เรื่องที่ว่านพั่วจวินกลับมายังเย่นจิง ภายนอกนอกจากซูเฉิงเฟิงแล้ว กลับไม่มีคนอื่นที่ทราบ
ทว่าก่อนหน้าตั้งนานที่ว่านพั่วจวินจะกลับเย่นจิง เขาก็ได้ส่งผู้แจ้งข่าวจำนวนสิบคนจากสำนักว่านหลง
แฝงตัวอยู่ในเย่นจิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้แจ้งข่าวเหล่านี้แทรกซึมอยู่ในทุกธุรกิจของเย่นจิง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ของตระกูลใหญ่โตทั้งหลายในเย่นจิง ต่างก็รู้อย่างกระจ่างชัด
หลังจากการเดินทางของเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ยุโรปเหนือกำหนดแล้ว ข่าวคราวก็ได้แพร่สะพัดในเย่นจิงในเวลาอันรวดเร็ว
ตระกูลใหญ่โตทั้งหลายล้วนแต่อิจฉากับเรื่องที่ตระกูลเย่กำลังจะแต่งงานกับราชวงศ์ยุโรปเหนือเป็นอย่างยิ่ง คิดกันว่าตระกูลเย่ได้คว้าโอกาสดีในการบุกสู่ยุโรป
ลู่เห้าเทียนจากพญาเสือแพรขาวภายใต้บัญชาของว่านพั่วจวิน เร่งรีบมายังเบื้องหน้าเขา พร้อมเอ่ยอย่างสุภาพนอบน้อม: “ประมุข เพิ่งได้รับข่าวสารว่าตระกูลเย่ได้สานสัมพันธ์งานแต่งกับราชวงศ์ยุโรปเหนือเรียบร้อยแล้ว หลานชายคนโตของพวกเขาเย่เฟิง จะแต่งงานกับเจ้าหญิงคนโตของราชวงศ์ยุโรปเหนือ อีกสองวันข้างหน้า เจ้าหญิงคนโตคนนั้นก็จะมาถึงเย่นจิง ได้ยินมาว่าเจ้าหญิงคนโตท่านนี้ยังจะเข้าร่วมพิธีบูชาบรรพบุรุษของตระกูลเย่อีกด้วย!”
“เจ้าหญิงคนโตแห่งยุโรปเหนือ?” ว่านพั่วจวินเบ้ปากอย่างไม่สนใจ เอ่ยว่า: “ถ้าฉันจำไม่ผิด เจ้าหญิงคนโตผู้น้ี เหมือนว่าจะถูกยึดสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ราชินีอย่างลับๆ ตั้งนานแล้วสินะ?”
ลู่เห้าเทียนพยักหน้า เอ่ยว่า: “ข้อมูลข่าวสารของวงศ์ตระกูลราชวงศ์ของยุโรป พวกเขาทราบอย่างกระจ่างแจ้งดี เจ้าหญิงคนโตจากยุโรปเหนือท่านนี้ เดิมทีหากยึดตามกฎของการสืบทอดราชวงศ์ ควรที่จะได้รับเป็นผู้สืบทอดตามลำดับหนึ่ง ทว่าไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไรกันแน่ เธอถึงได้ถูกราชวงศ์ทอดทิ้งตั้งแต่นานมากแล้ว”
ว่านพั่วจวินเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน: “มกุฎราชกุมารที่ถูกทอดทิ้งคนหนึ่ง พูดตามจริงเลยก็คือนกฟีนิกซ์ที่ตกอับ หากคนประเภทนี้อยู่ที่ยุโรป ไม่มีตระกูลใหญ่โตที่ไหนเห็นคุณค่าหรอก คิดไม่ถึงนะว่าเมื่ออยู่ในหัวเซี่ยแล้วจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าซะนี่”
ลู่เห้าเทียน เอ่ยอยู่ข้างๆ : “เหมือนว่าตระกูลเย่ต้องการที่จะได้รับช่องทางบางอย่างในยุโรปผ่านเจ้าหญิงท่านนี้”
ว่านพั่วจวินเอ่ยอย่างเหยียดหยาม: “มีฉันอยู่ ทรัพย์สินและกิจการของตระกูลเย่จะน้อยลงเรื่อยๆ ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ไม่มีทางให้พวกเขาได้โอกาสบุกเข้าสู่ยุโรปแน่นอน!”
สิ้นเสียง ว่านพั่วจวินก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “เห้าเทียน นายรีบส่งคนไปหาซื้อโลงศพที่ถูกและคุณภาพแย่ที่สุดมาล็อตหนึ่ง ถึงตอนนั้นฉันจะส่งของขวัญใหญ่ให้กับตระกูลเย่!”
“รับทราบ ประมุข! ผมจะไปจัดการเดียวนี้!”
สำนักว่านหลงได้ปิดกั้นจอมพลคามมิตรอบด้าน ได้ดำเนินต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวันแล้ว
ช่วงเวลานี้สำนักว่านหลงไม่ได้ส่งทหารมาบุกรุก ทหารรัฐบาลก็ไม่ได้รวบรวมการยิงระเบิดระลอกใหม่ อีกทั้งจอมพลคามมิตก็ไม่ได้ส่งกองกำลังทหารไปสืบดูเรื่องจริงเรื่องเท็จแต่อย่างใด ทั้งสองฝ่ายได้ตกอยู่ในช่วงทางตันที่ต่างคนต่างอยู่
จอมพลคามมิตยุ่งกับการทำงานในหลายวันนี้เป็นอย่างยิ่ง เขาสั่งการให้ทีมทหารวิศวกรหลายพันคนเร่งทำการก่อสร้างไปด้วย พร้อมทั้งต้องจัดตั้งให้เจ้าหน้าที่ทหารสายตรงไปเข้าร่วมการอบรมทหารอีกด้วย ทำการอบรมเจ้าหน้าที่ทหารระดับกลางอย่างกระตือรือร้น ตามคำสั่งของเย่เฉิน พร้อมเสริมการควบคุมทั้งกองกำลังทั้งหมดเพิ่มขึ้น
ส่วนทางเย่เฉิน ได้ยินว่าตอนนี้จอมพลคามมิตได้เข้าสู่ช่วงพักสงครามแล้ว จึงโล่งอกไป ทำการเพ่งสมาธิทั้งหมดไปยังการเตรียมพร้อมของหยวนหยางขนส่งกรุ๊ป
ซูจือหยูทำตามข้อตกลงการร่วมมือกับเย่เฉิน นำทรัพยากรทั้งหมดของบริษัทขนส่งตระกูลซูมาให้
ส่วนอิโตะ นานาโกะเพื่อให้ความร่วมมือเย่เฉิน ก็ได้ออกหน้ามาโดยตนเอง ก่อตั้งบริษัทร่วมลงทุนกับซูจือหยู จากนั้นเย่เฉินจึงได้ตั้งชื่อโดยนำแซ่ของทั้งสองคนมารวมกัน ชื่อว่าบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...