เมื่อเห็นเฉินจงเหล่ยโกรธ เย่เฉินกลับยิ้มและกล่าวด้วยอารมณ์ที่ปลง “จู่ ๆ ผมก็นึกขึ้นได้ว่ามีคนถามคำถามนี้กับฉันเมื่อหนึ่งปีก่อน ตอนนั้นเธอถามผมว่ามาเพื่อฉลองวันเกิดหรือมายืมเงิน ว่าไปแล้ว ลักษณะการพูดเมื่อสักครู่ของคุณนั้นเหมือนกับเธอเล็กน้อย”
เฉินจงเหล่ยตำหนิอย่างเย็นชาว่า “คนที่สามารถยืมเงินในงานเลี้ยงวันเกิดของคนอื่นได้ แสดงว่าคุณมันเลวจริง ๆ!”
เย่เฉินถอนหายใจและกล่าวว่า “ใช่ เลวจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย แล้วใครจะอยากยืมเงินในสถานการณ์เช่นนั้นล่ะ? เพียงแต่ตอนนั้นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตป่วยหนัก และต้องการใช้เงินอย่างเร่งด่วน ผมไม่มีทางเลือกอื่น จึงทำได้แค่เพียงหน้าด้านลองดู”
การแสดงออกของเฉินจงเหล่ยอ่อนลงเล็กน้อยและกล่าวอย่างเย็นชา “เอาล่ะ ไม่มีใครอยากฟังเรื่องราวของคุณ เข้าประเด็นกันเถอะ!”
เย่เฉินยิ้มและกล่าวว่า “โอเค เข้าประเด็น อย่างที่ผมกล่าวไปเมื่อสักครู่ ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงและพวกคุณถอนกำลัง นี่คือเงื่อนไขเบื้องต้น และถ้าพวกคุณปฏิบัติตามเงื่อนไขเบื้องต้นบนพื้นฐานของพวกเราแล้ว เงื่อนไขข้อที่สองของพวกเราคือคนของสำนักว่านหลงต้องไสหัวออกไปจากซีเรียทั้งหมด!”
“บัดซบ!” เฉินจงเหล่ยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที
เขายืนขึ้น นิ้วของเขาเกือบจะแตะปลายจมูกของเย่เฉิน กัดฟันและด่าว่า “แม่งฉิบหาย คุณหยอกล้อผมหรือ?! ไม่เพียงแต่ให้พวกเราถอนกำลัง แต่ยังให้พวกเราออกไปจากซีเรียอีกด้วย แม่งฉิบหาย ใครเป็นคนให้ความกล้าแกคุณ ถึงทำให้คุณกล้าพูดเช่นนี้กับผม?! คุณไม่เห็นสำนักว่านหลงอยู่ในสายตาเกินไปแล้ว!”
เย่เฉินกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เดิมทีผมก็ไม่เคยเห็นสำนักว่านหลงของพวกคุณอยู่ในสายตา! การให้พวกคุณไสหัวออกไปจากซีเรียนั้นเป็นเพราะไม่อยากฆ่าพวกคุณมากเกินไป อยากให้พวกคุณมีชีวิตอยู่! สุดที่รักผมเอ็นดูคุณอยู่น่ะ! คุณโตขนาดนี้แล้ว เรื่องแค่นี้คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือ?”
หลังจากนั้น เย่เฉินแสดงท่าทางที่เย็นชา และกล่าวเน้นทีละคำ “คุณดูสิว่าสำนักว่านหลงของพวกคุณ แค่วันเดียวก็มีคนตายไป 2,000 คน กว่าคน แล้วคราวนี้คุณวางแผนจะรบอย่างไร?”
“การที่พวกคุณ 15,000 คนอยู่ที่นี่ รายจ่ายในชีวิตประจำวันนั้นมากมาย พวกคุณจะยืนหยัดอยู่ได้นานแค่ไหน?”
“ส่วนเสบียงของพวกเราเพียงพอสำหรับรองรับทหาร 15,000 คนเป็นเวลาหนึ่งปี! และถ้าประหยัดไม่ฟุ่มเฟือยแล้ว สามารถยืนหยัดเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา!”
“อาวุธและกระสุนของพวกเราเพียงพอที่จะฆ่าพวกคุณได้เป็นสิบครั้ง และต้องขอบคุณทีมขนส่ง 2,500 คนของพวกคุณด้วย ตอนนี้อาวุธและกระสุนเพียงพอที่จะฆ่าพวกคุณจำนวน 15,000 คนตายไปสิบแปดครั้ง หรือแม้กระทั่งยี่สิบแปดครั้ง!”
กระทั่งเขาได้จินตนาการถึงฉากนักรบมากมายของสำนักว่านหลงที่ไฟลุกโชนบนร่างกายของพวกเขา ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด และกลิ้งลงมาตามเนินเขา
ขณะนี้ เขารู้สึกราวกับว่าตนเองได้เห็นสิ่งที่ดูเหมือนนรก
เขามองไปที่เย่เฉินด้วยความหวาดกลัวและกล่าวโพล่งออกมาว่า “คุณ......คุณเป็นใครกันแน่?!”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย “ผมแซ่เย่ เรียกผมว่าอาจารย์เย่ก็ได้!”
ผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลรตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ตัวเขาเองสนับสนุนการเจรจาสงบศึก เมื่อได้ยินเนื้อหาเหล่านี้ เขายิ่งแน่วแน่ความคิดเห็นของตนเองมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น เขาจึงกล่าวโพล่งออกมาตามจิตใต้สำนึกว่า “อาจารย์เย่.......หากพวกเราถอนกำลัง พวกคุณสามารถถอนตัวจากการเป็นฝ่ายต่อต้าน และเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทัพของรัฐบาลได้หรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้น เรื่องทุกอย่างก่อนหน้านั้นถือว่าจบกันไป และพวกเราจะให้อิสระฮามิดอย่างเต็มที่ และกระทั่งสามารถให้เขาเป็นตัวหลักในการต่อสู้กับกลุ่มกบฏอื่น ๆ ไม่รู้ว่าจอมพลฮามิดมีความตั้งใจเช่นนี้หรือไม่?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ทำไมตอนซ้ำเยอะ ตอนก้ขาดหาย...
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...