เย่ฉางโคงตกใจเมื่อคุณท่านจ้องเขาตาเขม็ง และรีบกล่าวว่า “พ่อ...ผมคิดว่า...เรื่องทุกอย่าง...ไม่สำคัญไปกว่าความปลอดภัยของชีวิต....... ”
หลังจากนั้น เย่ฉางโคงยังกล่าวต่อไปว่า “อีกอย่าง ทรัพย์สินของตระกูลเย่มีมากกว่าล้านล้าน? มอบให้พวกเขาไปครึ่งหนึ่ง เงินที่เหลือก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเรากินดีอยู่ดีไปตลอดชีวิต เพราะอย่างไรเสียเงินเป็นสิ่งที่ตายไปแล้วก็ไม่สามารถเอาไปได้ ถึงมีมากมายก็ไร้ความหมาย.....”
“ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเย่ของพวกเราอาจจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยมือของผม หรือด้วยมือของเสี่ยวเฟิงก็เป็นได้ เมื่อถึงเวลานั้น สิ่งที่สูญเสียไปในวันนี้ พวกเราสามารถนำกลับคืนมาได้!”
เย่โจงฉวนจ้องเขาและถามอย่างเย็นชา “กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง? อาศัยคุณ? หรืออาศัยพวกคุณสองคน?”
เย่ฉางโคงกล่าวอย่างเก้อเขินว่า “ผมไม่มีความสามารถมากนัก อย่างเลวร้ายที่สุด ถึงแม้จะไม่สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งแล้วทำไมล่ะ? ถึงแม้จะนั่งกินนอนกิน เงินมากมายมหาศาล ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายชั่วอายุคนแล้ว!”
เย่ฉางโคงยิ่งกล่าวยิ่งเกิดอารมณ์ฮึกเหิม และกล่าวประกอบท่าทางว่า “หากพ่อกังวลว่าลูกหลานจะไม่เอาถ่าน พวกเราสามารถนำทรัพย์สินที่เหลือออกมาครึ่งหนึ่ง แล้วจัดตั้งกองทุนทรัสต์ของตระกูลแบบปิด!”
“กองทุนทรัสต์ที่มีมูลค่าหลายแสนล้าน มีรายได้ต่อปีอย่างน้อยหนึ่งถึงสองหมื่นล้านหยวน ขอเพียงแค่พ่อกำหนดว่าต่อไปลูกหลานสามารถรับกำไรสุทธิจากกองทุนทรัสต์ได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถนำเงินต้นออกไปได้ ถึงแม้ตระกูลเย่จะไม่สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง แต่อย่างน้อยลูกหลานของตระกูลเย่จะสามารถมีชีวิตที่ร่ำรวยไปตลอดชาติ!”
“เช่นนี้ สามารถมั่นใจได้ว่าสายเลือดตระกูลเย่ของพวกเราจะคงอยู่ตลอดไป และไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่ว่าในอนาคตลูกหลานจะทำให้ตระกูลเย่ล้มละลาย…”
“ถ้ามองเช่นนี้ มันก็ดีน่ะ? ทุกคนคิดว่าถูกไหม?”
นอกจากเย่เฉินและเฮเลน่าแล้ว ทุกคนต่างพยักหน้า
สำหรับคนกลุ่มนี้แล้ว ไม่มีใครอยากเอาชีวิตตนเองไปเสี่ยงแม้แต่น้อย
การมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา
การมีชีวิตอยู่ แต่หาเงินได้น้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร? แม้จะมอบทรัพย์สินของตระกูลเย่ไปเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ พวกเขายังมีเงินอยู่สองแสนล้าน ถ้าไม่ใช้ฟุ่มเฟือยก็พอใช้ไปตลอดชีวิตแล้ว
เย่ฉางโคงเห็นว่าสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลเย่แสดงความยินยอม และรู้ว่าแผนของตนเองมีรากฐานที่สำคัญ
พวกเขาแค่ต้องการมีชีวิตอยู่
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาคิดว่า มีเพียงเงินเท่านั้นที่น่าเสียดาย ส่วนเรื่องอื่นนั้นไม่สำคัญ
ขณะนี้ เย่โจงฉวนเห็นว่าลูกหลานมากมายทรยศ ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น
เขานึกไม่ถึงว่าในบรรดาลูกหลาน ไม่มีใครให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีของตระกูลเป็นอันดับหนึ่ง
สิ่งที่ทุกคนคิดคือต้องการมีชีวิตอยู่เท่านั้น
มันทำให้เขารู้สึกโศกเศร้าเป็นอย่างมาก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...