บทที่ 105 ลงมือ
เมื่อคืนเซียวฉางเฉียนกับนายหญิงใหญ่เซียวได้พูดคุยกัน และได้ทำการวางแผนอย่างรอบคอบทุกอย่างแล้ว
วันนี้ เขายังได้เรียนเชิญบุคคลที่น่าเคารพนับถือของตระกูลเซียวมาด้วย ตั้งการสอบสวนด้วยสามหน่วยงาน
ครึ่งหนึ่งล่อลวง ครึ่งหนึ่งข่มขู่คุกคาม ก็เพื่อให้เซียวฉางควนส่งมอบคฤหาสน์ด้วยความสมัครใจ
หากไม่ส่งมอบด้วยความสมัครใจ ก็จะต้องบังคับขู่เข็ญเขาให้ส่งมอบ
ตามความคิดของเขา เซียวฉางควนมักเป็นคนขี้ขลาดที่สุด โดนแม่ดุไปคำหนึ่งก็จะตัวสั่นไปทั้งตัวเลย พอถึงเวลา เขาก็จะส่งมอบคฤหาสน์ด้วยความนอบน้อมอย่างแน่นอน
ส่วนเซียวชูหรัน ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่นิด ผู้หญิงที่แต่งงานออกไปแล้ว จะมีสิทธิ์พูดอะไรได้?
ยิ่งไปกว่านั้นยังไปแต่งงานกับคนที่ไม่เอาไหน
ส่วนเย่เฉินคนไม่เอาไหนคนนั้น ก็ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงเลย
ไปขึ้นเขยตระกูลเซียวมันไม่มีสถานะอะไรอยู่แล้ว แม้แต่สิทธิ์ในการพูดยังไม่มีเลย
ให้เขาส่งมอบคฤหาสน์ เขาก็ต้องส่งมอบอย่างโดยดี
แต่ เซียวฉางเฉียนคิดไม่ถึงว่า เซียวฉางเฉียนถูกบีบบังคับเกิน ถึงกับกล้าต่อปากต่อคำนายหญิงใหญ่
เซียวชูหรันเป็นหลานสาว แต่กลับไม่ฟังคำพูดของนายหญิงใหญ่
แม้แต่คนไม่เอาไหนอย่างเย่เฉิน ยังกล้าชี้นิ้วไปที่จมูกของนายหญิงใหญ่ แล้วด่าเธอว่าหน้าไม่อาย
“พวกเธอทั้งครอบครัว จะก่อกบฏกันแล้วใช่ไหม?”
เซียวฉางเฉียนกัดฟันด้วยอารมณ์โกรธ หันกลับไปพูดว่า "แม่ อย่าปล่อยให้พวกเขาเดินออกไปดื้อๆแบบนี้ หากวันนี้จบกันแบบนี้ ต่อไปตระกูลเซียวเรา คิดว่าจะไม่ถูกพวกเขาทั้งครอบครัวกดขี่หรือ? ต่อไปท่านอยู่ในตระกูลเซียวยังจะมีความน่าเกรงขามอยู่อีกหรือ?"
สีหน้านายหญิงใหญ่เซียวดูไม่ดีเลย
ทั้งชีวิตของเธอได้กุมความปรารถนาอย่างแรงกล้า
หลังจากที่นายท่านเสียชีวิต เธอก็กุมอำนาจของทั้งตระกูลเซียวไว้ในมือตัวเองมาโดยตลอด และไม่ยอมให้ใครมาท้าทายอำนาจของเธอ
แต่ก็ไม่คาดคิดว่า วันนี้กลับถูกครอบครัวเซียวชูหรันทั้งสามอกตัญญูต่อเธอ นี่จึงทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อารมณ์ฉุนเฉียว "ตระกูลเซียวโชคร้าย มีครอบครัวสารเลวแบบนี้ พวกเธอล้วนแล้วแต่เป็นคนตระกูลเซียวของฉัน ตราบใดที่ฉันยังไม่ตาย คำพูดของฉันพวกเธอต้องฟัง"
ช่างเถอะ นายหญิงใหญ่เซียวตะโกนอย่างรุนแรง "ปิดประตู ลงโทษด้วยกฎของตระกูล"
เธอถือว่ามีอำนาจในตระกูลเซียว ปกติเธอเป็นที่น่าเคารพนับถือของเซียวฉางควน วันนี้กลับกล้าอกตัญญูต่อเธอ
หนึ่งในนั้นยังมีหลานสาวและหลายเขย เธอเองก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขาเลย
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปกติแล้วเซียวฉางควนสั่งสอนลูกหลานอย่างไร ถึงได้เป็นคนอกตัญญูเช่นนี้
หากวันนี้ไม่ถูกลงโทษอย่างสาสม ความน่าเกรงขามของผู้นำครอบครัวอย่างเธอยังจะเหลืออยู่ไหม?
และอีกอย่าง หากวันนี้ปล่อยให้พวกเขาเดินออกไปดื้อๆแบบนี้ คฤหาสน์Tomson Rivieraยังจะทวงคืนได้อย่างไร
เธออยู่มาครึ่งค่อนชีวิต ก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้อยู่ในคฤหาสน์แบบนั้น ตอนนี้คฤหาสน์หลังนี้ตกอยู่ในเงื้อมมือของลูกชาย อย่างไรก็ตามก็ต้องแย่งมาสนองความเพลิดเพลินสักครั้ง
ดังนั้น ไม่ว่าจะอย่าง ก็ตาม ต้องให้พวกเขาส่งมอบคฤหาสน์ให้ได้
แม้ว่าจะต้องออกจากตระกูลเซียวก็ตาม ก็ต้องส่งมอบคฤหาสน์ก่อน
ดังนั้น บอดี้การ์ดและคนรับใช้ทั้งหลายก็เดินล้อมเข้ามาทันที ล้อมรอบทั้งสามคนไว้
เย่เฉินยืนอยู่ที่ลานกว้างของคฤหาสน์เก่า เชิดหน้าเย่อหยิ่ง สายตาที่เย็นชาจ้องมองเหล่าบอดี้การ์ด พูดด้วยอารมณ์โกรธว่า "ใครกล้าก้าวขึ้นมาแม้แต่ก้าวเดียว อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนะ"
"ขยะอย่างเธอนั้นหรือ ยังกล้ามาเสแสร้งอีก"
บอดี้การ์ดคนหนึ่ง ตะโกนด้วยความโกรธ ใช้ไม้กระบองฟาดไปยังเย่เฉินหนึ่งที
ดวงตาอันเย็นชาของเย่เฉิน หลบหลีกกระบองของเขาได้อย่างเหลือเชื่อ กลับคว้ากระบองได้ฟาดกลับไปที่ขาของฝ่ายตรงข้ามยังจัง
บอดี้การ์ดรู้สึกได้ถึงการโจมตีอย่างรุนแรงที่ข้อพับขา ขาควบคุมน้ำหนักไม่ได้จึงคุกเข่าลงต่อหน้าเย่เฉิน ขาของเขาก็หักไปเเล้ว
เย่เฉินไม่มองเขาแม้แต่พริบตาเดียว มือทั้งสองใช้กำลัง เสียงดัง"เปรี๊ยะ" ไม้กระบอกหักเป็นสองท่อน
“กร๊อง”
เมื่อก่อนตระกูลเซียวประเมินเย่เฉินต่ำมาโดยตลอด ให้เขาอยู่แต่ในบ้านไปซื้อผักทำกับข้าว แต่เย่เฉินก็เป็นลูกผู้ชาย ก็มีศักดิ์ศรีของตัวเอง
มีลูกผู้ชายคนไหน ยินดีที่จะซักผ้าและทำกับข้าวอยู่ที่บ้านไปตลอดชีวิต
ดูเหมือนว่า ครอบครัวละอายใจต่อเย่เฉินเป็นอย่างมาก
เวลานี้ เย่เฉินได้ต่อสู้กับเหล่าบอดี้การ์ดร่วงไปคนแล้วคนเล่า สีหน้าปราศจากความกลัว
ในลานสนามก็เละเทะกันไปหมด
เซียวเวยเวยและนายหญิงใหญ่ ได้เข้าไปหลบในห้องแต่เช้าแล้ว ในลานสนามเหลือแต่ผู้ชายทั้งนั้น
เซียวไห่หลงที่อยู่ด้านข้างเห็นแล้วก็อารมณ์ฉุนเฉียวมาก ไม่คิดว่าเย่เฉินจะฝีมือดีขนาดนี้ เห็นว่าเย่เฉินกำลังได้เปรียบ เซียวไห่หลงกัดฟัน ก้มไปหยิบขวานด้ามหนึ่งขึ้นมา ค่อยๆเดินไป ถือโอกาสที่เย่เฉินเตะบอดี้การ์ดคนหนึ่งร่วงลง กรูเข้าไปทุบหัวของเขา
“เย่เฉิน ระวัง”
เซียวชูหรันเห็นแสงวาบของความคม ทำให้ตกใจกรีดร้อง
“แม่ง ไอ้ขยะ กูจะสับมึงให้ตาย”
เซียวไห่หลงด้วยความแค้นและความเกลียดชังขึ้นขีดสุด ฟันเข้าไปอย่างแรง
เซียวฉางควนก็ตกใจจนขาทั้งสองอ่อนแรงหมด เกือบจะร่วงลงไปกองกับพื้น
พวกเขา ……นี่จะเอาเย่เฉินให้ถึงตายใช่ไหมเนี่ย
แสงวาบของขวาน
เวลาอันรวดเร็ว เย่เฉินยกมือขึ้นมาทันที นิ้วชี้ทั้งสองหนีบคมขวานไว้อย่างแม่นยำ หันไปมองเซียวไห่หลงอย่างเย็นชา
เซียวไห่หลงตกใจมาก อยากจะใช้แรงดึงขวานกลับมาก
แต่นิ้วมือทั้งสองของเย่เฉินยึดเหนียวดั่งกรงเล็บเสือ แม้ว่าเขาจะใช้แรงมากขนาดไหน ขวานเหล็กที่หนีบระหว่างนิ้วของเขาก็ไม่ขยับ
หน้าผากเซียวไห่หลงมีเหงื่อไหลออกมา ตะคอกว่า “ไอ้ขยะ ปล่อยมือ……”
เย่เฉินจ้องมองเขา ยิ้มเยาะเย้ยแล้วพูด “เซียวไห่หลง ไอ้คนโง่ คิดจะสับคนอื่นก็สับไม่ได้ ฉันว่าเธอเองนั่นแหละไอ้ขยะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...