ในตอนที่เฟ่ยเจี้ยนจงขึ้นมานั่งบนรถหงฉีที่เฉินจื๋อข่ายเตรียมเอาไว้ มุ่งหน้าไปยังเขตเมืองจินหลิง เขาอัดอั้นในใจเป็นอย่างมาก นั่งพิงอยู่เบาะหลังไม่พูดไม่จา
ข้างๆกัน มีล่ายชิงหว่านที่อายุเกินร้อยปีนั่งอยู่ด้วย
ล่ายชิงหวาดูออกว่าเฟ่ยเจี้ยนจงกำลังอารมณ์ไม่ดี จึงเอ่ยถามยิ้มๆว่า “เจี้ยนจง เหมือนนายจะอารมณ์ไม่ดีเลยนะ”
“ผมอารมณ์ดีไม่ไหวหรอก……” เฟ่ยเจี้ยนจงเอ่ยพูดอย่างฟึดฟัด “พูดอย่างไม่อ้อมค้อมเลยนะ ผมอารมณ์เสียตั้งแต่ลงมาจากเครื่องบินแล้ว”
ล่ายชิงหวายิ้มออกมาเล็กน้อย กล่าวเตือนว่า “เจี้ยนจง ในเมื่อตัดสินใจมาแล้ว ก็ต้องหัดใจเย็นนะรู้ไหม”
เฟ่ยเจี้ยนจงพยักหน้าอย่างฝืนๆ จากนั้นก็ลูบเบาะรถ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์อย่างปิดไม่มิด
ล่ายชิงหวารู้ว่าเขาต้องไม่ชินกับรถเกรดCแน่ๆ เพราะราคาของรถคันนี้ เทียบกับราคาเบาะรถที่เฟ่ยเจี้ยนจงใช้เดินทางเป็นประจำไม่ติดด้วยซ้ำ
ดังนั้น เขาจึงพูดยิ้มๆกับเฟ่ยเจี้ยนจงว่า “เจี้ยนจง อย่าดูถูกรถคันนี้เชียวนะ นี่มันรถหงฉีเลยนะ”
เฟ่ยเจี้ยนจงยิ้มแห้ง “ผมรู้ว่าเป็นรถหงฉี แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งรถแบบนี้”
ล่ายชิงหวาเอ่ยพูดอย่างจริงจังว่า “รถหงฉีเป็นลูกรักของประเทศและจุดเริ่มต้นก่อตั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ของหัวเซี่ย แถมยังเป็นรถถึกทนที่คนใหญ่คนโตนิยมใช้กันมาหลายสิบปี สำหรับคนหัวเซี่ย รถรุ่นนี้มีความหมายมากๆ ที่ทางผู้จัดเตรียมรถรุ่นนี้มารับเรา ก็น่าจะแสดงเจตนาแบบนี้ล่ะมั้ง”
เฟ่ยเจี้ยนจงเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “พอพูดมาอย่างนี้แล้ว ผู้จัดงานประมูลในครั้งนี้ คงเป็นพวกชาตินิยาชมชสินะ”
“ใช่” ล่ายชิงหวาพยักหน้า “เราต้องเคารพทุกคนที่เป็นชาตินิยม เพราะเขาจะไม่ยืนอยู่ผิดที่เมื่อเผชิญหน้ากับความถูกและความผิด”
เฟ่ยเจี้ยนจงไม่ได้พูดอะไรออกมา ขมวดคิ้วราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
ในตอนที่ขบวนรถมาถึงโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง ตัวโรงแรมก็ถูกปิดเอาไว้อย่างคุมเข้ม
ขบวนรถของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงเท่านั้นถึงจะสามารถวิ่งเข้าออกได้ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่สามารถเข้าไปข้างในได้
แต่ว่า ณ ห้องโถงของโรงแรมในขณะนี้กลับเต็มไปด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวของผู้คน
ผู้เข้าประมูลที่ทยอยถูกส่งตัวมาที่นี่ กำลังทำเรื่องเข้าพักทีละคน
เฟ่ยเจี้ยนจงตอบอืม จากนั้นก็พูดว่า “เรียบร้อยแล้ว แกเดาเอาไว้ไม่ผิด พวกเขาให้ผู้เข้าประมูลเข้าพักที่โรงแรมป๋ายจิ่นฮ่านกงจริงๆด้วย ฉันว่าที่นี่ต้องเป็นสนามจัดการประมูลด้วยแน่ๆ”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยพูด “คุณปู่ ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างคับขัน ช่วงสองสามวันนี้อาจจะไม่ได้เจอกัน แต่ว่าฉันจะพยายามหาทางเกลี้ยกล่อมคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาอายุวัฒนะต่อไป”
เฟ่ยเจี้ยนจงเอ่ยถาม “ตอนนี้มีความคืบหน้ายังไงบ้าง?”
เฟ่ยเข่อซินพูดไปตามจริงว่า “ไม่กล้าพูดว่ามั่นใจว่าจะทำได้ แต่อย่างน้อยก็ก้าวหน้าแล้วแน่ๆ อีกฝ่ายบอกว่าหลังงานประมูลจบจะเลี้ยงข้าวตอบแทนฉัน ถ้าคุณปู่ประมูลยาอายุวัฒนะในงานมาไม่ได้ ถึงตอนนั้นฉันจะพาคุณปู่ไปเจอเขาด้วย”
“ดี” เฟ่ยเจี้ยนจงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก คร่ำครวญว่า “เข่อซิน ครั้งนี้คงลำบากแกแย่ ที่ต้องคอยวิ่งหน้าวิ่งหลังให้ขนาดนี้”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยพูด “คุณปู่ มันเป็นเรื่องที่ฉันควรทำทั้งนั้น”
เฟ่ยเจี้ยนจงทอดถอนหายใจออกมา “หวังว่าการประมูลในครั้งนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น พองานเสร็จ แกก็จะได้กลับนิวยอร์กกับฉันสักที”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยพูด “คุณปู่ ฉันเชื่อว่าคุณปู่ต้องประมูลมาได้แน่ๆ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...