เสียงระเบิดที่รุนแรงและดังทะลุเมฆหมอกแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองจินหลิงภายในพริบตา และยิ่งทำให้ทั้งเมืองที่อยู่ในความมืดตื่นตกใจ
และบนหุบเขาที่เป็นสถานที่เกิดเหตุระเบิดนั้น จากสถานที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพืชไม้ที่อุดมสมบูรณ์ในตอนแรกก็ถูกแรงระเบิดทำลายล้างจนไม่เหลือชิ้นดี กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่ารูปวงกลมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางนับร้อยเมตร!
ไม่มีร่องรอยใด ๆ ของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งโดยสมบูรณ์แล้ว ทั้งร่างกายของเขากลายเป็นไอ ไม่เหลือแม้แต่ซาก
ส่วนคำว่าร่างเนื้อแต่แต่กำเนิดวิญญาณนั้น กลับเป็นเพียงเรื่องหลอกเท่านั้น เป็นเช็คเด้งใบหนึ่งที่หลอกให้พวกเขาไปตายอย่างใจป้ำ
กระทั่งวินาทีที่ตายไปแล้ว ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าค่ายกลที่ผู้มีพระคุณทิ้งไว้ในจุดหนีว๋านเมื่อ 30 ปีก่อน มันไม่ใช่ค่ายกลที่สามารถกักเก็บดวงวิญญาณอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่เป็นค่ายกลระเบิดตัวเองที่มีพลานุภาพทรงพลังอย่างยิ่ง
เมื่อประสบกับช่วงเวลาสำคัญแห่งความเป็นความตาย นึกว่านี่เป็นโอกาสที่จะสามารถกลับชาติมาเกิดใหม่ แต่กลับไม่นึกเลยว่าเป็นอุบายที่จะได้ตายไปพร้อมกับคู่ต่อสู้
และขณะที่ระเบิด เย่เฉินที่อยู่ห่างจากท่านเอิร์ลฉางเซิ่งไม่ถึง 200 เมตรก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน
บนพื้นดิน นอกจากเศษเสื้อผ้าที่ระเบิดแตกของเย่เฉินแล้ว ก็เหลือเพียงเศษวงศ์ย่อยหอยมือเสือที่มีขนาดเท่าเล็บมือไม่กี่ชิ้น
เดิมทีเศษซากเหล่านี้เป็นมีดทะลุวิญญาณของเย่เฉิน
ส่วนยันต์ฟ้าร้องที่เขากลั่นสกัดมาจากไม้ฟาดสายฟ้าก็กลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ในแรงระเบิดตั้งนานแล้ว!
และวินาทีนี้ บริเวณริมขอบของพื้นที่ว่างทรงกลมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางนับร้อยเมตรนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส กำลังดิ้นรนพลางคลานเข้ามาข้างหน้า
ซึ่งเธอก็คือท่านเอิร์ลติ้งหยวน หยุนหรูเกอ!
ขณะที่ระเบิด เนื่องจากหยุนหรูเกออยู่ห่างจากทั้งสองประมาณ 10 กว่าฟุต ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากจุดศูนย์กลางของแรงระเบิดที่มีอำนาจทำลายล้างสูง
แต่สถานการณ์ในตอนนี้ของเธอก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่นัก
เธอถูกคลื่นพลังที่มากมายมหาศาลม้วนซัดจนกระเด็นออกมา สภาวะของร่างกายไม่ต่างอะไรจากการก้าวขาเข้าไปในประตูนรกแล้วข้างหนึ่ง
เส้นลมปราณทั้งร่างกายของเธอขาดหมด กระดูกก็แตกหักไปเกือบครึ่ง อวัยวะภายในยิ่งได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส วินาทีนี้แม้จะยังไม่ตาย แต่การที่จะสามารถมีชีวิตรอดกลับมาจากบาดแผลที่สาหัสเช่นนี้ได้หรือไม่นั้น ยังเป็นเรื่องที่ไม่อาจทราบได้
หยุนหรูเกออดกลั้นความเจ็บปวดพลางพยายามคลานไปข้างหน้า พลางหายใจหอบ ทว่ากลับด่ากราดเสียงต่ำอย่างอดไม่ได้: “ผู้มีพระคุณเฮงซวย……ไม่นึกเลยว่า……ไม่นึกเลยว่าจะหลอกพวกเรามา 30 ปีเต็ม ๆ!”
“หลังจากเปิดจุดหนีว๋านออกแล้ว มันจะมี……มันจะมีเรื่องดี ๆ ว่าร่างเนื้อตายแล้วกำเนิดวิญญาณใหม่ได้ยังไง? นี่มัน……นี่มันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!”
“ไอ้ลูกหมาจรนั่น……ก็แค่……ก็แค่มองว่าพวกเราทั้งสี่คน…..เป็น……เป็นระเบิดมะ……มนุษย์……”
“หลอกพวกเราว่าเมื่อเจอวิกฤตการณ์แห่งความตาย จะสามารถทิ้งวิญญาณไว้เสี้ยวหนึ่ง คลองวิญญาณกับชาติมาเกิด ให้ความหวังพวกเรา……”
……
ย้อนเวลากลับไปถึงเมื่อสามนาทีก่อน
ณ โรงแรมน้ำพุร้อนช็องเซลีที่ห่างจากจุดระเบิดไม่ไกล
ผู้คนในตระกูลอานถูกหงห้าจัดแจงให้อยู่ภายในคฤหาสน์แห่งหนึ่งที่อยู่กลางเขา
เมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องที่ดังมาจากจุดที่ห่างออกไปไม่ไกล คนทั้งตระกูลต่างรู้สึกว่าเสียงฟ้าร้องนี้ผิดปกติมาก สีหน้าของแต่ละคนดูกระวนกระวาย โดยเฉพาะคุณท่านอานฉี่ซาน กระวนกระวายจนเดินไปเดินมาอยู่ในห้องนอน ไม่เคยหยุดนิ่งแม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อหงห้าเห็นแบบนี้ จึงรีบเดินเข้ามาปลอบใจว่า: “คุณท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ศักยภาพของอาจารย์เย่ล้ำเลิศ เสียงฟ้าร้องเหล่านั้นต้องเป็นฆาตสายฟ้าที่อาจารย์เย่เรียกมาแน่นอน คาดว่าตอนนี้นักฆ่าคนนั้นคงถูกอาจารย์เย่ผ่าจนกลายเป็นฝุ่นผงไปแล้วล่ะครับ!”
อานฉี่ซานพูดพึมพำ: “นายบอกว่าเฉินเอ๋อสามารถเรียกฆาตสายฟ้าได้อย่างนั้นหรือ?!”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ!”หงห้าพยักหน้าแรง ๆ แล้วตอบกลับด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเลื่อมใส: “ข้าน้อยเคยมีโอกาสพบเห็นฆาตสายฟ้าของอาจารย์เย่อยู่ไม่กี่ครั้ง ขณะที่สายฟ้ามาเยือน ท้องฟ้าจะเต็มเปี่ยมไปด้วยเมฆครึ้ม ฟ้าแลบฟ้าร้อง ฆาตสายฟ้าจะจุติลงมาจากฟ้า เสียงดังกึกก้อง ภูเขาผืนดินสนั่นหวั่นไหว ไม่ต่างอะไรจากเทพสวรรค์จุติเลยครับ!”
“นะนี่……”ผู้คนแต่ละคนในตระกูลอานตกตะลึงจนตาค้าง ใบหน้าของอานฉี่ซานก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความตะลึงงันเช่นกัน: “นี่มันจะมีทางเป็นไปได้ยังไง……”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...