“ทำไมไม่มีใครสักคนยินยอมที่จะอยู่เคียงข้างสำนักว่านหลงเพื่อก้าวผ่านความยากลำบากไปพร้อมกัน?”
“ในเวลานี้คิดเพียงแค่อยากได้เงินเท่านั้น คนเนรคุณคนยังไม่เหี้ยเท่าพวกเขาหรอกมั้ง?”
ลู่เห้าเทียนรีบพูดกล่าวว่า : “ประมุข พวกกลุ่มลูกน้องของเรานี้เป็นทหารรับจ้างนะ……”
“พวกคนเหล่านี้ก่อนหน้านี้เป็นกองกำลังพิเศษของแต่ละประเทศ ตอนที่พวกเขาจงรักภักดีรับใช้ประเทศของตัวเอง ล้วนมีจิตใต้สำนึกและความรู้สึกเป็นเกียรติร่วมกันอย่างแรงกล้าจริงๆ”
“แต่……แต่นั่นก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ……”
“นั่นเป็นความรักและจงรักภักดีต่อประเทศบ้านเกิดของพวกเขาตั้งแต่เล็กจนโต ที่สะสมมา20-30ปีจนกระทั่ง30-40ปี……”
“แต่หลังจากที่พวกเขาเป็นทหารรับจ้างแล้ว เป้าหมายก็ง่ายดายอย่างมาก ก็คือเพื่อหาเงินเท่านั้นเอง……”
ลู่เห้าเทียนพูดเยอะมากอย่างไม่หยุดหย่อน อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดอีกว่า : “นี่ก็เหมือนกับผู้หญิงเหล่านั้นที่ตกอยู่ในโลกโลกีย์ ตอนที่คนเขายังไม่เลิกอาชีพเก่าก็ยังคุยเรื่องความรู้สึกได้ แต่เมื่อเปลี่ยนมาทำการค้าขาย ก็ทำเพื่อหาเงิน ถ้าหากเราไม่ให้เงิน แล้วยังจะมาพูดเรื่องความรู้สึกกับพวกเธอ งั้นก็ไม่ค่อยอยู่ในโลกความจริงสักเท่าไหร่จริงๆ……”
ว่านพั่วจวินได้ยินมาถึงตรงนี้ มีท่าทางเก้ๆกังๆขึ้นมาทันที
เขารู้ความหมายในคำพูดของลู่เห้าเทียนไปโดยปริยาย เขาก็เข้าใจ
ไม่ให้เงินแต่ยังอยากให้ทหารรับจ้างทำงานให้ตัวเอง งั้นก็เป็นการพูดเพ้อฝันของคนบ้า
แต่ว่า ตอนนี้เขาไม่สามารถยอมรับความสูญเสียที่มากกว่านี้ได้อีกแล้ว
ถ้าหากคนหายไปกันหมด ต่อไปสำนักว่านหลงจะพัฒนาไปได้อย่างไร?
สำนักว่านหลงประสบความยากลำบากที่หนักหน่วงเช่นนี้ ตัวเองไม่สามารถพุ่งเข้าไปจัดการปัญหาได้ทันที ความรู้สึกที่เกินกำลังของตัวเองแบบนี้ ยิ่งทำให้เขาปวดใจอย่างมาก
ในเวลานี้ ลู่เห้าเทียนเอ่ยปากพูดแนะนำ : “ประมุข ผมคิดว่าคุณไม่เสียหายอะไรลองตอบรับเงื่อนไขของพวกเขาก่อนก็ได้ ช่วงวิกฤต จ่ายต้นทุนเพิ่มหน่อยก็เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แบล็ควอเตอร์ของอเมริกาคิดอยากจะดึงคนของพวกเรามาตลอด พวกเขามีออเดอร์จากทำเนียบขาวในหลายประเทศในตะวันออกกลาง กำลังขาดกำลังคน หากเรายังไม่สามารถทำให้จิตใจของทหารนิ่งได้ ผมเกรงว่าพวกเขาจะต้องย้ายไปแบล็ควอเตอร์แน่เลย!”
ว่านพั่วจวินพยักหน้าด้วยสีหน้าเยือกเย็น เอ่ยปากพูดว่า : “ก็เอาตามที่แกพูดแล้วกัน หลังจากที่ให้ทุกคนถอนตัวออกจากแนวหน้าก็ไปพักผ่อนก่อนแล้วกัน ช่วงเวลาที่พักผ่อนนี้ เราจะจ่ายค่าตอบแทนโดยคิดให้ 70% เรื่องอื่นๆ รอฉันกลับไปค่อยว่ากัน!”
พูดแล้ว ว่านพั่วจวินก็มองดูวันที่บนนาฬิกาอีก พูดด้วยท่าทางที่เงียบขรึมว่า : “วันนี้คือวันที่ 2 เมษายนแล้ว เหลืออีกสามวันสุดท้ายก็ถึงเทศกาลเช็งเม้งแล้ว เราใช้โอกาสวันที่ 5 เมษายน เทศกาลเช็งเม้งในวันนั้นจัดการปัญหา วันที่6เมษายน ช้าสุด 7เมษายน เราก็ออกเดินทางไปซีเรีย! ”
“ไม่มีปัญหา!” ลู่เห้าเทียนพูดอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย : “ถึงตอนนั้น เราขึ้นไปฆ่าบนภูเขาเย่หลิงซานด้วยกัน หลังจากที่บีบบังคับตระกูลเย่ให้ยอมปล่อยภูเขาเย่หลิงซานออกมา วันที่6 เมษายนก็รีบเคลื่อนย้ายโลงศพของพ่อแม่คุณเข้าไปทันที!”
ว่านพั่วจวินโบกไม้โบกมือ พูดอย่างเยือกเย็น : “ช่วงเวลาคับขัน ไม่รอถึง6 เมษายนแล้ว มะรืนนี้พวกแกไปเชิญเถ้ากระดูกของพ่อแม่ฉันออกมาพร้อมกันกับฉัน นำไปใส่ไว้ในโลงศพที่ฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว วันที่5นั้น ยกโลงศพของพ่อแม่ฉันไปที่ภูเขาเย่หลิงซาน!ก็จะได้ให้พ่อแม่ของฉันเป็นพยานที่นั่นด้วยเลย ว่าฉันจะทำให้เย่เฉินคุกเข่าได้อย่างไร แล้วค่อยนำเถ้ากระดูกของเย่ฉางอิงไปทำลายทิ้ง !”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ทำไมตอนซ้ำเยอะ ตอนก้ขาดหาย...
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...