ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่เฉินจะนั่งอย่างไม่สะทกสะท้านและตามอารมณ์เช่นนี้
ราวกับว่าที่นั่งนั้นเป็นของเขา
ตอนนี้เย่ฉางหยุนที่ถูกแย่งที่นั่งรู้สึกโกรธจนหน้าเขียว
เดิมทีเขาคิดว่าเย่เฉินเพิ่งกลับมา เขาจะต้องถ่อมตน ถึงแม้คุณท่านจะให้เขานั่งตรงนี้ เขาคงจะปฏิเสธ แล้วคืนที่นั่งให้กับตนเอง
แต่ใครจะไปคิดว่าเย่เฉินจะนั่งโดยตรง!
ซึ่งทำให้เย่ฉางหยุนด่าแช่งอยู่ในใจด้วยความโมโหว่า “แม่งฉิบหาย! เย่เฉินไม่เข้าใจกฎเกณฑ์เลยสักนิด ไม่เคยเรียนเรื่องข่งหยงยกสาลี่ให้พี่ชายหรือ? เพิ่งกลับมาถึงก็มาแย่งที่นั่งของอาสามเลยหรือ? หรือว่าคุณต้องการจะเหยียบหัวของผมขึ้นไป?”
เย่ฉางโคงพี่ชายคนโตก็รู้สึกไม่สบอารมณ์มากเช่นกัน
เดิมทีเขาคิดว่าเมื่อเย่เฉินกลับมาตระกูลเย่แล้ว ต่อหน้าคุณท่านและลุง ป้า น้า อา มากมาย เขาจะถ่อมตน แต่ไม่คิดว่าเย่เฉินไม่สนใจไยดีผู้อาวุโสเหล่านั้นเลย
เย่ฉางโคงอดไม่ได้ที่จะด่าแช่งอยู่ในใจว่า “เย่เฉิน แย่งที่นั่งของฉางหยุน มองผิวเผินแล้วเป็นตบหน้าฉางหยุน แต่ความจริง เป็นการแสดงอำนาจให้เสี่ยวเฟิงเห็น!”
“เพราะเย่เฉินเป็นรุ่นหลาน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของลำดับรุ่น หรือเรียงตามอายุ เขาควรจะอยู่หลังน้องชายทั้งสองคนของผม และจะต้องถูกจัดให้นั่งอยู่หลังเสี่ยวเฟิงลูกชายของผม!”
“แต่ตอนนี้ คุณท่านให้เขาข้ามเสี่ยวเฟิงโดยตรง ข้ามน้องสามและน้องสี่ และนั่งตรงหน้าคุณท่านโดยตรง......”
“คุณท่านลำเอียงถึงขนาดนี้ ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่อันตรายอย่างยิ่ง! ถ้าเขาแซงหน้าเสี่ยวเฟิง งั้นต่อไปตระกูลเย่อาจตกอยู่ในมือของเขา!”
เย่เฟิงรู้สึกโมโหเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลใด ลูกชายคนโตและหลานชายคนโตจะเป็นคนสำคัญที่สุด ดังนั้นในสายตาของเย่เฟิงแล้ว ในอนาคตลูกพี่ลูกน้องทั้งหมดของตนเอง จะมาอาศัยตนเองทำมาหากิน ซึ่งพวกเขาย่อมอยู่ต่ำกว่าตนเองหลายระดับอย่างแน่นอน
เย่โจงฉวนรับรายชื่อมา เหลือบมองแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คราวนี้มีลูกหลานที่มาพบปะเยี่ยมเยียนมากกว่าครั้งที่แล้วมาก!”
“ใช่” ถังซื่อไห่พยักหน้าและกล่าวว่า “ในบรรดานี้ยังมีคนหนุ่มสาวจำนวนมาก อายุระหว่าง 16 ถึง 25 ปี ในงานไหว้บรรพบุรุษครั้งที่แล้ว พวกเขาทั้งหมดยังเป็นเด็ก จึงยังไม่ได้มาร่วมพบปะเยี่ยมเยียน”
เย่โจงฉวนพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ตระกูลเย่มีลูกหลานมากมายได้แผ่ขยายไปทั่วประเทศและแม้กระทั่งทั่วโลก พรุ่งนี้ในงานไหว้บรรพบุรุษ เชิญลำดับวงศ์ตระกูลออกมา แล้วกรอกข้อมูลของรุ่นหลานเหล่านี้ทั้งหมด เมื่อบรรพบุรุษได้เห็น จะต้องปลื้มปีติเป็นอย่างมาก!”
ถังซื่อไห่รีบกล่าวว่า “เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน!”
หลังจากนั้น ถังซื่อไห่ถามอีกครั้งว่า “คุณท่าน อีกเพียงสามนาทีก็จะถึงเวลาเก้าโมงครึ่งแล้ว ญาติต่างสายเลือดของตระกูลเย่มากกว่าหนึ่งร้อยคนรออยู่นอกคฤหาสน์แล้ว จะให้พวกเขาเข้ามาพบปะเยี่ยมเยียนทีละคนได้หรือยัง?”
เย่โจงฉวนพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ เริ่มกันเถอะ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...