บริษัทร่วมลงทุนแห่งนี้ ผิวเผินคือเป็นการก่อตั้งร่วมกันระหว่างตระกูลอิโตะและซูจือหยู และตระกูลอิโตะถือหุ้น 51% ซูจือหยูถือหุ้น 49% ทว่าความจริงแล้วหุ้นส่วน 51% ที่ตระกูลอิโตะถืออยู่นั้น คือเป็นการถือหุ้นแทนเย่เฉิน
หยวนหยางขนส่งกรุ๊ปของตระกูลซู ในเมื่อก่อนได้รับการลงโทษ ถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการประกอบการทั้งหมด
ทว่าเนื่องจากตระกูลอิโตะเป็นกิจการการลงทุนต่างประเทศ อีกทั้งยังมีใบรับรองคุณสมบัติอย่างสมบูรณ์อยู่ด้วย ดังนั้นคุณสมบัติของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดในครั้งนี้ จึงได้กลายเป็นกิจการร่วมลงทุนที่นำโดยต่างประเทศแห่งหนึ่ง ได้ข้ามผ่านโทษทั้งหมดในเมื่อก่อนให้กับตระกูลซู
เนื่องจากประสบการณ์การบริหารจัดการธุรกิจของเฮ่อจือชิว มีมากกว่าซูจือหยูเล็กน้อย อีกทั้งเบื้องหลังยังมีพ่อของเธอเฮ่อหยว่นเจียง ทำการวางแผนกลยุทธ์อยู่ด้วย ดังนั้น CEO ของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด หรือผู้บริหารสูงสุดนั้นจะมีเฮ่อจือชิวรับหน้าที่นี้
ซูจือหยู จะมีฐานะเป็น COO ของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด หรือก็คือประธานฝ่ายปฏิบัติการ จะทำงานโดยร่วมมือกับเฮ่อจือชิว ร่วมกันบริหารบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด
เนื่องจากตระกูลอิโตะคือตระกูลอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น และซูจือหยูเองก็เป็นหลานสาวแห่งตระกูลอันดับหนึ่งในหัวเซี่ยอย่างตระกูลซูเช่นเดียวกัน อีกทั้งเมื่อก่อน เนื่องจากการเผชิญหน้าของเธอจึงได้รับการจับตามองจากประชาชนทั่วประเทศ ดังนั้นครั้งนี้เธอจะประกาศข่าวการร่วมมือระหว่างบริษัทขนส่งตระกูลซูและตระกูลอิโตะ และจากนั้นก็ได้ขึ้นเป็นหน้าหนึ่งจากทุกสื่อข่าวใหญ่ๆ ทั้งหลายในทันที
เฮ่อจือชิวคิดว่า นี่คือเป็นโอกาสดีที่จะฉวยโอกาสแพร่ข่าวโฆษณาฟรีๆ จึงได้มาหาเย่เฉิน วางแผนว่าจะหาวันดีๆ เปิดงานแถลงข่าว ประกาศโปรโมทการก่อตั้งบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดอย่างเป็นทางการ ถือว่าเป็นการสร้างการเป็นที่รับรู้ก่อนล่วงหน้า
แน่นอนว่าเย่เฉินไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ ดังนั้นเฮ่อจือชิวจึงได้ปรึกษาหารือกับซูจือหยู ตัดสินใจว่าจะรีบจัดงานแถลงข่าวในช่วงเวลาที่ยังร้อนระอุอยู่
ประจวบกับที่อิโตะ นานาโกะยังไม่กลับไป ดังนั้น หลังจากที่สาวๆ นั่งลงหารือกันเรียบร้อยแล้ว จึงได้เตรียมที่จะจัดงานแถลงข่าวที่มีอานุภาพเกรียงไกร ณ โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงร่วมกัน โดยมีอิโตะ นานาโกะและซูจือหยูเป็นตัวหลัก
งานแถลงข่าวนี้ ได้เรียนเชิญสื่อข่าวทั้งในและต่างประเทศมากมายเข้าร่วม เย่เฉินในฐานะที่เป็นบอสใหญ่ในความลับ ก็ได้ถูกสาวๆ เหล่านั้นบอกให้เข้าร่วมแสดงความยินดีให้ได้เช่นกัน
เย่เฉินเอ่ยว่า: “วันเช็งเม้งคือวันที่ 5 เมษายน งั้นก็ไปถึงเย่นจิงวันที่ 4 เมษายนก็สิ้นเรื่องไม่ใช่หรือไง?”
เฉินจื๋อข่ายรีบเอ่ย: “พ่อบ้านถังกลัวว่าวันที่ 4 คุณถึงจะยอมมา เขาเลยบอกว่าวันที่ 5 เมษายน เช้าตรู่ก็จะเป็นพิธีบูชาบรรพบุรุษแล้ว พิธียิ่งใหญ่แบบนี้ ปกติแล้วต้องยืนยันขั้นตอนการบูชาบรรพบุรุษก่อนล่วงห้นาสองสามวัน ถึงตอนนั้นต้องเปิดประชุมตระกูล ตอนนั้นคุณก็ต้องเข้าร่วมด้วย”
เย่เฉินครุ่นคิด เอ่ยว่า: “เรื่องของพิธีให้พวกเขากำหนดก็ได้ ฉันไม่เข้าร่วมหรอก ถึงตอนนั้นก็กำหนดเลยว่าให้ทำยังไง ฉันก็จะทำอย่างนั้นแหละ”
เฉินจื๋อข่ายเอ่ยอธิบาย: “คุณชาย พ่อบ้านถังรู้ว่าคุณไม่อยากไปก่อนล่วงหน้านานเกินไป แต่ว่าเขาก็ให้ผมมาบอกคุณต่อ หวังว่าคุณจะมาถึงเย่นจิงในวันที่ 3 เมษายน ในนั้นมีพิธีและขั้นตอนที่ซับซ้อนมากมาย ถ้าไม่สื่อสารกันก่อนล่วงหน้าให้ดี กลัวว่าถึงตอนนั้นจะมีข้อผิดพลาดขึ้นได้”
เย่เฉินลังเลชั่วครู่ จึงพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า: “ได้ งั้นฉันจะไปวันที่ 3 เมษายน!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...