ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 101

บทที่ 101 จะยกให้ผมให้ได้

หวังเหวินเฟยก็ตกใจมาก

คฤหาสน์ในTomson Riviera เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าที่สุดในตระกูลหวัง

บ้านหลังนี้ ตอนนี้เป็นของผู้นำตระกูลของตระกูลหวัง หวังเจิ้งกางลุงใหญ่ของหวังเหวินเฟยเป็นเจ้าของ

หวังเจิ้งกางเป็นพ่อของหวังเหวินข่าย ตอนนี้เป็นหัวหน้าดูแลตระกูลหวัง ส่วนพ่อของหวังเหวินเฟยเป็นเพียงผู้ช่วย

คฤหาสน์หลังนี้ อย่าว่าแต่หวังเหวินเฟย ต่อให้เป็นพ่อของหวังเหวินเฟยก็อยากได้แทบแย่ แต่จะทำยังไงได้ ครอบครัวของพวกเขาไม่มีปัญญาซื้อคฤหาสน์ที่แพงขนาดนี้

ได้ยินว่าลุงใหญ่ยกคฤหาสน์หลังนี้ให้กับเย่เฉิน หวังเหวินเฟยทั้งตกใจและเจ็บปวดมาก รีบพูดกับเซียวเวยเวยว่า “คุณรอสักครู่ ผมถามลุงใหญ่ผมดูก่อน”

เซียวเวยเวยวางสาย มองดูเย่เฉิน พร้อมกัดฟันถามขึ้นว่า “เย่เฉิน คุณใช้วิธีอะไร ถึงได้หลอกเอาคฤหาสน์หลังนี้มาจากลุงใหญ่ของเหวินเฟย?”

เย่เฉินพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “คฤหาสน์หลังนี้ หวังเจิ้งกางอยากที่จะยกให้ผมเอง”

“คุณพูดไปเรื่อย” เซียวเวยเวยตะคอกพูดขึ้นว่า “คุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลหวังเลย คุณลุงหวังจะยกบ้านให้คุณได้ยังไง ยกบ้านที่แพงขนาดนี้ให้กับคุณ จะต้องเป็นการใช้วิธีสกปรกอะไรสักอย่างแน่”

ตอนนี้ หวังเหวินเฟยได้โทรมาเซียวเวยเวย พร้อมพูดว่า “เวยเวย เหมือนลุงใหญ่ของผมกำลังยุ่งอยู่ ได้พูดเพียงประโยคเดียวก็วางสายโทรศัพท์ผมแล้ว”

เย่เฉินหัวเราะ หยิบมือถือขึ้นมาแล้วก็เปิดลำโพง โทรออกไปหาหวังเจิ้งกาง

เสียงมือถือดังเพียงครั้งเดียว ก็มีคนรับสายทันที

เซียวเวยเวยอึ้งไปทันที

“อาจารย์เย่” น้ำเสียงของหวังเจิ้งกาง พูดขึ้นอย่างเอาอกเอาใจว่า “อาจารย์เย่ น่าจะได้ไปดูคฤหาสน์ในTomson Riviera หลังนั้นแล้วใช่ไหม? ไม่รู้ว่าอาจารย์เย่พอใจหรือไม่?”

เย่เฉินพูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมมาดูคฤหาสน์แล้ว โดยรวมแล้วก็ใช้ได้ คุณมีความตั้งใจแล้ว”

หวังเจิ้งกางรีบพูดขึ้นว่า “อาจารย์เย่ชอบก็ดีแล้ว”

เย่เฉินพูดขึ้นว่า “ผมโทรมาก็เพราะอยากบอกคุณว่า คฤหาสน์ผมพอใจ”

“หากอาจารย์เย่ยังต้องการอะไรอีก ก็บอกผมได้ตลอด ผมจะทำให้ทุกอย่าง ให้อาจารย์เย่พอใจ”

ผู้คนรอบๆเงียบสงบ ทุกคนตกอยู่ในอาการตกตะลึง

คิดไม่ถึงว่าคฤหาสน์นี้ เป็นหวังเจิ้งกางยกให้กับเย่เฉินจริงๆด้วย เพราะอะไรกันแน่?

คิดไม่ถึงว่า หวังเจิ้งกางที่แม้แต่คู่หมั้นของตนเวลาเจอ ยังต้องให้ความเคารพนับถือ กลับเป็นเหมือนหมาตัวหนึ่ง เลียแข้งเลียขาเย่เฉินไอ้สวะคนนี้ นี่ทำให้ใบหน้าของเซียวเวยเวยร้อนรุ่ม รู้สึกเสียหน้าอย่างมาก

ในที่สุดเธอก็อดทนไม่ไหว ตะโกนพูดผ่านมือถือของเย่เฉินว่า “คุณลุงหวัง ฉันเป็นเซียวเวยเวย คู่หมั้นของเหวินเฟย ท่านคงไม่ได้ยกคฤหาสน์ให้กับเย่เฉินเฉยๆใช่ไหม ด้วยเหตุผลอะไรกันแน่หรือ?”

“เชอะ เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาถามถึงเรื่องส่วนตัวของผม?”

หวังเจิ้งกางพูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยม

ใบหน้าเซียวเวยเวยร้อนรุ่มขึ้นมาทันที

เย่เฉินพูดขึ้นว่า “หวังเจิ้งกาง คุณอธิบายให้พวกเธอฟังหน่อยเถอะ ไม่เช่นนั้น พวกเธอจะคิดว่าผมหลอกลวงคุณ”

“ได้ครับ” หวังเจิ้งกางรีบพูดขึ้นว่า “ในเมื่อคุณเย่พูดแล้ว งั้นผมก็จากขอบอกกับทุกคนว่า ผมติดหนี้บุญคุณคุณเย่อย่างใหญ่หลวง ดังนั้นจึงยกคฤหาสน์ให้เป็นการตอบแทน คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องหากยังกล้าสงสัยในตัวคุณเย่ ผมจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่”

เซียวเวยเวยเสียใจอย่างมาก เธอเคยถูกด่าอย่างรุนแรงแบบนี้เสียเมื่อไหร่ สีหน้าใบหูแดงก่ำ เสียใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา

เห็นเซียวเวยเวยเสียใจจนร้องไห้ขึ้นมา เซียวฉางเฉียนก็รู้สึกเสียหน้ามาก จึงพูดขึ้นอย่างเอาอกเอาใจว่า “ประธานหวัง เวยเวยยังเป็นแค่เด็ก เธอก็แค่แปลกใจ ไม่ได้มีความหมายอื่นแฝง”

หวังเจิ้งกางกลับไม่สนใจเขา พูดขึ้นอย่างให้ความเคารพว่า “คุณเย่ ยังต้องการให้ผมอธิบายอะไรอีกไหม?”

“แค่นี้ก็พอแล้ว” เย่เฉินพยักหัว

“งั้นผมไม่รบกวนคุณเย่แล้ว มีอะไรก็โทรหาผมได้ตลอด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน