ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 3245

สรุปบท บทที่ 3245: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 3245 – ตอนที่ต้องอ่านของ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ตอนนี้ของ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน โดย เมฆทอง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย จีนทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 3245 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

พูดแล้ว เขามองไปยังเฉินจงเหล่ยที่อยู่ข้างกาย ฝืนยิ้มพร้อมพูดว่า : “ท่านผู้นี้เป็นหนึ่งในราชันสงครามแห่งสำนักว่านหลงไม่ใช่เหรอ?ว่ากันว่าพละกำลังเป็นรองพั่วจวิน แต่อยู่ตรงหน้าของคุณเย่ แค่สู้กันเพียงครั้งเดียวบางทีเขาก็อาจจะไม่ไหวแล้ว ดังนั้นดูเหมือนว่า เมื่อพั่วจวินอยู่ตรงหน้าของคุณเย่ ก็เป็นเพียงแค่คนที่ทำอะไรไม่ดูกำลังและความสามารถตัวเอง……”

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย มองไปยังเฉินจงเหล่ยที่อยู่ข้างๆ ถามเขาว่า : “เฉินจงเหล่ย พละกำลังของประมุขพวกนายเป็นอย่างไร?”

เฉินจงเหล่ยพูดอย่างเคารพว่า : “ประมุขเป็นนักบู๊แปดดาว พละกำลังมากว่าผมไม่มากนัก”

เย่เฉินพยักหน้าแล้ว พูดถามอีกว่า : “งั้นนายคิดว่า พวกเราสองคน พละกำลังของใครแข็งแกร่งกว่ากัน?”

เฉินจงเหล่ยพูดโดยไม่ต้องคิดเลยว่า : “คุณแข็งแกร่งกว่าแน่นอน……แม้ว่าพละกำลังของผมจะสู้ประมุขไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถต่อสู้กับประมุขอย่างซึ่งๆหน้าได้หลายสิบรอบ แต่ผมเผชิญหน้ากับคุณ ไม่อาจจะต้านทานได้เลยสักนิด……”

แต่ไหนแต่ไรมา สติของเฉินจงเหล่ยถูกเย่เฉินปิดกั้น ทำอะไร พูดอะไร ส่วนใหญ่ล้วนแต่ไม่ได้พูดจากใจจริง

แต่ครั้งนี้ สติและร่างกายของเขาเอง จู่ๆก็เหมือนกันอย่างน่าแปลกใจ

แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าเย่เฉินใช้พลังวิเศษอะไรก็ตาม จู่ๆสามารถปิดกั้นสติของตัวเองได้เลยอย่างสมบูรณ์

แต่เขารู้ วิธีการของเย่เฉิน สูงกว่าศิลปะการต่อสู้มากกว่าหนึ่งระดับ

ความต่างระหว่างนี้ ก็เหมือนกับความต่างระหว่างอาวุธเย็นและอาวุธร้อน ไม่สามารถเหนือกว่าได้

เย่เฉินฟังเนื้อหาที่เฉินจงเหล่ยพูดมาทั้งหมดแล้ว พยักหน้ายิ้มและพูดว่า : “นักบู๊แปดดาว ก็ไม่ธรรมดาเลย ว่านพั่วจวินเพื่อให้ถึงผลการฝึกฝนนี้ ยี่สิบปีที่ผ่านมา น่าจะต้องอดทนกับความยากลำบากไม่น้อยเลยสินะ?”

เฉินจงเหล่ยพยักหน้าพร้อมพูดว่า : “ประมุขนั่นเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะต่อสู้ที่พบเจอบนโลกได้น้อยมาก แถมมีคำแนะนำของจู่ซือคอยหนุนหลังอยู่ จุดเริ่มต้นสูงกว่านักศิลปะต่อสู้ส่วนใหญ่มาก และประมุขอยากที่จะแก้แค้นให้พ่อแม่ เพื่อเป้าหมายนี้ เขาฝึกฝนช่วงที่หนาวและร้อนที่สุดมาอย่างหนัก จะฝึก18ชั่วโมงทุกวัน ยืนหยัดที่จะฝึกต่อเนื่องมาหลายปี ถึงได้มีพละกำลังเช่นตอนนี้ ”

เย่เฉินยิ้มอย่างราบเรียบพร้อมพูดว่า : “ยอมลำบากอดทนกับความอัปยศมายี่สิบปี สุดท้ายก็ทำเพื่อแบกโลงศพของพ่อแม่ไปตาย เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว โชคชะตาของเขาช่างน่าอนาถเหลือเกิน”

พูดแล้ว เขาก็มองไปยังซูโสว่เต้า ยิ้มพร้อมพูดว่า : “คุณซูคืนนี้ก็พักผ่อนให้เต็มที่นะ พรุ่งนี้ยังต้องไปเจอกับหลานชายของคุณอีก ฉันไม่รบกวนอะไรมากแล้ว ”

เย่เฉินพูดอย่างเยือกเย็นว่า : “พ่อแม่ของเขาตายเพราะฆ่าตัวตาย เขามีความแค้นอะไรที่ต้องแก้นแค้น?เขาอยากจะแก้แค้นให้พ่อแม่ ต้องการจะขุดหลุมศพพ่อแม่ของฉันขึ้นมา นี่มันเหตุผลอะไรกัน?พรุ่งนี้ก่อนที่ฉันจะฆ่าเขา จะเหยียบหัวของเขาและถามเขาว่า ใครเป็นคนสอนเขากันแน่!”

ซูโสว่เต้าตกใจจนตัวสั่น อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าคำพูดมาถึงปากแล้ว ก็รีบกลืนกลับลงไปทันที

เขารู้ว่า ครั้งนี้ว่านพั่วจวินกวนโมโหเย่เฉินเกินไป……

เด็กคนนี้แม้ว่าจะมาหาตระกูลเย่โดยตรง โต้แย้งกันซี่งๆหน้า หรือว่าต่อสู้แข่งขันกันก็พอเข้าใจได้ แต่ทำไมเขาจะต้องไปป่าวประกาศด้วยว่า จะขุดหลุมศพของเย่ฉางอิงสองสามีภรรยา ?

นี่ไม่ใช่การรนหาที่ตาย แล้วจะเป็นอะไรล่ะ?

ในเวลานี้เย่เฉินพูดอย่างราบเรียบว่า : “คุณซู ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้คุณรีบไปอธิษฐานต่อสวรรค์ อธิษฐานว่าเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนของตระกูลซูของพวกคุณ!ไม่อย่างนั้น ไม่ว่าใครที่เข้ามีส่วนร่วม ฉันเย่เฉินไม่มีทางออมมือให้แน่!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน