บทที่ 40 ถูกตบหน้าอีกครั้ง
เมื่อได้ยินว่าพ่อของหลิวลี่ลี่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุ เพื่อนร่วมคลาสทุกคนในเหตุการณ์ก็ส่งสายตาเหยียดหยามและเห็นใจต่อเย่เฉิน
พวกเขารู้สึกว่าเย่เฉินช่างโชคร้ายจริงๆ
อยากสร้างภาพ ปรากฏว่าต้องพบกับผู้เชี่ยวชาญระดับบุคคลสำคัญ นี่ไม่ใช่ว่าตัวเองตบหน้าตัวเองหรอกหรือ
ถ้าอีกเดี๋ยวพ่อของหลิวลี่ลี่หลิวเยว่เซินลงมา เขาไม่ใช่ว่าอายเสียยิ่งกว่าอายหรอกหรือ
เซียวซูหรันเองก็อายเล็กน้อย กระซิบกับเย่เฉินว่า “เย่เฉิน เพื่อนร่วมคลาสหลายคนดูอยู่นะ คุณอย่าปากแข็งเลย ไม่อย่างนั้นจะน่าอายมากเลยนะ!”
ก่อนที่จะมา เย่เฉินได้บอกเรื่องเกี่ยวกับที่ซื้อภาพวาดแล้ว แต่เขาบอกว่ามันราคาไม่เท่าไร ตอนนี้มาบอกว่ามูลค่าหลายหมื่น เซียวซูหรันก็ค่อนข้างไม่มั่นใจขึ้นมาฉับพลัน รู้สึกว่าเย่เฉินอาจจะโกหกเพื่อเอาหน้า
ทว่าเย่เฉินไม่สนใจสักนิด เริ่มพูดว่า “ในเมื่อพวกนายไม่เชื่อ งั้นก็ให้ผู้เชี่ยวชาญมาระบุให้แน่ชัดไปเลย”
พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็พูดอีกว่า “จริงสิ ทุกคนอย่าลืมล่ะ เพื่อนร่วมคลาสหวังเถิงเฟยให้ตายก็ไม่สำนึกผิด ยังจะสาบานอีก ครั้งนี้ต้องกินโต๊ะ”
หวังเถิงเฟยคิดถึงเรื่องที่รถถูกเผาเมื่อครู่ จึงด่าอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “เย่เฉิน นายแม่งอวดดีให้มันน้อยๆ หน่อย! เรื่องแข่งรถเมื่อครู่ เป็นฉันที่ถูกนายครอบงำ! ฉันเต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้! ครั้งนี้กูก็ยินดียอมรับความพ่ายแพ้เหมือนเดิม ถ้าภาพวาดที่นายให้มีมูลค่านับหมื่นจริง กูก็จะยอมกินโต๊ะ! แต่ถ้ามันไร้ราคา นายจะกินไหมล่ะ”
เย่เฉินพยักหน้าและพูดว่า “ได้ ถ้ามันไร้ราคา ฉันกินก็ได้”
ภาพวาดนั้นถึงแม้ไม่ใช่ภาพวาดที่มีชื่อเสียงอะไร แต่ที่จริงแล้วเป็นผลงานของหวงเสิ้นจิตรกรแห่งราชวงศ์ชิง และร้านขายของเก่าแห่งนั้นเป็นเครือข่ายระดับประเทศ มีการรับประกันของแท้ ไม่ใช่ของแท้ชดใช้สิบเท่า เพราะฉะนั้นภาพวาดนี้จึงไม่สามารถเป็นของปลอมได้
เซียวซูหรันอยากห้ามเย่เฉิน แต่ยังไม่ทันตั้งตัวเลย และเย่เฉินก็ตกลงไปแล้ว จึงหมดหนทาง ดังนั้นจึงแอบถอนหายใจคนเดียว
ต่งรั่งหลินก็ค่อนข้างประหลาดใจ ทำไมเย่เฉินถึงได้มั่นใจนัก
ที่จริงแล้วเมื่อดูให้ดีๆ คนคนนี้ยังคงลึกลับ วันนั้นที่เทียนเซียงฝู่ ท่านหงห้าผู้โด่งดังก้มหัวให้เขาอย่างคาดไม่ถึง มันเพราะอะไรกันแน่ เธอยังไม่เข้าใจมาโดยตลอด
แต่ในใจเธอก็มั่นใจ ว่าตัวตนเย่เฉินต้องมีความลับบางอย่างแน่!
หวังเถิงเฟยรู้สึกว่าในที่สุดเขาก็มีโอกาสที่จะแก้แค้นได้แล้ว โพล่งออกมาทันที “ดี ทุกคนเป็นพยาน เราให้หลิวลี่ลี่เชิญพ่อของเธอลงมาสักครั้ง ช่วยเราประเมินให้แน่ชัด!”
หลิวลี่ลี่ต่อสายโทรออกโดยตรงต่อหน้าทุกคน พูดว่า “คุณพ่อคะ คุณลงมาที่นี่ครู่หนึ่งค่ะ เพื่อนร่วมคลาสของเต้าคุนให้ภาพวาดมาภาพหนึ่ง อยากรบกวนให้คุณมาตรวจสอบหน่อยค่ะ”
หนึ่งนาทีต่อมา ชายชราคนหนึ่งก็เดินช้าๆ ลงมาจากบันไดชั้นสอง
บุคคลนี้คือผู้เชี่ยวชาญการประเมินโบราณวัตถุหลิวเยว่เซิน
วันนี้เป็นวันเปิดร้านอาหารของลูกสาวกับว่าที่ลูกเขยของหลิวเยว่เซิน เขาจึงเชิญเพื่อนเก่ามาด้วย อยู่ด้วยกันในห้องส่วนตัวชั้นบน ได้ยินว่ามีภาพวาดโบราณที่ต้องประเมิน ทันทีที่นิสัยมืออาชีพเกิดขึ้น จึงรีบลงมาดู
หลิวเยว่เซินก้าวเดินขึ้นเวที หลิวลี่ลี่รีบยื่นของขวัญที่เป็นภาพวาดให้เขา แล้วพูดว่า “คุณพ่อคะ คุณพ่อรีบประเมินภาพนี่หน่อยค่ะ มีคนบอกว่ามันมีมูลค่าหลายหมื่น!”
พูดอย่างนั้นแล้วเธอก็มองไปยังเย่เฉินด้วยสีหน้าดูถูก
ยาจกที่เกาะผู้หญิงกิน ให้ภาพวาดโบราณหลายหมื่นหยวน ใครจะเชื่อ
ไม่ต้องเดาก็รู้ ภาพวาดต้องเป็นของปลอมแน่นอน!
คนอื่นๆ ก็คิดเหมือนกับเธอ
ไม่มีใครเชื่อว่าเย่เฉินจะสามารถให้ภาพวาดหลายหมื่นได้
หลิวเยว่เซินรับกล่องของขวัญไป ท่ามกลางสายตาของสาธารณชน ดึงเอาม้วนออกมาแล้วเปิดมันอย่างระมัดระวัง
ภาพวาดโบราณเป็นสีเหลืองบางส่วน มันดูต่ำต้อยด้อยค่ามาก เพื่อนร่วมคลาสหลายคนที่ชอบตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกพูดว่า “โอ้พระเจ้า ดูแล้วไม่เหมือนของดีอะไรเลย!”
“นั่นสิ ฉันดูแล้วราคาแค่ห้าสิบหยวนเท่านั้นแหละ”
“เดาว่ามันยังไม่คุ้มค่ากับกล่องนั่นเลยว่าไหม กล่องนั่นน่าจะราคาเจ็ดสิบแปดสิบ!”
เพื่อนร่วมคลาสทุกคนก็ตกใจ
คราวนี้ ใครก็ไม่กล้าดูถูกเย่เฉินอีกแล้ว!
เพราะสุดท้ายแล้วเขาเป็นคนที่มอบภาพวาดโบราณมูลค่ามากกว่าสองแสนให้เป็นของขวัญโดยไม่คิดมาก!
ในใจทุกคนอิจฉาหวังเต้าคุนจนเกือบตาย!
สุดยอดจริงๆ! ได้ของขวัญราคาแพงเช่นนี้ในงานเปิด ลงทุนน้อยแต่ได้กำไรมาก!
ตอนนี้หลิวลี่ลี่ตกใจมาก เปลี่ยนมุมมองต่อเย่เฉินใหม่ทันที
พ่อของตนอยู่ระดับไหน ใจเธอรู้ดีที่สุด ในเมื่อพ่อตนบอกว่าภาพวาดมีมูลค่ามากกว่าสองแสน เช่นนั้นมันก็มูลค่าตามนั้นแน่นอน!
โอ้สวรรค์! เพื่อนร่วมคลาสของหวังเต้าคุนมอบของขวัญที่ราคาแพงเช่นนี้ ความโอ้อวดนี้ไม่ใช่ว่าใหญ่มากหรอกหรือ!
คิดถึงตรงนี้ เธอก็มองเย่เฉินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยแสงดาวเปล่งประกาย
เซียวซูหรันถามด้วยความไม่เข้าใจ “เย่เฉิน ภาพวาดนี้คุณจ่ายไปเท่าไรกันแน่”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วกระซิบว่า “ที่จริงแล้วไม่ได้จ่ายไปมากนัก สาเหตุหลักคือภาพวาดนั่นเป็นคนรู้จักขายให้ผม เขาก็เลยลดให้ ดังนั้นจึงคิดราคาถูกให้ผม”
เซียวซูหรันอดจะพูดไม่ได้ว่า “ภาพมากกว่าสองแสน ขายให้คุณไม่กี่พันหยวน ยังมีคนดีแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ”
เย่เฉินพูดบางเบาว่า “ที่จริงมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเงินขนาดนั้น ผมก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ไม่อย่างนั้นผมจะมอบภาพวาดนี้ให้เต้าคุนเหรอ”
เซียวซูหรันพยักหน้าเบาๆ ที่เย่เฉินพูดนั้นไม่ผิด ถ้าเงินสำคัญมาก ก็จะไม่มีใครให้ของแพงเช่นนี้ ดูเหมือนว่า ถึงแม้ว่าสามีของตนจะไม่ได้โดดเด่น แต่จิตวิญญาณนั้นสูงส่ง!
ขณะนี้เย่เฉินลุกขึ้นยืน มองหวังเต้าคนที่กำลังหน้าตาตื่นตระหนกลุกลี้ลุกลน จึงถามยิ้มๆ ว่า “เพื่อนร่วมคลาสหวังเถิงเฟย โต๊ะนี่นายจะกินยังไง จะเอาปากกัดกินโดยตรง หรือจะให้เอามีดมาสับเป็นชิ้นๆ ให้นายกินทีละชิ้นดี”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...