ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 3738

เมื่อเห็นว่าเย่เฉินถามราคาออกมาตรงๆ พนักงานขายคนนั้นก็ยิ้มเหยียดออกมา เอ่ยพูดว่า “คุณผู้ชาย เมื่อกี้ผมบอกแล้วนะครับ กระเป๋ารุ่นนี้เป็นที่ต้องการของใครหลายๆคน ถ้าอยากได้คุณก็ต้องสะสมยอดสั่งซื้อในร้านของเราก่อน ถ้ายอดสั่งซื้อแซงลูกค้าคนอื่นๆ ยังไงทางเราก็จะเอากระเป๋ารุ่นนี้ให้คุณแน่นอน”

เย่เฉินแสยะยิ้มออกมา เอ่ยพูดว่า “ถ้าเกิดฉันซื้อสินค้าอื่นร่วมด้วยหลายแสนแล้วจู่ๆนายมาบอกว่าไม่มีกระเป๋ารุ่นนี้แล้วจะทำยังไง? แบบนั้นฉันจะไม่เสียเงินไปเปล่าๆเหรอ?”

สีหน้าของพนักงานขายพลันเปลี่ยนเป็นประหม่า แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “คุณผู้ชาย ถ้าคุณซื้อสินค้าอย่างอื่นด้วย แต่ยังซื้อกระเป๋าไม่ได้ นั่นก็หมายความได้อย่างเดียวว่ามีคนซื้อสินค้าอย่างอื่นร่วมด้วยมากกว่าคุณยังไงล่ะ”

เย่เฉินขำแล้วพูดว่า “พวกนายทำแบบนี้มันดูลับๆล่อๆไปหน่อย เรื่องที่มีใครซื้อมากกว่าฉันหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับว่าปากพวกนายทั้งนั้น ข้อมูลอะไรก็ไม่มีมากางให้ดู แล้วจะให้ฉันเชื่อนายได้ยังไง?”

เมื่อพนักงานขายเห็นเย่เฉินเริ่มไล่บี้ ก็คิดว่าเย่เฉินเป็นพวกไม่มีเงินแต่อยากซื้อของแพง เลยแสยะยิ้มออกมา แล้วพูดว่า “ต้องขออภัยด้วยนะคุณผู้ชาย นี่เป็นกฎของพวกเรา ไม่ว่าคุณจะกระจายซื้อมากเท่าไหร่ ก็ต้องทำตามกฎที่เรากำหนดเท่านั้น เพราะงั้น ถ้าคุณอยากซื้อกระเป๋ารุ่นนี้ ก็ต้องสะสมยอดสั่งซื้อก่อน ไม่อย่างนั้น ก็เชิญไปดูแบรนด์อื่นที่ไม่ต้องกระจายซื้อเถอะครับ”

พนักงานขายแรนด์เนมหรูๆ ล้วนแล้วแต่ต้องทำงานด้วยจิตวิญญาณที่มาจากใจจริง

ต้องหัดสังเกต และเข้าอกเข้าใจลูกค้า

แต่ประเด็นก็คือ หลายๆคนกลับไม่มีจรรยาบรรณที่พนักงานขายควรมี

ยกตัวอย่างเช่นกระเป๋าถือแพลตตินัม30รุ่นนี้ ขอบเขตราคาการกระจายซื้อทั่วโลกมีตั้งแต่แสนต้นๆไปถึงแสนปลายๆ

เหตุผลที่มีช่องว่างเยอะขนาดนี้ เป็นเพราะว่าพนักงานขายบางคนปฏิบัติกับลูกค้าไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่จะสนใจแต่ลูกค้าที่สามารถสร้างผลกำไรให้

ถ้าเป็นลูกค้าประจำที่ค่อนข้างสนิทกัน และส่งของขวัญให้พวกเขาตลอด พวกเขาก็จะยอมบอกราคาที่แน่นอนมาแต่โดยดี ตราบใดที่ลูกค้ากระจายซื้อในจำนวนเงินที่เพียงพอ พวกเขาก็จะยอมขายให้ลูกค้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน