้ายังยกไม่ขึ้น พูดจาอะไรก็ติด ๆ ขัด ๆ
ทว่ากุนซือต่างออกไป มุดเข้าไปในรถม้าของเขาเลย เทียบได้หรือ?
เทียบไม่ได้หรอก!
กุนซือน่าเกรงขามสุด ๆ!
ไม่แน่ว่ายังกล้ามุดใต้กระโปรงเขาอีกด้วย
ตลอดทางมาถึงยังด่านเฮยเฟิง
ด่านเฮยเฟิงในตอนนี้กลายเป็นเมืองหน้าด่านที่ไร้การคุ้มกันเมืองหนึ่ง พ่อค้าแม่ค้าส่วนหนึ่งที่เดิมอยู่ที่เมืองเฟิงหั่วก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ เป็นที่พักชั่วคราว
ในตอนนี้ ภายในเมืองหน้าด่านยังคงครึกครื้นอยู่ทีเดียว
มีคนตั้งแผงลอยเล็ก ๆ อยู่ที่นี่ พร้อมทั้งมีคนเปิดโรงเตี๊ยมด้วย
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้คนที่สัญจรไปมา
หลี่จุ่นเองก็ไม่แน่ใจว่าจะจัดการที่นี่อย่างไรดี แต่ว่าคงจะสร้างขยายเป็นตัวอำเภอหนึ่ง
คิดว่าในภายภาคหน้าเป่ยโจวจะส่งนายอำเภอที่เข้มงวดมา
เมื่อพวกหลี่จุ่นผ่านเมืองหน้าด่าน แทบจะไม่ได้ดึงดูดความสนใจอะไร เพียงแต่มีคนมองอยู่สองสามทีเท่านั้น
ตั้งแต่เรื่องศึกที่ชายแดนเหนือนี้จบลง การค้าขายก็เริ่มกลับมาฟื้นฟู พ่อค้าแม่ค้าที่สัญจรไปมาเริ่มทำการค้าขายอย่างแต่ก่อนแล้ว
ด้วยเหตุนี้ผู้คนสัญจรไปมา เพียงแค่ขบวนรถม้าขบวนหนึ่งจึงไม่มีความพิเศษอะไร
เมื่อผ่านเมืองหน้าด่านไปแล้ว ก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือ
ครั้นเห็นว่าใกล้จะถึงเป่ยโจวแล้ว มองเห็นเมืองเป่ยโจวอยู่เบื้องหน้าแล้ว
หลี่จุ่นถึงได้ออกมาจากรถม้า แน่นอนว่าเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกปันหมิ่นด่าพึมพำ ๆ อยู่พักหนึ่ง
เมื่อหลี่จุ่นได้ยินเสียงบ่นพึมพำ ๆ ของสาวน้อย เขาก็รีบหันหน้าไปบีบคางของนางเอาไว้ ปันหมิ่นพลันอึ้งทึ่งไปเลย
ตัวนางชะงักไปในทันใด นึกไม่ถึงว่าหลี่จุ่นจะกล้าทำถึงขั้นนี้
หลี่จุ่นเอ่ยขู่ข้างหูว่า
“ฮ่า ๆ ลัทธิขงจื๊ออย่างนั้นหรือ? แค่นี้น่ะหรือ? ความแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวของท่านกับศิษย์พี่เมิ่งก็คือมารดา ฉะนั้นขืนยังกล้าด่าข้าอีก ระวังข้าจะ...จับท่านลงโทษตามกฎหมายของที่นี่เสีย!”
ในที่ลับไม่รู้ว่าสีหน้าของปันหมิ่นแดงระเรื่อมากเพียงใด นางเดือดเป็นฟืนเป็นไฟจนไม่กล้าออกไป
ในตอนนี้เองหลี่จุ่นถึงได้เรียกซือคงซั่วมาอย่างไม่รีบร้อน แล้วเดินเข้าไปเมืองเป่ยโจว
ทั้งสองคนใช้หลักฐานยืนยันตัวตนปลอม เข้าไปในเมืองเป่ยโจวได้สำเร็จ
เดินไปบนถนน ซือคงซั่วเอ่ยขึ้นอย่างลังเลอยู่เล็กน้อย
“กุนซือ นี่เราจะไปทั้งอย่างนี้เลยหรือ?”
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเป่ยโจวล้วนแทบจะเป็นคนของเผ่าเฟิงเฉวี่ยนทั้งหมด พวกเขาไม่เข้าใจภาษาของที่นี่
“เจ้าเตือนขึ้นมาก็ดี!”
เมื่อหลี่จุ่นได้ยินดังนั้น ก็รีบหยุดฝีเท้า พลันมองหาไปรอบ ๆ เจอร้านเหล้าร้านหนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า
ซือคงซั่วเห็นแล้วก็งงเป็นไก่ตาแตกไม่เข้าใจ!
นี่จะมาไม้ไหนละเนี่ย?
ซือคงซั่วคิดแล้วก็ยังไม่เข้าใจ แต่ก็ยังถือไหเหล้าเดินตามไปอย่างเชื่อฟัง
ทั้งสองคนมุ่งหน้าเดินไปที่ศาลาผู้ว่าการเลย
ในเมื่อเป็นเป่ยโจวแล้ว แม้จะเป็นมณฑลปกครองตนเอง แต่ก็มีศาลาผู้ว่าการอยู่หนึ่งที่
มิหนำซ้ำแน่นอนว่าตัวแทนปกครองที่อยู่ในศาลาผู้ว่าการนี้ต้องเป็นคนของราชวงศ์อู่อยู่แล้ว ต่อให้ย่ำแย่แค่ไหนก็ต้องเป็นคนเฟิงเฉวี่ยนที่เข้าใจภาษาถิ่นราชวงศ์อู่
ทันใดนั้นทั้งสองคนก็ถูกขวางเอาไว้!
ทว่าทหารยามของศาลาว่าการที่อยู่หน้าประตูฟังทั้งสองคนพูดไม่เข้าใจ จึงเดินเข้าไปรายงานด้านใน บอกว่ามีคนราชวงศ์อู่มาสองคน จะเมินเฉยต่อคนราชวงศ์อู่ไม่ได้
ไหน ๆ ก็มาพักในศาลาว่าการแล้ว ต้องทักทายดี ๆ
ผ่านไปไม่นาน ก็มีขุนนางเฒ่ารูปร่างอ้วนท้วมเล็กน้อยเดินออกมา
มีคนจุดโคมไฟสองข้างซ้ายขวาให้เขา
หลี่จุ่นชำเลืองมองไปทีหนึ่ง ทันใดนั้นก็ต้องดีอกดีใจ
เยี่ยมไปเลย!
นี่มันหนีกู่เจ้าหมอนั่นไม่ใช่หรือ?
ส่วนหนีกู่เดินหน้าเข้ามาใกล้ขึ้น เมื่อเห็นหน้าแล้วก็ไม่นึกว่าจะเป็นหลี่จุ่น เขาพลันอึ้งไปเลย!
เขาเกือบจะรีบคุกเข่าลงให้หลี่จุ่นแล้ว เขาทำท่าคารวะตรงนั้นเลย ก่อนจะเอ่ยเรียกอย่างนอบน้อม
“ท่านจอมทัพ ท่านมาได้อย่างไร?! ข้าน้อยขอคารวะท่านจอมทัพ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...