เย่โจงฉวนรู้ว่าตอนนี้คนที่ช่วยตระกูลเย่ได้อาจจะมีเพียงเย่เฉินคนเดียวเท่านั้น
นอกจากเย่เฉินแล้ว ไม่มีใครที่จะสามารถพลิกสถานการณ์ได้อีกแล้ว
เพียงแต่ เขาไม่รู้ว่าเย่เฉินสามารถต้านสำนักว่านหลงได้หรือไม่
และอีกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบเย่เฉินไม่เคยแสดงทัศนคติ
ดังนั้น เขาต้องการรู้ว่าตอนนี้ทัศนคติของเย่เฉินคืออะไร
ขณะนี้ เย่เฉินถอนหายใจเบา ๆ และกล่าวพึมพำกับตัวเอง “ผมคิดว่าควรจะเป็นอย่างไรล่ะ?”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เขาเงยหน้าขึ้น มองลู่เห้าเทียนที่หยิ่งยโสด้วยสีหน้าที่ราบเรียบ กัดฟันและคิดอยู่ในใจว่า “ผมคิดว่าผมควรรีบพุ่งออกไปทันที และเด็ดหัวไอ้สุนัขสารเลวตัวนี้ซะ!”
เพียงแต่ เจ้าของสุนัขยังไม่มา ถ้าตอนนี้ จัดการสุนัขแล้ว มีแต่จะทำให้ว่านพั่วจวินที่อยู่เบื้องหลังตื่นตระหนกเท่านั้น
ดังนั้น เย่เฉินจึงกล่าวกับลู่เห้าเทียนว่า “เรื่องใหญ่เช่นนี้ ต้องให้เวลาพวกเราบ้าง ให้พวกเราได้มีเวลาปรึกษาหารือและคิดไตร่ตรอง”
หลังจากกล่าวจบ เขายิ้มเล็กน้อยแล้วถามอีกว่า “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าทำไมประมุขของพวกคุณไม่มาด้วยตนเอง? เป็นหนี้ต้องจ่าย เป็นคนร้ายก็ต้องชดใช้กรรม เขาควรจะเป็นคนมาบอกพวกเราด้วยตนเอง หากพวกเรามีความคิดเห็นใด ๆ จะได้เจรจากับเขาด้วยตนเอง การที่เขาไม่ปรากฏตัวออกมาเช่นนี้มันไม่เหมาะสมมั้ง?”
ลู่เห้าเทียนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ให้ประมุขของพวกเรามาคุยกับพวกคุณด้วยตนเอง พวกคุณไม่คู่ควร!”
“ถ้าพวกคุณรู้จักดูทิศทางลม และยินยอมรับเงื่อนไขของประมุข คืนนี้พวกคุณก็รีบขุดสุสานบรรพบุรุษของตระกูลเย่ และทิ้งโลงศพของเย่ฉางอิงและภรรยาไว้ หลังจากนั้นพรุ่งนี้เช้าให้ทุกคนใส่เสื้อกระสอบและคุกเข่ารอประมุขของพวกเราที่เชิงเขาของภูเขาเย่หลิงซาน!”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เขาเปลี่ยนเรื่องและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า “ถ้าพรุ่งนี้แปดโมงเช้า พวกคุณยังไม่ขุดหลุมฝังศพบรรพบุรุษของตระกูลเย่ และไม่ใส่เสื้อกระสอบคุกเข่ารอประมุขของพวกเราที่เชิงเขาของภูเขาเย่หลิงซาน เมื่อถึงตอนนั้น ก็อย่ามาโทษว่าสำนักว่านหลงฆ่าทำลายล้างตระกูลเย่!”
เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “งั้นรบกวนคุณกลับไปบอกประมุข พรุ่งนี้แปดโมงเช้า พบกันที่ภูเขาเย่หลิงซาน!”
ลู่เห้าเทียนมองเย่เฉินและกล่าวเยาะเย้ยว่า “เจ้าหนู ดูเหมือนคุณจะมีศักดิ์ศรีเล็กน้อย ผมจะจำคุณไว้ ถ้าพรุ่งนี้คุณไม่ใส่เสื้อกระสอบคุกเข่ารอประมุขที่เชิงเขาของภูเขาเย่หลิงซาน ผมก็จะฆ่าคุณเป็นคนแรก!”
เย่เฉินยิ้ม พยักหน้าและกล่าวว่า “ตกลง คำไหนคำนั้น!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...