ในเวลานี้แพทย์ผู้ดูแลของอานฉี่ซานกล่าวว่า "ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไม่ได้แล้ว สถานการณ์ปัจจุบันของคุณท่าน เครื่องกระตุ้นหัวใจมีแต่จะทำให้เขาต้องเจ็บปวดก่อนที่เขาจะจากไป ร่างกายของเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว..."
หมอคนนั้นเมื่อเห็นว่า ECG เกือบวิ่งเป็นเส้นตรงแล้วก็ถามด้วยความตื่นตกใจ "ผู้อำนวยการ ช่วยชีวิตไม่ได้แล้วจริงหรือ?"
ในเวลานี้ ผอ.มองดูนายหญิงใหญ่แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “นายหญิงใหญ่ ตอนนี้ถ้าเรายังช่วยชีวิตคุณท่านอยู่ อย่างมากก็จะยื้อเวลาเอาไว้ได้แค่สิบนาทีหรืออาจได้แค่สักสองสามนาทีเท่านั้น ไม่ว่าเครื่องกระตุ้นหัวใจก็ดี หรือการปั้มหน้าอกก็ดี ทั้งหมดนี้มีแต่จะทำให้คุณท่านเจ็บปวดมากขึ้นในนาทีสุดท้าย คุณคิดว่าเราควรจะล้มเลิกการช่วยเหลือ แล้วปล่อยให้คุณท่านจากไปอย่างสงบหรือไม่?”
นายหญิงใหญ่ผงกศีรษะของเธอเบา ๆ เธอเช็ดน้ำตาของเธอและเอ่ยสะอื้นไห้ "พวกคุณทุกคนออกไปเถอะ ให้ฉันและลูก ๆ ได้อยู่กับเขาในช่วงเวลาที่เหลืออยู่"
ทันทีที่ถ้อยคำเหล่านี้ออกมา ลูกหลานของตระกูลอานก็ก้มหน้าและร้องไห้อย่างขมขื่นทันที
เมื่อรู้ว่านายหญิงใหญ่ได้ตัดสินใจแล้ว ผู้อำนวยการก็พยักหน้าน้อยๆด้วยความเข้าใจอย่างยิ่ง เขาส่งสายตาให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนที่อยู่รอบๆ ตัวเธอ แล้วพูดกับนายหญิงใหญ่ว่า “นายหญิงใหญ่ พวกเราออกไปก่อนแล้ว หากมีอะไรคุณเรียกพวกเราได้ตลอด"
เมื่อเห็นว่าคุณท่านใกล้จะเสียชีวิตแล้ว กู้ชิวอี๋ก็รีบพูดขึ้นว่า "คุณย่า ผม... หนูมียาชนิดหนึ่ง...บางทีมันอาจจะช่วยชีวิตคุณตาได้..."
นายหญิงใหญ่ยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวขอบคุณ “เด็กดี ขอบคุณหนูมาก แต่ตาของหนูครั้งนี้ไม่สามารถผ่านกำแพงนี้ไปได้แล้วจริงๆ ยาอะไรก็ช่วยเขาไม่ได้ทั้งนั้น ปล่อยเขาไปอย่างสงบเถอะ”
ดังนั้น เมื่อนายหญิงใหญ่จึงเห็นว่าลมหายใจของอานฉี่ซานเปลี่ยนเป็นอ่อนลงอย่างมาก จนแทบจะมองไม่เห็นการขึ้นลงของหน้าอกแล้ว เธอก็ร้องไห้อย่างขมขื่นและเอ่ยปฏิเสธ "เด็กดี หนูเก็บยานี้ไว้เองเถอะ ในกรณีของคุณตาหนู ยาอะไรก็ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น ให้เขาไปอย่างสงบเถอะ”
กู้ชิวอี๋พูดอย่างร้อนใจอยู่บ้าง “คุณยาย ยานี้ต่างจากยาธรรมดาทั่วไปจริงๆ พ่อของหนูในตอนนั้นเองก็เข้ารับการรักษามะเร็งตับอ่อนในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน เขาใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับไฮเอนด์ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาจนหมดและแทบจะไม่ได้ผลอะไร แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นยาเม็ดนี้ที่ช่วยชีวิตเขา!"
ขณะที่เธอพูด กู้ชิวอี๋ก็กลัวว่าพวกเขาจะไม่เชื่อเขา ดังนั้นเธอจึงรีบพูดอีกว่า "ใช่สิ ตอนที่พ่อของหนูป่วย สื่อในประเทศจำนวนมากได้รายงานถึงเรื่องของเขา แม้แต่สื่อที่ไร้ยางอายหลายฉบับก็ตีพิมพ์ข่าวเท็จเกี่ยวกับการเสียชีวิตของคุณพ่อ ต่อมาพอเขาฟื้นตัวแล้วก็ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและเกิดการถกเถียงในจีนเป็นจำนวนมาก ถ้าพวกคุณไม่เชื่อหนู ก็สามารถค้นหาข่าวเกี่ยวกับพ่อของหนูทางออนไลน์ได้ตลอดเวลา พ่อของหนูชื่อกู้เย้นจง!"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...