บทที่ 1 ได้รับความอับอาย
ณ คฤหาสน์หรูตระกูลเซียว แสงไฟสว่างจ้า
คืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดอายุ70ปีของนายหญิงใหญ่เซียว ผู้นำตระกูลตระกูลเซียว
ทั้งหลานชาย หลานสาว และหลานเขยต่างทยอยกันให้ของขวัญ
“คุณย่าคะ ได้ยินว่าคุณย่าชอบดื่มชา หนูเลยเอาชาผูเอ่อร์100ปีราคาสองแสนห้านี่มาให้เป็นของขวัญ”
“คุณย่า ได้ยินว่าคุณย่านับถือพระพุทธเจ้า พระหยกและหยกสลักขาวนี่ราคาสามล้านห้า......”
นายหญิงใหญ่เซียวเห็นของขวัญพวกนี้แล้วปลื้มปริ่มเป็นอย่างมาก ทั้งบ้านเต็มไปด้วยความสุข
ทันใดนั้นเย่เฉิน หลานเขยของนายหญิงใหญ่เซียวก็พูดขึ้น:“คุณย่าครับ ให้ผมยืมเงินสัก5ล้านได้ไหมครับ ป้าหลี่ที่สถานสงเคราะห์ป่วยเป็นโรคยูเรเมีย ต้องใช้เงินในการรักษา......”
ทุกคนในตระกูลเซียวต่างตกตะลึง
ทุกคนมองเย่เฉินด้วยสายตาไม่เข้าใจ
ลูกเขยคนนี้กล้ามากนะเนี่ย?งานวันเกิดนายหญิงใหญ่ เขาไม่เพียงไม่เตรียมของขวัญอะไรมา ยังกล้าพูดแบบนี้อีก ขอยืมเงินนายหญิงใหญ่5ล้านเนี่ยนะ?
3ปีก่อน คุณท่านใหญ่เซียวที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่รู้ไปเจอกับเย่เฉินจากไหน บังคับให้เซียวชูหรัน หลานสาวคนโตแต่งงานกับเขาให้ได้ อีกทั้งเย่เฉินในตอนนั้นจนเอามากๆ ไม่ต่างอะไรกับขอทานเลย
หลังจากทั้งสองคนแต่งงานกัน คุณท่านใหญ่เซียวก็จากไป นับตั้งแต่นั้นมาคนตระกูลเซียวก็อยากเขาออกไป
แต่เย่เฉินไม่ใส่ใจ ไม่ว่าใครจะดูถูกยังไงเขาก็ไม่สะทกสะท้าน ดังนั้นจึงเป็นลูกเขยจนๆในตระกูลเซียวมาโดยตลอด
วันนี้เอ่ยปากขอยืมเงินนายหญิงใหญ่ ก็เพราะจนปัญญาเช่นกัน
ป้าหลี่ที่สถานสงเคราะห์ คนที่เคยรับเลี้ยงเขา ช่วยชีวิตเขาไว้ ตอนนี้ป่วยเป็นโรคยูเรเมีย การฟอกไตปลูกถ่ายไตต้องใช้เงินอย่างน้อย5ล้าน เขาไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ เลยต้องมายืมนายหญิงใหญ่
เขาคิดว่าวันนี้เป็นวันครอบรอบวันเกิดครั้งใหญ่ของนายหญิงใหญ่ พอนายหญิงใหญ่มีความสุข ไม่แน่ท่านอาจจะช่วยก็ได้
แต่คิดไม่ถึงว่า เมื่อครู่นายหญิงใหญ่เซียวยังยิ้มร่า ตอนนี้กลับหน้าบึ้งตึงซะแล้ว
เธอปาแก้วชาที่อยู่ในมือลงไปบนพื้น และพูดด้วยความโมโห:“สารเลว แกมาอวยพรวันเกิดหรือมายืมเงินกันแน่?”
เซียวชูหรัน ภรรยาของเย่เฉินรีบอธิบายให้นายหญิงใหญ่ฟังทันที:“คุณย่าคะ เย่เฉินไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราว ท่านอย่าถือสาเลยนะคะ”
เธอพูดพลางดึงเย่เฉินไปอีกด้านหนึ่ง
ทันใดนั้น เซียวเวยเวยลูกพี่ลูกน้องของเซียวชูหรัน พูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน:“พี่ ดูสิว่าพี่แต่งกับขยะอะไรไป!ฉันกับเหวินเฟยแค่หมั้นกัน ยังไม่ได้แต่งเลย เหวินเฟยก็ให้หยกพระเป็นของขวัญแด่คุณย่า แต่ดูสามีพี่สิ ของขวัญอะไรก็ไม่เอามา ยังมีหน้ามายืมเงินคุณย่าอีก!”
“ใช่ พี่เย่เฉิน เราสองคนเป็นเขยตระกูลเซียวเหมือนกัน เขยคนโตอย่างพี่ทำอะไรได้ไม่ได้เรื่องจริงๆ!”
ผู้ชายที่พูดคือหวังเหวินเฟย คู่หมั้นของเซียวเวยเวย เป็นคุณชายของตระกูลใหญ่
ถึงหวังเหวินเฟยจะใกล้แต่งงานกับเซียวเวยเวยแล้ว แต่ในความรู้สึกเขา ความสวยของเซียวเวยเวยเมื่อเทียบกับเซียวชูหรัน ภรรยาของเย่เฉินแล้ว ยังห่างกันมากนัก
เซียวชูหรันเป็นสาวสวยที่มีชื่อเสียงในเมืองจินหลิง แต่เมื่อเห็นว่าสาวสวยคนนี้แต่งงานกับไอ้ไร้ประโยชน์นี่ หวังเหวินเฟยก็รู้สึกไม่พอใจนัก
“ขยะแบบนี้ รีบไล่ออกไปจากตระกูลเซียวของเราซะจะดีกว่า!”
“ใช่!หมอนี่ทำให้ตระกูลเซียวขายหน้ามากๆ!”
“ฉันว่าที่เขาขอยืมเงินน่ะไม่จริงหรอก แต่จงใจเรียกความสนใจจากงานเลี้ยงของนายหญิงใหญ่น่ะคือเรื่องจริง!”
เย่เฉินเห็นทั้งตระกูลเซียวต่างพุ่งเป้าด่าทอมาที่ตน ก็กำหมัดแน่นอย่างอดไม่ได้
ถ้าไม่ใช่เพราะหาค่ารักษาให้ผู้ที่มีพระคุณกับตน เขาไปจากที่นี่ตั้งนานแล้ว
แต่พอนึกถึงสิ่งที่พ่อสั่งสอนตนมาตั้งแต่เด็ก ว่าให้รู้จักตอบแทนบุญคุณคน เขาจึงเก็บความอัปยศอดสูไว้ในใจ แล้วพูดกับนายหญิงใหญ่เซียว:“คุณย่าครับ ช่วยชีวิตคนนั้นได้บุญมากนะครับ ท่านโปรดเมตตาด้วย”
มีคนด่าออกมา:“ไอ้แซ่เย่ แกอย่าพูดหลอกล่อคุณย่าไปหน่อยเลย แกอยากช่วยคนก็หาวิธีเอาเองสิ ให้คุณย่าช่วยออกเงินให้แกเนี่ยนะ เป็นคนยังไงกัน?“
คนที่พูดคือเซียวไห่หลง พี่ชายแท้ๆของเซียวเวยเวย
พวกเขาสองพี่น้องมีอคติกับเซียวชูหรันพวกเขามาตลอด จึงชอบฉวยโอกาสดูถูกเย่เฉิน
เซียวชูหรันอีกด้านก็พูดด้วยใบหน้าอึดอัด:“คุณย่าคะ เย่เฉินเขาเสียพ่อไปตั้งแต่8ขวบ ป้าหลี่ที่สถานสงเคราะห์เลี้ยงเขามาได้จนโต ที่เขาอยากตอบแทนบุญคุณก็ทำด้วยใจจริง คุณย่าช่วยเขาหน่อยนะคะ......”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม:“ให้ย่าช่วยเขางั้นเหรอ?ได้สิ งั้นก็หย่ากับเขาแล้วแต่งกับคุณชายจางซะ ถ้าแกทำตามนี้ ย่าจะให้เงิน5ล้านกับเขาทันที!”
คุณชายจางที่นายหญิงใหญ่พูดถึง คือจางเหวินเห้า คนที่ตามจีบเซียวชูหรันมาโดยตลอด ตระกูลจางเป็นตระกูลชั้นสูงในเมืองจินหลิงมีอำนาจกว่าตระกูลเซียวมาก นายหญิงใหญ่อยากเข้าหามาโดยตลอด
ในขณะนั้นเองพ่อบ้านก็วิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว พลางพูดเสียงดัง:“คนมาส่งของขวัญที่คุณชายจางส่งมาครับ!หยกพระสลักมรกต1องค์ ราคา15ล้าน!”
นายหญิงใหญ่เซียวหันไปมองด้วยความดีใจ พลางพูด:“รีบเอามา ให้ฉันดูหน่อย!”
พ่อบ้านรีบยื่นหยกพระสลักมรกตให้ทันที ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกตะลึง
หยกพระสลักมรกตองค์นี้ทั้งมีสีเขียวมรกตและแวววาว ไม่มีสิ่งอื่นเจือปนแม้แต่น้อย แค่มองก็รู้ว่าเป็นงานชิ้นเยี่ยม
เย่เฉินประหลาดใจ ขณะที่กำลังจะหาความกระจ่างกับเรื่องนี้ พอหันไปก็เห็นชายอายุราว50กว่าๆใส่ชุดสูทสีดำ มีผมขาวเล็กน้อยยืนอยู่ด้านหลังเขา
ทั้งคู่สบตากัน ชายคนนั้นโค้งคำนับให้เขาและพูดขึ้น:“คุณชาย หลายปีมานี้คุณประสบความลำบากแล้ว!”
เย่เฉินขมวดคิ้วงุนงง ดูเหมือนจะเปลี่ยนอารมณ์ไป ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“คุณคือถังซื่อไห่งั้นเหรอ?”
อีกฝ่ายพูดดด้วยความดีใจ:“คุณชาย คุณยังจำผมได้!”
เย่เฉินสีหน้าเคร่งขรึม พลางพูด:“ฉันต้องจำได้สิ!ฉันจำพวกคุณได้ทุกคน!ตอนนั้นเป็นเพราะพวกคุณบีบบังคับให้พ่อแม่พาผมออกไปจากเย่นจิง ต้องหลบหนีตลอด ระหว่างนั้นพ่อแม่ผมประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ผมต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า ตอนนี้พวกคุณมาหาผมอีกทำไม!”
ถังซื่อไห่พูดอย่างเจ็บปวดสุดๆ:“คุณชาย ตอนพ่อของคุณเสียคุณท่านก็เสียใจมากเช่นกัน หลายปีมานี้ท่านตามหาคุณอยู่ตลอดตอนนี้เจอแล้ว คุณกลับไปพบท่านกับผมเถอะ!”
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา:“คุณกลับไปเถอะ ผมไม่มีวันไปเจอเขาแน่นอน”
ถังซื่อไห่พูด:“คุณชาย คุณยังโทษคุณท่านอยู่อีกเหรอ?”
“แน่นอน”เย่เฉินพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ:“ชาตินี้ผมไม่มีวันให้อภัยเขา!”
“เห้อ......”ถังซื่อไห่ถอนหายใจ แล้วพูด:“ก่อนผมจะมาคุณท่านก็บอกแล้วว่าคุณอาจจะไม่ให้อภัยเขา”
“นับว่าเขายังรู้ตัวอยู่บ้าง!”
ถังซื่อไห่พูด:“คุณท่านทราบว่าหลายปีมานี้คุณต้องตกระกําลําบาก จึงให้ผมมาชดเชยให้คุณเล็กๆน้อยๆ ถ้าคุณไม่อยากกลับไป ก็จะซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจินหลิงให้คุณ แล้วก็ให้บัตรใบนี้กับคุณ รหัสก็คือวันเกิดของคุณ ”
ถังซื่อไห่พูดพลางยื่นบัตรแบล็คการ์ดของธนาคารซิตี้แบงค์ให้
“คุณชาย บัตรนี้มีแค่5ใบในประเทศ ”
เย่เฉินส่ายหน้าพลางพูด:“เอากลับไปเถอะ ผมไม่เอา“
ถังซื่อไห่พูด:“คุณชาย ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตคุณยังขาดค่ารักษาอีก10ล้านนะ ถ้าไม่ชำระชีวิตเธออาจตกอยู่ในอันตราย......”
เย่เฉินครุ่นคิด:“พวกคุณวางแผนมาแล้วใช่ไหม?”
ถังซื่อไห่รีบพูด:“ไม่กล้าครับ!ถ้าคุณรับบัตรใบนี้ไว้ก็พอสำหรับจ่ายเงินก้อนนี้แล้ว”
เย่เฉินถาม:“ในบัตรใบนี้มีเงินอยู่เท่าไหร่?”
“คุณท่านบอกว่าเงินในบัตรนี้ไว้ให้คุณใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ไม่เยอะครับ ทั้งหมด5หมื่นล้าน!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...