ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 1642

สรุปบท บทที่ 1642: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1642 – ตอนที่ต้องอ่านของ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ตอนนี้ของ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน โดย เมฆทอง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย จีนทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1642 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เมื่อได้ยินเช่นนี้ การแสดงออกของซูจือหยูก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย

สิ่งที่ฉันพูดไปตอนเมื่อกี้นี้ ก็แค่อยากจะประชดพ่อเท่านั้นเอง แต่เมื่อนึกถึงเงาร่างของชายคนนั้นจริงๆ ซูจือหยูก็ยังคงกังวลใจในตัวเขามาก

นึกถึงว่าทากาฮาชิ มาจิคงจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ ซูจือหยูก็พูดโพล่งออกมาว่า “ครั้งหน้าตอนที่ฉันได้ไปคุยต่อหน้ากับทากาฮาชิ มาจิฉันจะเตือนเขาเองว่า ถ้าเขากล้าลงมือทำอะไรกับชายคนนั้นอย่างเงียบๆ หลังจากบรรลุความร่วมมือแล้ว งั้นฉันก็จะยุติความร่วมมือได้ตลอดเวลา!”

“ซุกซน!” ซูโสว่เต้าตำหนิอย่างดุดัน “ในฐานะที่เป็นตัวแทนของตระกูลซู ทุกอย่างจะต้องอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ตระกูลซู จะปล่อยให้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งส่งผลต่อผลประโยชน์ของตระกูลซูได้อย่างไร! ตราบใดที่เราสามมารได้รับเงื่อนไขข้อสัมปทานสูงสุดของทากาฮาชิ มาจิได้ ชีวิตและความเป็นตายของชายแปลกหน้าคนนี้มันจะเกี่ยวอะไรกับเรา!”

ซูจือหยูก็เริ่มรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมาเล็กน้อย เถียงอย่างเต็มปากเต็มคำว่า “ผู้ชายคนนั้นพยายามจะช่วยพี่น้องเด็กหญิงตัวเล็กๆ ถึงรุกรานตระกูลทากาฮาชิ ฉันจะทนดูให้ตระกูลทากาฮาชิฆ่าเขาไปได้อย่างไร?”

ซูโสว่เต้าพูดอย่างเหยียดหยามว่า “งั้นตอนที่ตระกูลทากาฮาชิฆ่าเขา คุณก็อย่าไปดูก็พอแล้วไม่ใช่หรือ?”

ซูจือหยูพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ท่านพ่อ! ท่านจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร? ยังจะมีหลักการและจริยธรรมอยู่หรือไม่? ”

“หลักการและจริยธรรมงั้นเหรอ?” ซูโสว่เต้ากล่าวอย่างเย็นชาว่า “หลักการและจริยธรรมของผมก็คือผลประโยชน์ของตระกูลซูเท่านั้น เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลซูแล้ว ผมสามารถไม่รักษาหลักการและจริยธรรมใดๆ ทั้งสิ้นก็ได้!”

“คุณ.......”

ซูจือหยูโกรธจนพูดไม่ออก

ซูจือเฟยรีบพูดจบเกมในเวลานี้ “คุณพ่อ จือหยู พวกเราคุยเรื่องของธุรกิจเรายังไม่จบเลย ทำไมพวกคุณสองคนถึงเถียงกันขึ้นมาอีกล่ะ?”

ซูโสว่เต้าพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “เอาล่ะๆ ไม่พูดถึงเรื่องไร้สาระเหล่านี้ จือหยู เรื่องที่คุณจะไปเรียน เอ็มบีเอ เราค่อยมาคุยกันหลังจากที่คุณกลับมา”

“ไม่ต้องคุยแล้ว” ซูจือหยูพูดด้วยท่าทางที่เย็นชาว่า “หนังสือแจ้งการรับเข้าเรียนของโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ดได้ส่งเข้ามายังอีเมลของฉันเรียบร้อยแล้ว ทางโรงเรียนจะเปิดเทอมในเดือนสิงหาคม และฉันจะออกเดินทางไปในเดือนพฤษภาคม”

ซูจือเฟยพูดกับผู้ช่วยทางโทรศัพท์ว่า “ปฏิเสธมัตสึโมโตะ โยชิโตะคนนั้นไป บอกว่าผมพักผ่อนไปแล้ว และไม่พบแขก”

ซูจือหยูเปิดปากพูดในเวลานี้ว่า “พี่ชาย หรือว่าจะไปพบสักหน่อยเถอะ มัตสึโมโตะ โยชิโตะคนนี้ยังพอมีความสามารถอยู่บ้าง มันไม่ง่ายเลย ที่จะนำตระกูลมัตสีโมโตะมารวมกันด้วยตัวเขาเอง และคนโบราญเขากล่าวไว้ว่าเอื้อมมือไปแต่ไม่ตบใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หัวหน้าตระกูลคนหนึ่งมาขอพบที่โรงแรมเป็นการส่วนตัว นี่มันก็เท่ากับว่าเขาลดต่ำแหน่งตัวเองลงต่ำมากแล้ว หากเราไม่ไปพบเลย มันก็ไม่สมเหตุสมผลเล็กน้อย”

ซูโสว่เต้ากล่าวในเวลานี้ว่า “จือหยู เวลาคุณทำงานคุณชอบคิดมากเกินไป ข้อนี้เป็นข้อที่ดีมาก แต่คุณก็ไม่ควรคิดมากจนเกินไป แบบนี้มันจะทำให้คุณลังเลมากขึ้น! ถ้าคุณไปพบมัตสึโมโตะ โยชิโตะในคืนนี้ ในวันพรุ่งนี้ตระกูลที่อยู่ที่สี่ ที่ห้า หรือแม้กระทั่งตระกูลที่สี่สิบและห้าสิบในโตเกียวก็จะมาที่ขอพบคุณที่โรงแรม คุณจะรับมือไหวหรือเปล่า? ”

“นี่.......” ซูจือหยูไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรในทันที

ซูโสว่เต้าก็กล่าวต่อไปว่า “เอาล่ะ เรื่องนี้ก็ทำตามที่พี่ชายคุณพูดเถอะ ปฏิเสธไปเถอะ”

ซูจือหยูพยักหน้า “โอเค........”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน