องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 999

ค่ายทหารแคว้นฉี

ภายในกระโจมจอมทัพ

หวังฉวนเหวินกับอู๋อี๋หลิงได้รับคำสั่ง

ทัพแคว้นหนานเปลี่ยนเส้นทางไปยังมุมซีหนาน ไปยังด่านเฟิงเป่ย

ทั้งสองคนพลันขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นปมแน่น

หวังฉวยเหวินเอ่ยขึ้นว่า “ดูท่าจักรพรรดิแคว้นหนานผู้นั้น จะไม่ได้ทำอะไรมั่วซั่วอย่างที่คิดจริง ๆ”

อู๋อี๋หลิงรีบเอ่ยขึ้นว่า

“ในเมื่อตอนนี้ทัพแคว้นหนานไปด่านเฟิงเป่ยแล้ว เช่นนั้นทัพเราก็ทำได้เพียงลงใต้ไปเลย แล้วโจมตีเมืองหลวง ทัพใหญ่สองหมื่นนายของเจิ้นเป่ยอ๋องนั่น ยังนับว่าเป็นทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรของราชวงศ์อู่ ทำศึกหาญกล้าเป็นอย่างมาก แต่หากหวังพึ่งเพียงทัพมังกรพยัคฆ์อาจารย์แห่งความยิ่งใหญ่เกรียงไกรในตำนานทัพลับของข้า...ศึกนี้เป็นศึกที่ยากลำบากศึกหนึ่ง!”

หวังฉวนเหวินส่ายหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ได้ยินมาว่าเจิ้นเป่ยอ๋องกับหลี่เจิ้งต่างระแวงซึ่งกันและกัน มิหนำซ้ำหลี่เจิ้งยังไม่ลงรอยกับอ๋องต่าง ๆ และขุนนาง ตอนนี้หลี่เจิ้งอาจจะทำศึกอยู่เพียงลำพัง ศึกนี้หากไม่ต้องทำศึกได้ก็จะไม่ทำ ถึงอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองทัพพิทักษ์อุดรสองแสนนายอาจทำให้กองทัพมังกรพยัคฆ์ของข้าสูญเสียไปไม่น้อย”

อู๋อี๋หลิงพยักหน้ายอมรับว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ กองทัพมังกรพยัคฆ์ยังไม่ได้เริ่มเผยฤทธิ์เดช แต่จะเปิดเผยยังไง ก็ไม่มีทางเอาชนะกองทัพพิทักษ์อุดรได้!

ครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยถามขึ้นว่า “เช่นนั้นอัครมหาเสนาบดีมีแผนการใดหรือไม่?”

อัครมหาเสนาบดีเฒ่าที่ผมขาวหน้าแดงมีเลือดฝาดพลันลูบเครา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ท่านแม่ทัพไม่ต้องร้อนใจไป รอข้าแก้ไขหนังสือแต่งตั้งตำแหน่งให้เจิ้นเป่ยอ๋องก่อน หากเป็นไปได้ จดหมายฉบับนี้จะทำให้เจิ้นเป่ยอ๋องหลีกทางให้ทัพเรา!”

อู๋อี๋หลิงรีบเอ่ยขึ้นว่า

“อัครมหาเสนาบดีเชิญเลยขอรับ!”

ทันใดนั้นอัครมหาเสนาบดีเฒ่าก็เริ่มขยับพู่กัน แก้หนังสือแต่งตั้งตำแหน่งให้เจิ้นเป่ยอ๋อง หลังจากนั้นก็รีบให้คนส่งไปยังเมืองหลวง

ทัพใหญ่หกแสนนายของแคว้นฉี รีบออกเดินทางลงใต้ไปในทันใด!

ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ไปทางเป่ยโจวสะเทือนเลือนลั่นดังฟ้าฟาด!

แต่ทว่า!

เมื่อทัพใหญ่ไปได้ครึ่งทาง หวังฉวนเหวินก็ได้รับจดหมายลับฉบับหนึ่ง

เขารีบเปิดอ่านในทันใด พลันสีหน้าเปลี่ยน เห็นได้ชัดว่าตกตะลึงอยู่เล็กน้อย!

ชะโงกหน้าออกมาจากรถม้า แล้วสั่งให้ทหารเรียกอู๋อี๋หลิงที่อยู่ด้านหน้ามา

อู๋อี๋หลิงรีบขี่ม้ามา แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า

“อัครมหาเสนาบดีมีเรื่องอันใดจะสั่งหรือ?”

อัครมหาเสนาบดีเฒ่าผมยาวหน้าแดง มีเลือดฝาดรีบส่งจดหมายลับที่อยู่ในมือให้ แล้วเอ่ยว่า

“นี่เป็นรายงานจากสายลับที่อยู่แคว้นจ้าว ท่านแม่ทัพโปรดดูเอาเถิด!”

อู๋อี๋หลิงรีบรับมา เมื่อได้อ่านก็พลันเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงว่า

“อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนแห่งแคว้นเยียนนำทัพเข้าโจมตีแคว้นจ้าว จางเฟิงลู่นำทัพจ้าวไปต้านทาน พ่ายแพ้ไปหกเมืองภายในสองวัน...แคว้นเยียน สถานที่รวมเยียนจ้าวเป็นหนึ่งเดียว?!”

หลี่จุ่นฉงนไปครู่หนึ่ง พลางรับมาอ่าน

ทันใดนั้นนัยน์ตาก็หดตัวลง อึ้งทึ่งไปก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงเล็กน้อยว่า

“แคว้นเยียนรวมเป็นหนึ่งเดียวกลายเป็นพื้นที่แห่งเยียนจ้าวแล้ว? สองแคว้นนี้เป็นพันธมิตรกันไม่ใช่หรือ? อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้ก็ยังลงมือได้?”

ทว่าในใจกลับยิ้มอยู่เล็กน้อย

ไม่เลวนี่!

ได้ยินเจตนารมณ์ของตัวเองจริง ๆ แล้ว

บุรุษก็ควรกล้าหาญฉีกสัญญาความสัมพันธ์จอมปลอมเหล่านั้นทิ้งไปให้จบ ๆ !

ไม่เลวนี่ ๆ!

ดูท่าตงกัวลั่วผู้นั้นจะเชื่อถือได้ทีเดียว ส่งคำสั่งของเขาให้ถึงได้สำเร็จ

และซือหม่าหยวนก็เป็นลูกผู้ชายตัวจริง!

จักรพรรดินีขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล

“กุนซือ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้หรือ?”

หลี่จุ่นครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ฝ่าบาทมิต้องเป็นกังวลไป เรื่องนี้สำหรับทัพเราแล้ว เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ซือหม่าหยวนจัดการแคว้นจ้าว ไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไป และนำทหารเข้าไปยังจงหยวน ถึงเวลานั้นอาจจะดึงดูดทัพศัตรูจำนวนหนึ่ง สำหรับทัพเราแล้ว เรียกได้ว่าเป็นการช่วยอีกแรงหนึ่งที่ดีทีเดียว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน