เขาอัดอั้นถึงที่สุด แต่เพื่อลูกชายแล้ว จึงทำได้แค่ทนหน้าด้านพูดว่า “คุณเว่ย….ผมผิดไปแล้ว….ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความผิดของผมคนเดียว! ผมมันมีตาหามีแววไม่ ผมมันโลกแคบ ไม่รู้จักว่าอะไรดีไม่ดี…..”
“เอาเป็นว่า ผมมันก็แค่ขี้กองหนึ่ง คนใจกว้างอย่างคุณ ได้โปรดอย่าถือสาหาความกับขยะแบบผมเลย ผมขอร้อง เห็นแก่ที่ลูกผมป่วยเป็นมะเร็งก็ได้ ให้โอกาสเขาได้มีชีวิตต่อไปเถอะนะ เขาเพิ่งจะสิบสองปีเอง……”
เว่ยเลี่ยงเอ่ยพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “คุณสมิธครับ บนโลกนี้มีเด็กป่วยเป็นโรคมะเร็งอีกหลายพันหลายหมื่นคน อีกอย่างก็มีเด็กหลายคนที่อายุน้อยกว่าลูกของคุณด้วยซ้ำ แต่ว่าลูกของคุณ กลับเป็นแค่คนเดียวที่ได้รับยาเกิดใหม่เก้าเสวียน ดังนั้นผมจึงคิดว่าคุณควรที่จะขอบคุณและรู้จักพอ! มีเด็กที่เป็นเหมือนลูกคุณอีกนับไม่ถ้วน ต้องตายไปอย่างทรมานเพราะไม่ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ พอเปรียบเทียบกันแล้ว ลูกของคุณถือว่าโชคดีมากๆแล้วนะครับ”
สมิธเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ยาเกิดใหม่เก้าเสวียนที่เว่ยเลี่ยงให้มา ทำให้ลูกของเขาอาการดีขึ้นมาก ถึงขนาดที่มีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสองสามเดือนหรืออาจจะมากกว่านั้น เท่านี้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว
แต่สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ในเวลาแบบนี้ก็ต้องโลภมากกันทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้เขาใช้วิธีการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบันมาหมดแล้ว ในที่สุดตอนนี้ก็ได้เจอกับยาวิเศษที่รักษาลูกเขาได้ แล้วเขาจะยอมปล่อยมันไปได้ยังไง?
ต่อให้ตีเขาให้ตาย เขาก็ต้องได้ยานั้นมา เพื่อให้ลูกชายได้มีชีวิตอยู่ต่อ
แม้ว่าวัฒนธรรมระหว่างตะวันตกและตะวันออกจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก แต่ในด้านความรัก ส่วนใหญ่แล้วก็เหมือนๆกัน โดยเฉพาะความรักที่พ่อแม่มีต่อลูก ล้วนแล้วแต่เป็นความรักที่ยอมเสียสละ
ดังนั้นเขาจึงรีบพูดขึ้นมาว่า “คุณเว่ย คุณอยากให้ยาชนิดนี้วางขายในตลาดอเมริกาไม่ใช่เหรอ? ผมจะช่วยคุณนำมันเข้ามาเอง! จะให้ผมออกประกาศอนุมัติพิเศษให้นำมาใช้ในสถานพยาบาลวันนี้เลยก็ได้! พอถึงตอนนั้นพวกผมจะแถลงการณ์เพิ่มเกี่ยวกับประสิทธิภาพจริงๆของยา ผมเชื่อว่ามันต้องสร้างความสะเทือนให้ทั่วทั้งโลกแน่ๆ และยาเกิดใหม่เก้าเสวียนก็จะกลายเป็นยาที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเวลาเพียงฉับพลัน เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนก็จะก้าวกระโดดมาเป็นบริษัทยาที่มีชื่อเสียง…..”
เขาคิดว่า ถ้าเขาออกไพ่ใบนี้ เว่ยเลี่ยงจะต้องรีบตอบตกลงอย่างแน่นอน
พูดจบ เว่ยเลี่ยงก็ตัดสายไปทันที
ชั่ววินาทีนี้ ความกรุ่นโกรธที่อัดแน่นอยู่ในใจของเว่ยเลี่ยงพลันถูกกวาดหายไปทันที
ก่อนหน้านี้ที่ถูกสมิธตั้งคำถาม ดูถูกมาสารพัด เขาเอาแต่เก็บกดเอาไว้ในใจตลอด
ตอนนี้ เมื่อเขานึกถึงสภาพไม่เป็นท่าของสมิธในสายโทรศัพท์ ก็พลันรู้สึกสะใจขึ้นมา
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็อดที่จะพึมพำกับตัวเองไม่ได้ว่า “เรื่องปั่นหัวคน นี่ต้องยกให้อาจารย์เย่เลย ถ้าเป็นฉันนะ ให้ตายยังไงก็คงคิดวิธีเล่นแบบนี้ไม่ออกหรอก….ดูแล้วสมิธอะไรนั่นคงทรมานเสียยิ่งกว่าตายเสียอีก!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...