บทที่ 27 เลิกฝันได้แล้ว
เงินจำนวนหนึ่งล้านสามแสนกลายเป็นสองล้านในชั่วพริบตาทำให้หม่าหลันดีใจจนเนื้อเต้น เธอไม่อยากจะเชื่อเลย
เธอจึงเอ่ยถามโจวหัวซินอย่างตกตะลึง “เงินสองล้านนี้ให้ฉันจริงๆหรือ?”
โจวหัวซินรีบพยักหน้าตอบทันที “ใช่ครับ เป็นของท่าน!”
“ไอ้หยา อย่างนั้นก็เยี่ยมไปเลย!” หม่าหลันดีใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าหม่าหลันได้เงินสองล้าน! ซึ่งได้เยอะกว่าเงินต้นถึงเจ็ดแสน! คนที่มาเรียกร้องด้วยกันก็ดีใจจนเนื้อเต้น เพราะพวกเขาคิดว่าหากหม่าหลันได้คืน เช่นนั้นพวกเขาก็คงได้เงินคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแหละ?
ดังนั้นจึงมีคนเป็นตัวแทนเอ่ยถามขึ้นมา “ผู้จัดการโจว แล้วเงินของพวกเราล่ะ?”
ผู้จัดการโจวจึงรีบหันไปหาท่านหงห้า
ถึงแม้ท่านหงห้าจะไม่อยากคายเงินที่ตัวเองกินเข้าไปแล้ว ทว่าครั้งนี้ดันไปยั่วโมโหคุณชายเย่เข้า ดีไม่ดีอาจจะเอาชีวิตไม่รอด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจเงินแล้ว “คืน! คืนให้หมด! เห็นแก่หน้าคุณชายเย่ คืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับทุกคน!”
ฉับพลันทุกคนก็โห่ร้องอย่างดีใจ
ขณะนั้นเองจู่ๆเย่เฉินก็เอ่ยขึ้น “ท่านหงห้า คนพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผมสักหน่อย คุณบอกว่าเห็นแก่หน้าผมหมายความว่ายังไง? ทำบุญแบบมัดมือชกหรือ?”
ท่านหงห้าสะดุ้ง ก่อนรีบเอ่ยตอบ “คุณเย่หมายความว่ายังไงครับ? กระผมโง่ ฟังไม่เข้าใจ……”
เย่เฉินเอ่ย “เงินของคนพวกนี้ไม่เกี่ยวกับผม คุณอยากคืนก็คืน ไม่อยากคืนก็ไม่ต้องคืน แต่หากคุณกล้าบอกว่าคืนเงินเพราะเห็นแก่หน้าผม เช่นนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน!”
เมื่อสักครู่คนพวกนี้เยาะเย้ยตนไปกับหม่าหลัน ตอนนี้ทำไมตนต้องช่วยเอาเงินคืนให้พวกเขาด้วย?
กลับกันตนไม่เพียงแต่ไม่ช่วยพวกเขาเอาเงินคืนมาเท่านั้น แถมยังเตือนท่านหงห้าให้รู้ตัวว่าหากคืนเงินให้พวกเขาจะต้องมีเรื่องกับตน!
ท่านหงห้าก็เข้าใจได้ในทันทีจึงรีบเอ่ย “คุณเย่วางใจได้ ผมเข้าใจแล้ว!”
เอ่ยจบอีกฝ่ายก็หันไปบอกโจวหัวซิน “คืนเงินให้กับแม่ยายของคุณเย่คนเดียว คนอื่นไม่ต้องคืน!”
“ห๊ะ?!” เหล่าชายหญิงชราที่เมื่อสักครู่ยังดีใจจนเนื้อเต้น ตอนนี้ชะงักค้างไปหมดแล้ว บางคนถึงขั้นร้องไห้ครวญครางเสียงดัง
และยังมีคนอ้อนวอนขอความเมตตาจากเย่เฉิน ทว่าเย่เฉินก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน
พวกคนแก่ที่ทำตัวไม่น่าเคารพ เมื่อสักครู่ดูถูกเขาไว้ว่ายังไงบ้าง?
ตอนนี้พอเห็นว่าเขาจัดการท่านหงห้าได้ก็มาขอให้เขาช่วยอย่างนั้นหรือ?
ช่างหัวพวกเขาเถอะ!
เมื่อท่านหงห้าเห็นว่าเหล่าคนชราพวกนี้โวยวายเสียงดังจึงตะคอกออกมา “หุบปากเดี๋ยวนี้! ใครกล้าพูดมากจนทำให้คุณเย่ต้องรำคาญอีก ฉันจะฆ่ามัน!”
เหล่าชายหญิงชราพวกนี้จึงไม่กล้าส่งเสียงอีก……
ท่านหงห้าหันไปมองหวังเหวินข่ายที่ชะงักไปก่อนเอ่ย “คุณเย่ คุณชายหวังคนนี้เป็นเพื่อนคุณหรือ?”
เย่เฉินปรายตามองหวังเหวินข่ายแวบหนึ่ง หวังเหวินข่ายจึงรีบเอ่ยขอร้อง “เย่เฉิน เย่เฉิน ช่วยฉันด้วยเย่เฉิน! บอกท่านหงห้าไปเร็วว่าเราเป็นเพื่อนกัน! ฉันขอร้อง!”
เย่เฉินส่งเสียงหึ ก่อนหันไปบอกท่านหงห้า “ผมไม่รู้จักคนๆนี้ คุณรีบทำตามคำพูดของคุณเถอะ ตบจนพอใจแล้วค่อยปล่อยเขาไป”
ท่านหงห้าเข้าใจได้ในทันทีจึงหันไปสั่งการลูกน้อง “ตบต่อไป ไอ้สุนัขหน้าตัวเมียนี้ แค่เห็นหน้ามันฉันก็หงุดหงิดแล้ว!”
เย่เฉินขมวดคิ้วมุ่นพลางเอ่ยเสียงเย็น “ทำไมผมต้องช่วยพวกคุณด้วย? พวกคุณแต่ละคนสายตาเฉียบคมกันนักไม่ใช่หรือ? หากเอาเงินคืนมาไม่ได้ก็ไปเรียกลูกเขยพวกคุณมาช่วย!”
เอ่ยจบก็เดินจากไปทันที
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ต้องโทษตัวเองทั้งนั้น อยู่ดีไม่ว่าดีไปพูดจาพล่อยๆใส่เย่เฉินทำไม ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ……โอกาสที่จะได้เงินคืนก็สูญสิ้นแล้ว……
คิดมาถึงตรงนี้ก็มีคนที่โมโหจนตบหน้าตัวเองต่อหน้าทุกคน บางคนทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเหม่อลอย ร้องไห้ครวญคราง นี่คือเงินสำหรับซื้อโลงศพของตนเอง! ไม่มีก็จบสิ้นทุกอย่างแล้ว!
ทว่าพวกเขาก็ไม่มีวิธีแล้ว จะโทษคงต้องโทษที่ตัวเองปากเสีย โทษที่ตัวเองไม่มีลูกเขยที่ดีอย่างเย่เฉิน
ระหว่างทางกลับบ้าน หม่าหลันเอ่ยถามเย่เฉินด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เย่เฉิน แกไปรู้จักกับท่านหงห้านั่นได้ยังไง? ทำไมเขาถึงเกรงใจแกขนาดนี้?”
เย่เฉินตอบกลับพลางหัวเราะ “ผมจะไปรู้จักคนแบบเขาได้ยังไง ผมก็แค่โทรหาเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนคนนั้นสามารถทำให้หัวซินคืนเงินได้”
หม่าหลันได้ยนดังนั้น ฉับพลันก็รู้สึกผิดหวัง
เดิมทีคิดว่าเย่เฉินมีความสามารถที่เธอไม่รู้เสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นการไปขอให้คนอื่นช่วยอยู่ดี
ดังนั้นความยินดีเมื่อสักครู่จึงถูกแผดเผาไปไม่น้อย
ทว่าโชคดีที่ได้เงินคืนมาแล้ว แถมยังกำไรอีกตั้งเจ็ดแสน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอมองเย่เฉินในมุมที่ดีขึ้น
เธอเอ่ยกับเย่เฉิน “เย่เฉิน เรื่องวันนี้ต้องช่วยแม่เก็บเป็นความลับด้วยนะ ห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาด ถึงแม้แม่จะแก่แล้วแต่ก็ยังต้องรักษาหน้าตาไว้ใช่ไหมล่ะ?”
เย่เฉินยิ้มอย่างระอา ทำได้เพียงตอบตกลงเท่านั้น “ทราบแล้วครับคุณแม่”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...