ปันหมิ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยตอบว่า
“ตอนกลางวัน ข้าเห็นอู๋อี๋หลิงผู้บัญชาการแห่งแคว้นฉี แล้วก็หวงฉวนเหวินอัครมหาเสนาบดีแห่งแคว้นฉี...ท่าทีที่สองคนนี้มีต่อแคว้นหนาน...ไม่ใช่มิตรภาพ พวกเขาอยากจะยึดทัพใหญ่ของแคว้นหนานไป...เพื่อให้พวกเขาได้ใช้งาน”
เมื่อหลี่จุ่นได้ยินดังนั้น ก็พลันขมวดคิ้วเข้าหากัน!
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดการได้ยากแล้ว!
ไม่ทำการควบรวมแต่อยากจะทำการยึดไปเป็นของตน?
ช่างละโมบโลภมากจริง ๆ!
นี่คือความกล้าหาญของทัพใหญ่แคว้นฉีหรือ?
แม่มันช่างสุดยอดจริง ๆ!
แต่ทว่า
คิดดู ๆ อีกทีแล้ว ราวกับมีอะไรไม่ชอบมาพากล
“ฝ่าบาท ฝ่าบาทมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
หลี่จุ่นมองไปที่จักรพรรดินี แล้วเอ่ยปากถาม
ก็ยังต้องดูการยินยอมของจักรพรรดินี หากจักรพรรดินียอมถูกคนเขายึดกองกำลังไปเป็นของตน เช่นนั้นตนก็ไม่มีอะไรต้องพูด คืนนี้จะได้ออกไปเลย!
กลับไปหาสมาคมเทียนตี้และทุกคนที่เขาเฟิงโหยว
ตอนนี้ทุกคนที่เขาเฟิงโหยวคงกำลังขุดเหมืองดินประสิวที่ภูเขาหลงจ่างกันอยู่ และส่วนประกอบของดินปืนเขาได้ลอบเผยแพร่ออกไปตอนที่อยู่หลินโจวแล้ว
หากเขากลับไปทางนั้นตอนนี้ เดาว่าผ่านไปอีกช่วงหนึ่งอาจจะสร้างเรื่องได้ ยังต้องอยู่รับความคับอกแค้นใจอยู่ที่นี่อีกทำไม?
ก่อกบฏเอง บุกเข้ายึดอำนาจด้วยกำลังด้วยตัวเอง!
หลี่จุ่นมองจักรพรรดินี ทว่าจักรพรรดินีกลับส่ายหน้าแล้วเอยว่า
“ไม่ปิดบังกุนซือ ตอนนี้ข้าไม่มีแผนใด ๆ ทั้งสิ้น ทัพแคว้นฉีหกหมื่นนาย หากทำให้ทัพของข้าต้องตกที่นั่งลำบากจริง ๆ พวกข้าก็ไร้กำลังที่จะต่อต้าน!”
หลี่จุ่นขมวดคิ้วจนเป็นปมแน่น ครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า
“ฝ่าบาท ขอเวลาให้กระหม่อมกลับไปคิดแผนอย่างละเอียดก่อน!”
จักรพรรดินีมองหลี่จุ่นทีหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า
“ได้”
เรื่องนี้น่าปวดเศียรเวียนเกล้า จักรพรรดินีเองก็รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นแผนการรับมือใดก็ต้องครุ่นคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนถึงจะได้
พลันย่อมไม่ทำให้หลี่จุ่นลำบากใจ
หลี่จุ่นมองปันหมิ่นทีหนึ่ง ก่อนจะถอยออกไปในฉับพลัน
เมื่อกลับมาถึงยังกระโจม ไม่นานปันหมิ่นก็ตามมา
หลี่จุ่นรีบให้ซือคงซั่วคอยเฝ้าอยู่ด้านนอก และยังไล่ซั่งกวนเฮ่าออกไปอีกด้วย
เมื่อปันหมิ่นนั่งลง หลี่จุ่นก็เอ่ยถามขึ้นอย่างตรงไปตรงมา
“พวกท่านไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับแคว้นฉีหรอกหรือ? เหตุใดจึงบอกเรื่องนี้กับพวกข้าล่ะ? พวกท่านกลัวว่าจะมีเจตนาบางอย่างใช่หรือไม่”
ไอ้สารเลวนี่ ไม่นึกเลยว่าจะกล้าหลอกนาง!
ช่างน่ารังเกียจจนถึงขีดสุดจริง ๆ!
“เอ่อ...”
เมื่อเห็นแจกันลายครามใบเล็ก บวกกับฟังที่ปันหมิ่นพูด สีหน้าของหลี่จุ่นก็พลันอิหลักอิเหลื่อขึ้นมา
เยี่ยมไปเลย!
ถูกเปิดโปงแล้ว!
ปันหมิ่นจ้องหลี่จุ่น ก่อนจะเอ่ยว่า
“จิ่งอ๋องแอบอ้างเป็นคนของลัทธิขงจื๊อ ก็เพื่อให้ได้เข้าใกล้จักรพรรดินี คิดว่าต้องมีแผนใช่หรือไม่? เงื่อนไขของเราก็ง่ายมากเช่นกัน ขอแค่จิ่งอ๋องส่งส่วนประกอบของดินปืนออกมา พวกเราก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จิ่งอ๋องอยากจะทำอะไร ก็เชิญตามสบาย ไม่อย่างนั้น...”
“ไม่อย่างนั้น พวกท่านจะกล่าวโทษข้า?”
หลี่จุ่นชำเลืองมองทีหนึ่ง พลันฉีกยิ้มอย่างเย็นชาออกมา!
ปันหมิ่นไม่พูดไม่จา เพียงแต่พยักหน้าอย่างไม่แยแส
หลี่จุ่นยิ่งหัวเราะชอบใจเข้าไปกันใหญ่!
ไม่ได้รีบตบปากรับเงื่อนไขของปันหมิ่น ทว่ากลับหัวเราะอย่างเย็นชาชืด ๆ และเอ่ยขึ้นว่า
“เมื่อครู่ต่อหน้าฝ่าบาทท่านเอ่ยถึงชื่อคนสองคน คนหนึ่งคืออู๋อี๋หลิงผู้บัญชาการแห่งแคว้นฉี อีกคนหนึ่งคือหวังฉวนเหวินอัครมหาเสนาบดีแห่งแคว้นฉี...เช่นนั้นข้าขอบังอาจลองทายดู อัครมหาเสนาบดีท่านนั้น...ก็คือผู้ที่ท่านกับศิษย์พี่เมิ่งของท่านเรียกว่า...อาจารย์ใช่หรือไม่?”
นัยน์ตาของปันหมิ่นหดตัวลง ราวกับตกตะลึงไปเล็กน้อย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...