ไม่กี่นาทีต่อมา เฮลิคอปเตอร์ก็ได้บินออกจากลานบ้านพักขนาดใหญ่หลังนี้ และบินตรงไปยังพรอวิเดนซ์
ในเวลาเดียวกัน คนที่กำลังตามหาเบาะแสของเฟ่ยห้าวหยาง มีจำนวนที่มากกว่าหลายหมื่นคนในนครนิวยอร์ก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้คนจำนวนมากกำลังใช้สมองอย่างหนักในการหาเบาะแส แต่พวกเขาทั้งหมดก็ยังไม่พบอะไรเช่นเคย
รถขนขยะที่ขับออกจากโรงแรมแมนชั่น ราวกับว่าระเหยจากโลกนี้ไป และไม่พบเบาะแสใดๆ อีกเลย
ยิ่งไม่ได้ผลลัพธ์นานเท่าไหร่ คนของตระกูลเฟ่ยก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น
แม้ว่าเฟ่ยซานไห่จะเข้มงวดกับเฟ่ยเสวปินในช่วงเวลาปกติ แต่สำหรับหลานชายเฟ่ยห้าวหยางคนนี้เขากลับตามใจและรักใคร่อย่างมาก ตอนนี้เฟ่ยห้าวหยางถูกลักพาตัวไป และไม่มีเบาะแสใดๆ เขาจึงเรียกตัวเฟ่ยเสวปินมาที่ห้องสมุดของตัวเอง และถามอย่างเฉียบขาดว่า “คุณทำบ้าอะไรกันแน่? เวลามันผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่มีข่าวคราวอะไรเลย!”
เฟ่ยเสวปินก็รู้สึกหมดหนทางเช่นกัน และพูดโพล่งออกมาว่า “คุณพ่อ นินจาญี่ปุ่นพวกนั้นเหมือนหายตัวไปจากโลกใบนี้เลย และหาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย!”
เฟ่ยซานไห่พูดอย่างเย็นชาว่า “พอจะสืบออกมาได้หรือยังว่านินจาแก๊งไหนเป็นคนทำกันแน่?”
“ยังเลย” เฟ่ยเสวปินถอนหายใจและกล่าวว่า “ข้อมูลรายการได้ถูกโอนออกมาแล้ว แต่มีคนมากเกินไป และกำลังคัดกรองอยู่ สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ นินจาเหล่านี้มีทักษะในการแปลงโฉม และมีหลายตัวตน แม้ว่าพวกเราจะสืบเจอข้อมูลของพวกเขาในเอกสารเข้าออกเมือง มันก็อาจไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา”
เฟ่ยซานไห่ถามอีกครั้งว่า “ถึงตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อคุณเลยเหรอ? หากว่าตามเหตุผลทั่วไปแล้ว อีกฝ่ายลักพาตัวห้าวหยางไป และตอนนี้ก็ควรจะถึงเวลาที่เรียกค่าไถ่แล้ว!”
เฟ่ยเสวปินส่ายหัวและพูดว่า “ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อผมเพื่อเรียกค่าไถ่เลย”
ทันทีที่เขาพูดจบ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาทันที
เมื่อมองลงไป มันคือข้อความจากหมายเลขหมายที่ไม่รู้จัก
ในเนื้อหาของข้อความคือ “อยากรู้เบาะแสของลูกชายคุณ ก็ขับรถไปที่บรุกลิน!”
เฟ่ยเสวปินตกใจเล็กน้อย และถามว่า “พ่อ ให้ผมไปเหรอ?”
“เหลวไหล!” เฟ่ยซานไห่พูดโพล่งออกมาว่า “คุณไม่ไปแล้วจะให้ข้าไปงั้นเหรอ?”
เฟ่ยเสวปินกล่าวอย่างประหม่าว่า “กฎหมายและระเบียบในบรุกลินแย่มาก และผมกังวลว่ามันจะเป็นกับดัก.......”
เฟ่ยซานไห่โบกมือและพูดว่า “ไม่มีอะไรต้องกังวล คุณไปได้เลย และปล่อยให้นักบู๊ติดตามคุณไปด้วย และนำผู้คุ้มกันสองทีมไปปกป้องความปลอดภัยของคุณอย่างลับๆ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่กองกำลังพิเศษก็ไม่สามารถลักพาตัวคุณไปได้!”
เมื่อเห็นการยืนกรานของบิดาของเขา ดังนั้นเฟ่ยเสวปินก็ทำได้เพียงพยักหน้า และกล่าวว่า “งั้นผมก็จะรีบไปถามที่อยู่ที่แน่ชัดของเขาเดี๋ยวนี้เลย”
หลังจากพูดจบ เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ขณะส่งหมายเลขโทรศัพท์ไปยังหน่วยข่าวกรองของตระกูลเฟ่ย ตอบกลับข้อความ และสอบถามว่า “ผมจะไปพบคุณได้ที่ไหน?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...