องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 994

ณ เมืองหลวง

ทัพใหญ่ของเจิ้นเป่ยอ๋องถึงยังเมืองหลวงแล้ว และได้ยึดครองเมืองฉางอัน

หลังจากนั้น

เจิ้นเป่ยอ๋องถอดชุดทำสงครามออก แล้วสวมชุดผาวลายหม่าง ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังวังหลวง

ว่ากันตามเหตุผลวังหลวงว่างลงแล้ว นี่เจิ้นเป่ยอ๋องจะไปทำอะไร?

อันที่จริงวังหลวงยังไม่ว่างลง

ในส่วนลึกของวัง ยังมีคนผู้หนึ่งอาศัยอยู่

ไทฮองไทเฮาในตอนนี้อย่างไรเล่า!

ยังหลบรอดพ้นการค้นหาของทัพแคว้นหนาน

ไทฮองไทเฮาเป็นใครกัน?

ก็เป็นย่าของหลี่เจิ้งอย่างไรเล่า!

ในยุคสมัยที่ผู้ไม่ได้ฝึกวรยุทธ์ยากจะมีอายุอยู่ถึงเจ็ดสิบปี ไทฮองไทเฮาผู้นี้กลับฝืนใช้ชีวิตอยู่จนอายุหนึ่งร้อยกว่าปี ขอแค่ไม่ชนไม่ล้มลงไป เดาว่ายังมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายปี

เนื่องจากตอนที่ยังสาว ๆ ไทฮองไทเฮาผู้นี้เป็นยอดฝีมือที่วรยุทธ์ไม่ธรรมดาคนหนึ่ง!

ยอดฝีมือในโลกใบนี้มีอายุยืนยาวเป็นอย่างมาก

ค่าเฉลี่ยอยู่ที่อายุหนึ่งร้อยปีเป็นอย่างต่ำ

กระทั่งต้องทนลูกชายลูกสะใภ้ของตัวเองไปจนตาย ฝืนอดทนไปจนถึงเหลนของตัวเอง

หากองค์รัชทายาทคัดเลือกพระชายาเร็วละก็ ไม่แน่ว่านางอาจจะได้เห็นลื่อของตัวเองก็ได้

แต่ทว่า

ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว อยู่ได้จนถึงตอนนี้ก็วิเศษสุด ๆ แล้ว

แน่นอนว่าอายุมากขนาดนี้แล้ว ต่อให้วรยุทธ์จะสูงส่งอีกแค่ไหน ก็สู้ไม่ไหวแล้ว กำลังภายในเองก็ใกล้สลายไปหมดแล้ว สามารถไปยังทางเดินสู่น้ำพุเหลือง¹ได้ตลอดเวลา

หลี่เจิ้งโยกย้ายเมืองหลวงของแคว้น ย้ายออกไปจากเมืองหลวง พาคนที่พาไปได้ไปหมดแล้ว สนมวังหลังทุกคน ไม่มีตกหล่นเลยแม้แต่คนเดียว

ทว่ากลับทิ้งคนชราผู้นี้เอาไว้เพียงลำพัง

ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก

หลี่ทงเจิ้นเป่ยอ๋องย่างเท้าอย่างลุกลี้ลุกลน ทะลุโถงผ่านลาน จากนั้นก็ทะลุมาตำหนักแล้วตำหนักเล่า

ท้ายที่สุดก็มาถึงยังสถานที่ที่ไม่นับว่าหรูหราอะไร แต่ตกแต่งได้งดงามสุด ๆ

วันที่อากาศแจ่มใสท้องฟ้าโปร่ง ลมโชยฟิ้ว ๆ เบา ๆ

แม้จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่ลมก็ยังอุ่น ๆ อยู่

หญิงชราที่ผมขาวดุจหิมะ ทว่าหวีอย่างพิถีพิถัน เต็มไปด้วยความสูงศักดิ์กำลังอยู่ภายใต้การประคองของหวังเหลียน นางกำลังชมปลาในสระ และยังมีนางกำนัลยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่น้อย

ทันใดนั้นเจิ้นเป่ยอ๋องก็ปรากตัว ก่อนจะรีบคารวะหญิงชรา

“หลานขอคารวะฮองไทเฮา!”

“ข้ารู้ว่าในใจของเจ้าสับสนมากแค่ไหน ไหน ๆ วันนี้เจ้าก็มาแล้ว ข้ามีเรื่องอยากจะบอกเจ้าอยู่พอดี”

น้ำเสียงของไทฮองไทเฮาก็ยังมีความชราอยู่เล็กน้อย แต่ทว่าประโยคนี้กลับทำให้ในใจของเจิ้นเป่ยอ๋องเกิดสายฟ้าฟาดสายหนึ่ง ตกตะลึงราวกับสายฟ้าฟาด!

เขารีบตั้งใจฟัง

ไทฮองไทเฮาเอ่ยขึ้นต่อ

“สามสิบปีก่อนเจ้าถามข้าว่าฝ่าบาทในรัชกาลปัจจุบันเป็นลูกชายของเสด็จพ่อเจ้าจริง ๆ หรือเปล่า แต่ข้าไม่ได้บอกกับเจ้า เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ข้าจะไม่ปิดบังเจ้า เจิ้งเอ๋อร์น่ะ ไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ ของเสด็จพ่อเจ้าจริง ๆ”

นัยน์ตาของเจิ้นเป่ยอ๋องพลันหดตัวลง!

แม้จะคาดเดาเอาไว้อยู่ตั้งนานแล้ว ทว่าเมื่อได้รับรู้ความจริงตอนนี้ ก็ยังทำให้ในใจของเขาไม่สามารถสงบลงได้อยู่ดี!

ดูท่าน้องสามในปีนั้นจะถูกต้องแล้ว...

แต่ว่าตัวเองสมควรตายยิ่งนักที่ไม่ยอมเชื่อน้องสาม!

จนกระทั่งทำให้น้องสามต้องตายไปทั้งกล้ำกลืนความเคียดแค้น!

น่ารังเกียจยิ่งนัก!

ในใจของเจิ้นเป่ยอ๋องพลันเจ็บปวดไร้ที่เปรียบ!

“เช่นนั้นเหตุใดในปีนั้นท่านถึงไม่ห้าม แต่กลับมองดูน้องสามจากไปต่อหน้าต่อตา...”

ในใจของหลี่ทงราวกับถูกห้ำหั่นเป็นชิ้น ๆ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้น ทว่าในทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลลงมาราวกับฝน น้ำเสียงสั่นเครือขึ้นมา

¹ ทางเดินสู่น้ำพุเหลือง หมายถึงเส้นทางที่วิญญาณเดินไปยังปรโลกเพื่อรายงานตั ว หลังจากที่เสียชีวิตแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน