เมื่อเย่เฉินนั่งเฮลิคอปเตอร์กลับมายังฐานทัพฮามิด ฮามิดซึ่งได้รับแจ้งข่าวการกลับมาของเขาล่วงหน้า เขาแทบรอไม่ไหวที่จะออกมาต้อนรับเย่เฉิน
ทันทีที่เย่เฉินลงจากเฮลิคอปเตอร์ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “น้องชาย! ทหารลาดตระเวนของผมบอกว่า โดรนจับภาพและเห็นกองทัพของรัฐบาลจับคนทั้งหมดของสำนักว่านหลง มันเกิดอะไรขึ้น?”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “กองทัพของรัฐบาลแตกหักกับสำนักว่านหลงแล้ว ตอนนี้ทหารทั้งหมดของสำนักว่านหลงถูกจับ และพวกเขาสัญญาว่าจะยุติสงครามกับคุณ หากต่อไปถ้าไม่มีสถานการณ์พิเศษ คุณพยายามรักษาทัศนคติที่ว่าต่างฝ่ายต่างมีหนทางของตนเองและไม่ยุ่งเกี่ยวกัน”
ฮามิดหยุดชะงักไปครู่หนึ่งและถามว่า “น้องชาย.....พวกเขาแตกหักกับสำนักว่านหลงได้อย่างไร? นี่มัน.....นี่มันกะทันหันเกินไป.......”
เมื่อเห็นว่าเขาตกใจ เย่เฉินจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฮามิดฟังอย่างละเอียด
ฮามิดตกตะลึงจนตาค้าง และกล่าวโพล่งออกมาว่า “น้องชาย... หลังจากที่คุณไปแล้ว ผมจินตนาการถึงความเป็นไปได้มากมาย แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้..... ”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน ตอนแรกผมคิดว่าหลังจากควบคุมเฉินจงเหล่ยแล้ว จากนั้นบังคับให้เขาพาผมและซูโสว่เต้าออกไปจากซีเรีย แต่คิดไม่ถึงว่า เมื่อเขาเห็นว่าความลับของสำนักว่านหลงถูกเปิดเผย เขาเป็นฝ่ายเริ่มจู่โจมซัยยิตก่อน นั้นเป็นการให้โอกาสผมจัดการพวกเขาทั้งหมด”
ฮามิดอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้เย่เฉิน และกล่าวด้วยความชื่นชมว่า “น้องเย่ คุณใช้แรงเพียงเล็กน้อยแต่สามารถเอาชนะแรงที่มากกว่าได้!”
หลังจากนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะถามเย่เฉินว่า “น้องชาย คุณคิดว่าผมควรจะสงบศึกกับกองทัพของรัฐบาลจริง ๆ หรือ?”
เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวอย่างหนักแน่น “ต้องสงบศึกแน่นอน คุณอย่าคิดว่าตอนนี้คุณมีกองกำลังป้องกันที่แข็งแกร่ง และมีอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธปัจจัยสำรองมากมาย ต่อให้มีมากเท่าไรก็มีวันหมดได้ การยืนกรานต่อไปเรื่อย ๆ สำหรับคุณแล้วมันจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย”
ฮามิดรีบถามว่า “น้องชาย รีบขนาดนั้นเชียวหรือ? ไม่อยู่ต่ออีกสองวันหรือ?”
เย่เฉินโบกมือและกล่าวว่า “ไม่ล่ะ หลังจากกลับไปแล้วผมยังมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการ โดยเฉพาะเทศกาลเช็งเม้งซึ่งเป็นเทศกาลสักการะบรรพบุรุษของหัวเซี่ยที่กำลังจะถึงเร็ว ๆ นี้ ผมต้องกลับไปสักการะพ่อแม่”
หลังจากนั้น เย่เฉินกล่าวตามตรงว่า “และสภาพที่นี่มันทุรกันดาร ไม่มีอะไรสักอย่าง ไม่มีแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยว ถึงผมจะอยู่ต่ออีกสองวันก็ไม่มีความหมาย ผมกลับไปก่อนดีกว่า”
ฮามิดกล่าวแสยะยิ้มและกล่าวว่า “น้องชายพูดถูก ที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจจริง ๆ และสภาพค่อนข้างแย่ แต่คุณวางใจเถอะ หลังจากยุติสงครามแล้ว ผมจะเริ่มก่อสร้างฐานทัพใหม่ทันที แล้วผมจะขุดและสร้างห้องพักระดับไฮเอนด์หลายห้องบนภูเขา ตอนที่น้องชายมาคราวหน้า ผมจะต้อนรับคุณอย่างดีแน่นอน!”
เย่เฉินรับปากด้วยรอยยิ้ม แต่คิดอยู่ในใจว่าอนาคตตนเองไม่ต้องการกลับมายังสถานที่ที่ทุรกันดารเช่นนี้อีกแล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...