องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 995

หญิงชราถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง

น้ำเสียงพลันยิ่งดูชราเพิ่มมากขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยขึ้นว่า

“เรื่องในปีนั้น เสด็จพ่อของเจ้ากำชับเอาไว้ก่อนจะสิ้นใจ ห้ามไม่ให้ข้าเข้าไปยุ่ง เลยทำได้เพียงมองดูเฉย ๆ มองดูเฟิ่งเอ๋อร์กับเจิ้งเอ๋อร์ทำศึกกันเพื่อแก้ปัญหา มองดูน้องเซียวกระวนกระวายใจในตอนแก่เฒ่า...”

“แต่ว่าเสด็จพ่อของเจ้าย่อมต้องมีเหตุผลของเขาเองเป็นแน่ สตรีอย่างข้าไม่เข้าใจเรื่องระหว่างบุรุษเช่นพวกเจ้าหรอก และไม่กล้าสอดมือเข้าไปเองสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก กลัวก็แต่จะโง่แต่อวดฉลาด...”

“ขอรับ หลาน...เข้าใจแล้ว!”

เจิ้นเป่ยอ๋องในวินาทีนี้ น้ำตาไหลอาบนองหน้า

ตนเป็นราชวงศ์...ไม่อาจทำตามใจตนเองได้!

เรื่องแบบนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้!

ไม่ว่าจะตอนไหนก็ล้วนหลีกเลี่ยงไม่ได้!

ไม่ว่าจะเป็นตนเอง หรือว่าไทฮองไทเฮา แล้วจะทำอย่างไรได้?

เจิ้นเป่ยอ๋องเช็ดน้ำตาที่หางตา ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า

“เช่นนั้น...เขาเป็นใครหรือขอรับ?”

ไทฮองไทเฮาส่ายหน้า ก่อนจะถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า

“ส่วนที่ว่าเสด็จพ่อของเจ้าเก็บเจิ้งเอ๋อร์มาเลี้ยงจากที่ไหนนั้น ข้าเองก็ไม่แน่ชัด ตอนนั้นข้าเองก็เคยลองไปสืบดูมาแล้ว แต่ว่าคนของเสด็จพ่อเจ้าสกัดกั้นคนของข้ากลับมา ท้ายที่สุดก็ไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง ฉะนั้นเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่รู้แน่ชัด”

เจิ้นเป่ยอ๋องพลันรู้สึกเสียใจ ทำได้เพียงเอ่ยว่า

“ขอรับ หลาน...เข้าใจแล้ว”

ไทฮองไทเฮาลูบมือของเจิ้นเป่ยอ๋องเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยว่า

“ถึงอย่างไรเจิ้งเอ๋อร์ก็ยังเป็นพี่น้องของเจ้า ไม่ต่างจากเฟิ่งเอ๋อร์ ข้าหวังว่าในภายภาคหน้าพวกเจ้าจะไม่ใช้สงครามแก้ปัญหา หากเป็นไปได้ก็พูดคุยกับเฟิ่งเอ๋อร์ดี ๆ ไม่แน่ว่าอาจจะยังมีบางเรื่องที่เข้าใจผิดอะไรกันอยู่ หากดื้อดึงเหมือนน้องสามเจ้าในปีนั้น เกรงว่าจะบานปลายกลายเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรงได้”

“ขอรับ หลานจะจดจำเอาไว้!” เจิ้นเป่ยอ๋อยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

“เอาละ เจ้าไปเถอะ ข้ารู้สึกอ่อนเพลียนิดหน่อย” ไทฮองไทเฮาพยักหน้า จากนั้นก็เรียกคนเข้ามาประคอง

“ขอรับ หลานขอตัวลา!”

เจิ้นเป่ยอ๋องออกไปด้วยความนอบน้อม

มองเห็นหวังเหลียนที่ยืนทำมือคารวะอยู่ด้านนอกด้วยความนอบน้อม เขาก็พลันหยุดฝีเท้า มองเขาทีหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขึงขัง

“กลับไปบอกนายของเจ้า แค้นของน้องสามข้า ข้าต้องการคำอธิบายที่น่าพอใจคำอธิบายหนึ่ง...ไม่อย่างนั้น ข้าจะยกทัพลงใต้! ถึงเวลานั้น อย่าหาว่าข้าไร้ความเมตตาก็แล้วกัน! หึ!”

พูดจบก็สะบัดแขนเสื้อออกไป!

“ขอรับ ท่านอ๋อง!”

หวังเหลียนทำความเคารพไปทางเบื้องหลังของเจิ้นเป่ยอ๋องอย่างนอบน้อม

ทันใดนั้นก็ลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

เจิ้นเป่ยอ๋องที่วรยุทธ์อย่างน้อยก็เก่งกาจเหมือนกับจิ่งอ๋องในปีนั้น ไม่ใช่คนที่เขาจะเอาชนะได้

หากเป็นต่อสู้เพียงลำพัง ทั่วทั้งใต้หล้า ก็คงมีแต่สองคนผู้นั้นจากลัทธิเทียนซานที่พอจะสามารถสู้รบด้วยได้

ทว่าตอนนี้ ไม่นึกเลยว่าจะเห็นรัชทายาทที่อาการดูไม่ค่อยจะปกติเช่นนี้!

ใช่แล้ว!

เพราะองค์รัชทายาทเป็นบ้าไปแล้ว หลี่จุ่นเองก็ขี้เกียจจะคิดเล็กคิดน้อยกับเขา จึงโยนเขากลับวังหลวงเลย ปล่อยเข้าเป็นไปตามยถากรรม

ฉะนั้นในตอนนี้องค์รัชทายาทถึงได้เล่นสวมบทบาทขึ้นสืบทอดเป็นจักรพรรดิอยู่ที่นี่อย่างไรเล่า

ดูจากสารรูปของเขาแล้ว ไม่ต้องพูดเลยว่ามีความสุขแค่ไหน

เจิ้นเป่ยอ๋องยืนอยู่ตรงประตูของท้องพระโรง ดูอยู่นานสองนาน ท้ายที่สุดก็เชื่อจริง ๆ ว่าเขาบ้าไปแล้ว

ถึงไหนจับหน้าตัวเองอย่างเสียสติ แล้วหมุนตัวเดินอออกไป

หลี่เจิ้งนะหลี่เจิ้ง...

เจ้าช่างสร้างบาปสร้างกรรมจริง ๆ!

หรือว่ารากฐานร้อยปีของตระกูลหลี่เรา...จะต้องมาพังทลายลงในมือของเจ้าแล้วจริง ๆ หรือ?

เจิ้ยเป่ยอ๋องปวดใจขึ้นมา!

ไม่!

ไม่มีทางเป็นอันขาด!

เมื่อเจิ้ยเป่ยอ๋องคิดมาถึงตรงนี้ ก็พลันกำหมัดทั้งสองลข้างแน่น นัยน์ตาเย็นยะเยือกราวกับดาบ กอ่นจะสาวเท้าก้าวยาวออกไปจากวังหลวง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน