หลังจากคุณท่านพาเย่เฉินมาทักทายผู้อาวุโสเหล่านี้ทีละคนแล้ว ส่วนที่เหลือจะเป็นคนรุ่นเดียวกับเย่เฉิน
คนที่อายุมากที่สุดคือเย่เฟิง รองลงมาคือเย่เห้าและยังมีลูกพี่ลูกน้องอีกหลายคน
นอกจากเย่เฟิงและเย่เห้าแล้ว ส่วนคนที่เหลือเป็นลูกเศรษฐีที่ได้รับการเอาอกเอาใจมาตั้งแต่วัยเด็ก พวกเขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเย่เฉินซึ่งเป็นญาติที่ออกจากบ้านไป 20 ปีแล้ว และทุกคนต่างกล่าวทักทายกันไม่กี่ประโยค
เมื่อเห็นว่าเย่เฉินและทุกคนทักทายทำความรู้จักกันแล้ว เย่โจงฉวนมองดูเวลาและกล่าวอย่างมีความสุขว่า “การกลับมาของเฉินเอ๋อถือเป็นเรื่องดี พวกเราเข้าไปนั่งข้างในกันเถอะ ทุกคนจะได้พูดคุยถึงเรื่องในอดีต อีกสักครู่เมื่อถึงเวลาแล้ว ญาติต่างสายเลือดน่าจะเข้ามาพบปะเยี่ยมเยียนแล้ว”
เมื่อเห็นว่าคุณท่านออกคำสั่ง ทุกคนจึงเดินเข้าไปในห้องโถงของคฤหาสน์ตระกูลเย่พร้อมกัน
เฮเลน่าเดินตามหลังเย่เฟิงตลอด โดยอยากจะหาโอกาสสื่อสารกับเย่เฉินตามลำพัง แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ตอนนี้น่าจะเป็นไปไม่ได้ เธอจึงต้องยอมแพ้ชั่วคราว
ขณะนี้ ณ.ห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลเย่
ตรงกลางของห้องโถงขนาดใหญ่ วางเก้าอี้ไม้หวางฮวาหลีหลายตัวเป็นรูปทรงพัดตามคำแนะนำของบรรพบุรุษ
ตรงกลางของรูปพัดคือที่นั่งหลักของคุณท่าน และด้านซ้ายมีเก้าอี้สิบกว่าตัววางอยู่
ซึ่งที่นั่งเหล่านี้เป็นที่นั่งสำหรับสมาชิกสายตรงของตระกูลเย่
รอบ ๆ รูปพัด มีเก้าอี้พับหลายร้อยตัวที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ที่นั่งเหล้านี้เป็นที่นั่งสำหรับญาติต่างสายเลือด
เย่โจงฉวนพาเย่เฉินเดินไปตรงที่นั่งหลัก แล้วชี้ไปตำแหน่งทางฝั่งขวาของตนเอง และกล่าวกับเย่เฉินว่า “เฉินเอ๋อ ถ้าพ่อของคุณยังมีชีวิตอยู่ ตำแหน่งทางฝั่งขวาของปู่จะเป็นที่นั่งของเขา แต่ตอนนี้เขาตายไปแล้ว และคุณก็กลับมาตระกูลเย่แล้ว ตามปกติแล้วที่นั่งนี้จะต้องเป็นของคุณ!”
เย่โจงฉวนให้เย่เฉินนั่งทางฝั่งขวาของตนเองโดยตรง การกระทำเช่นนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจมาก
เพราะตามกฎแล้ว อีกสักครู่เมื่อญาติต่างสายเลือดเข้ามาพบปะเยี่ยมเยียน คุณท่านนั่งที่หลักตรงกลาง ลูกชายคนโตนั่งตำแหน่งซ้ายล่าง ลูกชายคนรองนั่งตำแหน่งขวาล่าง และลูกชายคนอื่น ๆ จะนั่งสลับซ้ายขวา หลังจากนั้นถึงจะเป็นรุ่นหลานชาย
หลังจากที่หลานชายนั่งครบแล้ว ถึงจะเป็นลูกสาวและหลานสาวซึ่งจะนั่งด้านข้างที่เป็นตำแหน่งด้านนอกสุด
สำหรับหลานชายและหลานสาวที่แซ่อื่น ไม่ได้รับอนุญาตให้มาเข้าร่วม ดังนั้นสามีและลูกของเย่ฉางหมิ่นกับเย่ฉางซิ่วจึงไม่มาร่วมงาน
เนื่องจากเย่ฉางอิงซึ่งเป็นลูกชายคนที่สองได้เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นถ้าตามกฎ ตอนนี้ที่นั่งของเย่ฉางอิงควรจะกลายเป็นของฉางหยุนซึ่งเป็นลูกชายคนที่สาม
งานไหว้บรรพบุรุษครั้งที่แล้วเมื่อสิบสองปีก่อน เย่ฉางหยุนได้นั่งแทนที่เย่ฉางอิงแล้ว
ต้องมีสักวัน ที่ตนเองทำให้คนตระกูลเย่ทั้งหมดขุ่นเคือง
แต่สำหรับเขาแล้วมันไม่สำคัญ ตามคำโบราณกล่าวไว้ว่า ถ้าต้องการเป็นผู้นำ ก็ต้องแบกรับแรงกดดันทั้งหมด
ถ้าเขาต้องการให้ตระกูลเย่ยอมจำนน เขาต้องทำให้ตระกูลเย่ทั้งหมดขุ่นเคืองเสียก่อน
หลังจากนั้น จัดการดัดนิสัยคนกลุ่มนี้ให้ยอมจำนนทีละคน
ให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะก้มหัว เรียนรู้ที่จะคุกเข่า และเรียนรู้ที่จะยอมแพ้!
ด้วยวิธีนี้เท่านั้น ที่ตนเองจะสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตระกูลเย่ได้
ดังนั้น เขาจึงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวโดยไม่ต้องคิด “โอเค งั้นผมจะนั่งตรงนี้!”
หลังจากกล่าวจบ เขาก็นั่งลงทันที!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...