หลังจากการสนทนาสิ้นสุดลง ก็เป็นเวลาตอนเที่ยง เฉินจื๋อข่ายถามเย่เฉินว่า “คุณชาย ตอนเที่ยงคุณได้วางแผนจะไปรับประทานอาหารที่ไหนไว้หรือไม่?”
เย่เฉินส่ายศีรษะ “ไม่ได้วางแผนใด ๆ ตอนบ่ายผมจะไปพบหวั่นถิงเพื่อคุยเรื่องการประมูล”
เฉินจื๋อข่ายมองดูเวลาและกล่าวว่า “คุณชาย คุณรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงดีไหม? ผมจะให้พวกเขาจัดเตรียมอาหารกลางวันทันที”
“ไปทานที่เทียนเซียงฝู่เถอะ” เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ถึงอาหารที่ปรุงในโรงแรมใหญ่นั้นจะประณีตแค่ไหน มันก็ย่อมมีกลิ่นเหมือนข้าวหม้อใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
เฉินจื๋อข่ายรีบกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะไปเตรียมรถเดี๋ยวนี้ จะได้ไปทักทายหงห้าด้วย พวกเราไปที่เทียนเซียงฝู่กันเถอะ”
เย่เฉินสั่งว่า “โทรให้เว่ยเลี่ยงไปด้วย ผมมีเรื่องจะคุยกับเขา”
“ครับ!” เฉินจื๋อข่ายขันรับและรีบกล่าวว่า “คุณชาย ถ้าเช่นนั้นคุณไปรอที่สวนดอกไม้กลางอากาศก่อน”
ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เย่เฉินไม่ได้ถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน เขารู้สึกวางใจที่จะมอบทุกอย่างให้เว่ยเลี่ยงรับผิดชอบดูแล
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาต้องการเร่งพัฒนาบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ดังนั้นที่เรียกเว่ยเลี่ยงมาคราวนี้ เพราะต้องการมอบสูตรยาตัวใหม่ให้เขา เพื่อที่เขาจะได้รีบไปจัดเตรียมสูตรยาตัวใหม่
เฉินจื๋อข่ายได้โทรไปแจ้งหงห้า จากนั้นจึงขับรถพาเย่เฉินมุ่งหน้าไปที่เทียนเซียงฝู่
ทันทีที่เย่เฉินขึ้นรถ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น และซูจือหยูเป็นคนโทรมา
เย่เฉินรับโทรศัพท์และถามเธอด้วยรอยยิ้มว่า “คุณซู ทำไมถึงโทรหาผมในเวลานี้ได้ล่ะ?”
ซูจือหยูที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อมว่า “ผู้มีพระคุณ ที่จือหยูโทรมาเพราะต้องการรายงานต่อผู้มีพระคุณ เมื่อวานคุณปู่ประกาศกับตระกูลซูว่าฉันจะเข้ารับตำแหน่งผู้นำตระกูลซูในเช้านี้ และได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นขึ้นที่ซูซื่อกรุ๊ป และประกาศแต่งตั้งให้ฉันเป็นประธานของซูซื่อกรุ๊ป และตอนนี้ฉันได้รับช่วงต่อธุรกิจของตระกูลซูอย่างเป็นทางการแล้ว”
“รู้สึกแรงกดดันมากค่ะ” ซูจือหยูหัวเราะเยาะตนเอง “ทุกคนมองฉันราวกับว่าเป็นผู้บุกรุก พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะขย้ำฉันแล้ว”
หลังจากนั้น ซูจือหยูกล่าวอย่างจริงจังว่า “แต่ฉันมั่นใจว่าสามารถจัดการพวกเขาได้ ผู้มีพระคุณวางใจเถอะ”
“ดีมาก” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย “ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือใด ๆ อย่าลืมมาหาผม”
“ค่ะ! ขอบคุณผู้มีพระคุณ!”
เย่เฉินกล่าวอีกครั้งว่า “อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองวันที่ผ่านมานั้น ผมได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงลักษณะงานของสำนักว่านหลง แผนเบื้องต้นคือให้พวกเขาจัดตั้งบริษัทคุ้มกันติดอาวุธก่อน และหลังจากการก่อตั้งแล้ว ก็จะมอบทงานคุ้มกันของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดทั้งหมดให้พวกเขา ถ้าคุณมีเวลามาที่เมืองจินหลิง พวกเราค่อยคุยกันอีกที”
ซูจือหยูไม่ลังเล และกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อยว่า “ผู้มีพระคุณ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปหาคุณ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...