ตามมาด้วย แสงไฟทั้งหมดบนเวทีปิดลงในพริบตา ทั้งเวทีดำมืดไปหมดในทันที
งานคอนเสิร์ตที่เดิมทีเฮฮาอย่างที่สุด ก็เงียบกริบลงในวินาทีนี้
ทุกคนล้วนอยากรู้ ว่าการแต่งตัวชุดสุดท้ายที่กู้ชิวอี๋ตั้งใจแต่ง จะเป็นยังไงกันแน่
ในเวลานี้ มีคนโพสต์หัวข้อสนทนานี้ลงในเวยป๋อ ไม่นานก็ขึ้นสู่คค้นหายอดฮิตอย่างรวดเร็ว หัวข้อคำค้นหายอดฮิตคือ:“เดาดูสิว่าชุดที่กู้ชิวอี๋ตั้งใจเตรียมตัวมาจะเป็นสไตล์ไหน!”
ที่ด้านล่างคำค้อนหายอดฮิตนี้ มีตัวเลือกไว้ให้หลายตัว มีสไตล์วินเทจ สไตล์สมัยใหม่ สไตล์ล้ำสมัย สไตล์ตะวันตก สไตล์ดำมืด สไตล์กอธิครวมทั้งสไตล์นามธรรม
ถึงขั้นมีแฟนคลับมีชื่อบางคนทำการทำแบบทดสอบพร้อมของรางวัล จะทำการเลือกผู้โชคดีสิบท่าน จากบุคคลที่เดาถูก มอบอัลบั้มพร้อมลายเซ็นของกู้ชิวอี๋ให้คนละชุด
เซียวชูหรันล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาเลื่อนดูเวยป๋อ อดไม่ได้จึงถามเย่เฉินเสียงเบาว่า “ที่รัก นายคิดว่าเดี๋ยวกู้ชิวอี๋จะเปลี่ยนชุดสไตล์ไหนขึ้นเวที?”
เย่เฉินพูดอย่างอึดอัดว่า “อันนี้….ฉันจะเดาถูกได้ยังไงกันละ….”
เซียวชูหรันพูดว่า “คนอื่นเขาเรียกนายว่าอาจารย์เย่กันหมดไม่ใช่หรือไง? นายคำนวณเป็น หรือว่าลองคำนวณดูไม่ได้หรอ?”
เย่เฉินส่ายหัว ตอบตามความจริงว่า “ฉันไม่ได้วิจัยเกี่ยวกับประเภทพวกสไตล์การแต่งตัว เพราะงั้นให้ฉันเดาจะต้องเดาไม่ถูกแน่นอน”
เซียวชูหรันคิดๆแล้วก็พูดว่า “งั้นฉันก็เดาสไตล์กอธิคแล้วกัน มีครั้งหนึ่งที่กู้ชิวอี๋ขึ้นปกนิตยสารแฟชั่น เลือกสไตล์กอธิคสีดำ ชุดในตอนนั้นไม่เพียงแต่ขึ้นคำค้นหายอดฮิต แต่ยังได้รับรางวัลอีกด้วย!”
เย่เฉินยิ้ม พูดอย่างจริงจังว่า “ที่รัก พูดตามจริงนะ ฉันไม่รู้แม้กระทั่งว่าสไตล์กอธิคคือสไตล์อะไรด้วยซ้ำ”
เซียวชูหรันพูดยิ้มๆ “สไตล์กอธิคโดยส่วนมากแล้วเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมของชาวเยอรมันในยุโรปตะวันตก นายจะต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับโบสถ์กอธิค อารามและปราสาทอะไรพวกนั้นของตะวันตกแน่นอน ก็คือพวกอาคารหินสูงตระหง่านเกินจริงดูแล้วเงียบสงบมากๆพวกนั้น ต่อมาก็ค่อยๆแปรสภาพเป็นวรรณกรรมกอธิค ดนตรีกอธิค ชุดกอธิคเป็นต้น ฉันเองก็เคยเรียนมาจากตอนที่เรียกออกแบบ ผู้ชายอย่างพวกนายไม่รู้พวกนี้ก็ปกติ”
พูดแล้ว เซียวชูหรันก็พูดอีกว่า “ฉันก็เดามั่วเป็นสไตล์กอธิคแล้วกัน ถ้าหากว่าเดาถูก ยังมีโอกาสได้รับอัลบั้มพร้อมลายเซ็นของกู้ชิวอี๋ด้วย!”
เย่เฉินพยักหน้า ไม่ค่อยได้สนใจใส่ใจสักเท่าไหร่ว่าชุดสุดท้ายของกู้ชิวอี๋จะเป็นสไตล์ไหน
เวลาผ่านไปสิบนาทีอย่างรวดเร็ว แสงไฟบนเวทียังไม่สว่าง กู้ชิวอี๋เองก็ยังไม่ปรากฏตัว
แต่ว่า ผู้ชมในงานก็ไม่ได้รีบร้อน กลับกัน แม้ว่าทุกคนจะตั้งตารอกันอย่างมาก แต่ก็ล้วนอดทนรอกันอย่างใจเย็น
แฟนคลับพวกนี้ที่ยินดีจ่ายเงินซื้อบัตรมาดูงานคอนเสิร์ตของเธอ ล้วนเป็นแฟนคลับตัวยงที่แท้จริง ไม่มีคนโห่ร้อง และก็ไม่มีคนโวยวาย
“ฉันหุนหันพลันแล่นอยากจะอยู่กับคุณและบินไปกับคุณมากเท่าไหร่”
“ในใจของฉันนั้นสั่นระรัวสั่นไหว”
ทุกคนในงานล้วนตกอยู่ในภวังค์แห่งบรรยากาศน่าอัศจรรย์ที่ได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นตัวคนอย่างนี้ เสียงของกู้ชิวอี๋ไพเราะอย่างมาก บวกกับเนื้อเพลงที่เต็มไปด้วยความสวยงามนี้ ทำเอาแฟนคลับในงานลุ่มหลงอยู่ในนั้น
และในเวลานี้ จู่ๆแสงไฟบนเวทีก็สว่างขึ้นกะทันหันอย่างไม่มีสัญญาณเตือน!
สปอตไลต์ทั้งหมด ล้วนเล็งไปที่ตรงกลางเวที ในเวลานี้เอง กู้ชิวอี๋ที่สง่างาม ใส่ชุดเจ้าสาวเกาะอกสีขาวที่สวยงาม ศักดิ์สิทธิ์และแพรวพราวสะดุดตา ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาจากตรงกลางเวที!
วินาทีนี้ ทั้งงานก็ระเบิดเฮกันในทันที!
ใครก็คาดไม่ถึง ว่าชุดสุดท้ายของเทพธิดากู้ชิวอี๋ จะเป็นชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์อย่างนี้!
เธอในตอนนี้ ในมือที่ใส่ถุงมือลูกไม้สีขาว กุมไมค์โครโฟนไว้เบาๆ ในดวงตามีน้ำตาคลอ และร้องท่อนคอรัลสุดคลาสสิกของเพลงนี้อย่างได้อารมณ์ “พรุ่งนี้ฉันจะแต่งงานกับคุณแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะแต่งงานกับคุณแล้ว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...