เมื่อคิดถึงตรงนี้ จู่ๆ เขารู้สึกว่าพวกคนบ้านเกิดเดียวกัน ที่มาจากเกาะซิซิลี ที่อยู่ตรงหน้าพวกนี้ มีหน้าตาน่ารังเกียจขึ้นมาทันที
เขากำหมัดแน่น ลังเลอยู่นาน จึงหยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูดอย่างเย็นชา “ทุกท่าน ฉันหวังว่ามีเรื่องหนึ่ง ที่ทุกคนควรเห็นพ้องต้องกัน นั่นก็คือ ถ้าไม่มีฉัน ทุกคนคงไม่สามารถได้เงินค่าชดเชยเยอะขนาดนี้ ใช่ไหม!”
ทันใดนั้น ทุกคนพากันหยุดลง แล้วเงยหน้ามองเจ้าพ่อเฒ่า ไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไร
แต่คนที่ความรู้สึกไว พอรู้อะไรบ้างแล้ว พูดกระซิบกระซาบด้านล่างว่า “ให้ตายเถอะ ไอ้แก่นี่คงไม่ได้จะเอาผลประโยชน์ใช่ไหม!”
มีคนพูดเสริมด้วยเสียงเบาทันที “ไอ้แก่เลวนี่ คนในครอบครัวตายหมดแล้ว จะเอาผลประโยชน์ไปทำไม เงินพวกนี้แลกมาด้วยชีวิตของลูกฉัน ฉันไม่ให้เขาสักแดงเดียวหรอก!”
มีคนพูดอย่างเห็นใจว่า “เฮ้อ เจ้าพ่อเฒ่าก็น่าสงสารจริงๆ ถ้าเงินนี้เข้าบัญชี ฉันยอมให้ห้าร้อยดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือเขา”
“ห้าร้อย” มีคนพูดอย่างเยาะเย้ย “ฟรานซี่ เธอขี้งกไปหน่อยไหม ถึงช่วยเหลือแค่ห้าร้อยดอลลาร์ ถ้าเป็นฉันคงให้หนึ่งพันแล้ว! ฉันว่า ถ้าเราทุกคนได้เงินค่าชดเชยมาแล้ว ทุกคนให้เจ้าพ่อเฒ่าหนึ่งพันดอลลาร์ ถ้าเป็นอย่างนี้ เจ้าพ่อเฒ่าจะได้เงินประมาณแปดแสนกว่าดอลลาร์เลยนะ เพียงพอที่จะให้เขาเลี้ยงดูตัวเองยามแก่เฒ่า”
“หนึ่งพันเหรอ!” คนที่แสดงท่าทีว่าจะไม่ให้สักแดงเดียวก่อนหน้านี้ พูดอย่างเย็นชา “ถ้าพูดแบบนี้ เขาแค่ขยับปาก ก็ทำเงินได้แปดแสนกว่าดอลลาร์! มีสิทธิ์อะไร ชีวิตลูกชายฉัน เอากลับมาได้แค่ห้าล้านดอลลาร์เท่านั้น!”
ขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันไม่หยุด เจ้าพ่อเฒ่ากัดฟันโพล่งออกมาว่า “ทุกคนไม่พูดอะไร งั้นฉันคิดว่าทุกคนตกลงแล้ว ในเมื่อฉันช่วยให้ทุกคนได้เงินชดเชยเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยทุกคนต้องเอา 10 เปอร์เซ็นต์ จากเงินชดเชย เป็นค่าตอบแทนของฉัน! ทุกคนก็รู้ ถึงทุกคนไปหาทนายเพื่อขึ้นศาล เปอร์เซ็นต์ที่ทนายเก็บ ก็ไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์”
คำพูดนี้ ทำให้มีเสียงสาปแช่งดังขึ้น
จากนั้น เจ้าพ่อเฒ่าพยายามกลับไปนั่งบนรถเข็นด้วยตัวเอง กำลังจะเข็นรถเข็นออกจากโบสถ์ด้วยตัวเอง
วัยรุ่นคนหนึ่งกระโดดออกมา พูดอย่างโมโหว่า “ไรอัน นายไปได้ แต่ทิ้งมือถือนายไว้!”
“ใช่!” คนอื่นพากันพูดเสริม “นายไสหัวไปได้ แต่ต้องทิ้งมือถือเอาไว้!”
ใครๆ ก็รู้ว่า เจ้าพ่อเฒ่าใช้มือถือติดต่อผู้มีอิทธิพล อีเมลที่ผู้มีอิทธิพลส่งมาก็อยู่ในมือถือเขา อีกทั้งเงินชดเชยที่คนในครอบครัวอย่างพวกเขาต้องการ ต้องทำตามความต้องการของผู้มีอิทธิพล ต้องรวบรวมรายชื่อก่อน จากนั้นอัดวิดีโอ ยืนยันตัวตนของตัวเองกับสมาชิกที่หายตัวไป จากนั้นค่อยให้บัญชีธนาคารของตัวเอง และรอรับเงิน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...