นอกจากเย่หงหยางและเย่ทาวสองพ่อลูกไม่กล้าขยับ สมาชิกที่เหลือครึ่งหนึ่งถูกทหารของสำนักว่านหลงไล่ลงไปจากภูเขาเย่หลิงซาน
ส่วนคนที่เหลือครึ่งหนึ่งนั้น คุกเข่าอยู่ที่นี่อย่างว่าง่ายเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
เดิมทีเย่หงหยางและเย่ทาวสองพ่อลูกนั้นเป็นครึ่งแรกที่ขึ้นมาบนภูเขาก่อน เมื่อเห็นเย่เฉินยอมปล่อยคนที่ขึ้นมาบนภูเขาก่อนลงไปจากภูเขา เย่ทาวก็รีบถามเขาว่า “ผู้นำตระกูล.....ขอได้โปรเข้าใจ และปล่อยให้พ่อกลับได้ไหม?”
เย่เฉินกล่าวอย่างเย็นชา “ได้ คุณกับพ่อคุกเข่าอยู่ที่นี่อีกสามวัน หลังจากสามวันแล้ว พ่อคุณสามารถกลับไปได้ แล้วคุณไปรายงานตัวกับหวังตงเสวี่ยนที่ตี้เหากรุ๊ปในเมืองจินหลิง”
เมื่อเย่ทาวได้ยินประโยคนี้ เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และรีบกล่าวด้วยความซาบซึ้งว่า “ขอบคุณผู้นำตระกูล.....ขอบคุณ.....”
เย่หงหยางถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับความเอื้ออาทรของผู้นำตระกูล......”
เมื่อเย่ฉางโคงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเห็นเช่นนี้ เขารู้สึกวิตกกังวลทันที และถามอย่างรวดเร็วว่า “เฉินเอ๋อ.....แล้ว... แล้วผมล่ะ คุยกันแล้ว.....จะให้ผมเป็นคนดูแลทรัพย์สินของครอบครัวพวกเขาไม่ใช่หรือ? ผมเตรียมพร้อมแล้ว!”
เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ผมเปลี่ยนใจแล้ว? คุณไม่ต้องไปแล้ว คุณอยู่ที่นี่ไว้ทุกข์ให้บรรพบุรุษเถอะ”
ทันใดนั้นเย่ฉางโคงรู้สึกสิ้นหวัง เขาคิดว่ามีโอกาสที่จะหนีจากความทุกข์ยากแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะดีใจเปล่า
เย่เฟิงที่อยู่ด้านข้างแทบเสียสติ เดิมทีเขายังคงฝันว่าพ่อของเขาจะสามารถครอบครองทรัพย์สินของครอบครัวเย่ทาวได้ และตนเองสามารถตามพ่อออกไปจากภูเขาเย่หลิงซานได้ ไม่คิดว่าสุดท้ายจะกลายเป็นแค่ความเฟ้อฝัน
ดังนั้น ยังไม่ทันที่เย่ฉางโคงจะพูดอะไร เย่เฟิงกล่าวอย่างไม่เต็มใจว่า “เย่เฉิน......ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถปล่อยเย่หงหยางกลับไปได้ เพราะเขาเป็นคนที่หัวรั้น และถ้าคุณปล่อยเขากลับไป มันมิเป็นการปล่อยเสือเข้าป่าหรือ? คุณต้องให้เขากับลูกชายอยู่ที่นี่จึงจะปลอดภัยต่อคุณ!”
เมื่อเย่หงหยางและเย่ทาวสองพ่อลูกได้ยินประโยคนี้ พวกเขาแทบอดใจไม่ได้ที่จะฆ่าเย่เฟิง
เคยเห็นคนเลว แต่ยังไม่เคยเห็นคนที่เลวมากขนาดนี้
เมื่อเย่ทาวฟังถึงตรงนี้ เขามองเย่เฉินอย่างซาบซึ้ง และกล่าวโพล่งออกมาว่า “ผู้นำตระกูลฉลาดหลักแหลม!”
เย่เฉินโบกมือ มองไปที่เย่เฟิงอีกครั้งและถามว่า “เย่เฟิง บอกผมตามตรงว่าคุณอยากออกจากภูเขาเย่หลิงซานใช่ไหม?”
เย่เฟิงตกใจจนสะดุ้งและโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่.....ผมไม่อยาก....... ”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณดูตนเองสิ คุณไม่ได้ซื่อสัตย์เลย นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมชอบคุณ เพราะในปากของคุณนั้นไม่มีความจริงเลยสักประโยค”
หลังจากนั้น เย่เฉินกล่าวอย่างจริงจังว่า “ถ้าคุณต้องการออกไปก็บอกมาตามตรง ขอเพียงแค่คุณบอกตามตรง ผมจะให้โอกาสคุณสักครั้ง ประจวบเหมาะที่ตอนนี้ผมมีเรื่องต้องการให้คนไปจัดการ ถ้าคุณบอกตามตรง ผมจะให้โอกาสคุณไปทำเรื่องนี้”
ดวงตาของเย่เฟิงเป็นประกายทันที ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นไว้ได้อีก และกล่าวว่า “ผมบอก ผมบอก.......ผมบอกความจริง....... ผมไม่อยากอยู่ที่ภูเขาเย่หลิงซานจริง ๆ .....เย่เฉิน.....ได้โปรดให้โอกาสผมด้วย! ไม่ว่าคุณจะให้ผมทำอะไร ผมก็เต็มใจ ขอเพียงแค่คุณไม่ให้ผมไปตัดอ้อยที่มาดากัสการ์...”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...