เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็ชะงักไปเล็กน้อยและพูดต่อว่า “ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันพูดนั้นค่อนข้างไร้มนุษยธรรมและถึงขั้นโหดร้ายอยู่บ้าง แต่นี่เป็นเรื่องจริงที่สุด สำหรับพวกเขาแล้ว ฆาตกรนั้นแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาก็เสมือนกับการตีหินด้วยไข่ ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือรับเงินชดเชยก้อนโตไปแล้วใช้ชีวิตให้ดีๆ สำหรับเรื่องที่พวกเขาคิดจะแสวงหาความยุติธรรมนั้น ฉันเชื่อว่าคนในตระกูลอานจะต้องคืนมันให้กับพวกเขาในอนาคตแน่ ถ้าตระกูลอานไม่มีความสามารถนี้ ฉันเย่เฉินก็เป็นคนทวงคืนให้พวกเขาเอง!”
เย่เฉินในตอนนี้มีน้ำเสียงที่เด็ดขาดและทัศนคติแน่วแน่ ในสายตาของเฉินตัวตัวนี่ทำให้ในใจของเธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมเขา
ในเวลานี้เอง เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฉิน ก็ทำให้เธอมีกำลังใจขึ้นมามาก จากนั้นเธอจึงรีบพูดว่า “ตกลงคุณเย่ หลังจากการแสดงจบลง ฉันจะไปคุยกับครอบครัวของพวกเขา…”
เย่เฉินพยักหน้าและเอ่ยอย่างจริงจัง “นอกจากนี้ ศพของเหยื่อก็สามารถถูกนำกลับไปและฝังได้อย่างอิสระ หากมีเจ้าหน้าที่ในประเทศอยู่ด้วย ก็จ่ายเงินเพื่อช่วยพวกเขาขนส่งศพหรือกระดูกกลับประเทศไป หากครอบครัวของพวกเขาเต็มใจที่จะมาอเมริกา อย่างนั้นก็จงออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดและให้ญาติของพวกเขามารับศพไป ถึงเวลานั้นเธอช่วยบอกพวกเขาแทนฉัน พวกเขาสามารถเอาเงินไปก่อนได้ หากภายในสามปีนี้ไม่มีความจริงให้แก่พวกเขา พวกเขาก็สามารถประกาศเรื่องนี้ออกไปทั่วโลกได้เลย!”
"ตกลงค่ะ!" เฉินตัวตัวตอบรับโดยไม่ต้องคิดเลยสักนิด "คุณเย่ไม่ต้องกังวล ฉันจะชี้แจงให้ครอบครัวของเหยื่อทุกคนเข้าใจอย่างชัดเจน!"
"ดี" เย่เฉินพยักหน้า เขามองไปที่เฟ่ยเข่อซินและหยวนจื่อซู จากนั้นก็พูดกับพวกเขาว่า "เรื่องที่เหลือต้องรบกวนทุกท่านจัดการแล้ว ฉันขอตัวกลับไปที่ห้องก่อน"
หลังจากพูดจบ เย่เฉินก็ประสานมือทักทายให้คนทั้งสอง จากนั้นก็หันหลังเดินกลับไป
เมื่อเย่เฉินกลับมาที่ห้อง ผ่านด้านนอกหน้าต่าง การแสดงของกู้ชิวอี้ยังคงดำเนินต่อไป ส่วนเซียวชูหรันก็กำลังนอนหลับสบายอยู่บนโซฟาข้างๆ เขา
เย่เฉินไม่ได้รีบปลุกเซียวชูหรัน แต่ค่อยๆ ประคองเธอขึ้นมาและปล่อยให้เธอพิงบนไหล่ของตน จากนั้นก็นั่งนิ่งบนโซฟา ด้านหนึ่งมองไปยังกู้ชิวอี๋บนเวที อีกด้านหนึ่งใช้พลังทิพย์สัมผัสถึงสถานการณ์ในห้องถัดไป
ส่วนอานข่ายเฟิงซึ่งนิสัยคล้ายกับคุณท่านใหญ่มากที่สุด ในเวลานี้กำลังกำหมัดแน่นและร่างกายของเขาก็สั่นเทาอย่างรุนแรง
หลังจากเงียบไปนาน เขาก็เปิดปากพูดกับฝูงชนว่า “เมื่อครู่นี้ฉันลองคิดให้รอบคอบอีกครั้ง คืนนี้น่าจะเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีหรือยี่สิบปีที่พวกเราทั้งตระกูลอานมารวมตัวกันอย่างสมบูรณ์นอกบ้านของเรา ยกเว้นเขาตนนั้นที่ไม่ได้มา เกือบทุกคนก็ล้วนอยู่ที่นี่แล้ว...”
คุณท่านใหญ่พยักหน้าเบา ๆ และถอนหายใจ “เมื่อเรามาที่นี่ พวกเราก็ต้องนั่งเครื่องบินแยก 2 ลำ ก็เพราะกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับทั้งตระกูล แต่คราวนี้ช่างประมาทไปแล้วจริงๆ…”
นายหญิงใหญ่ด้านหนึ่งร้องไห้ไป อีกด้านก็ตำหนิตัวเองว่า "เป็นความผิดของฉันเอง...เป็นฉันที่เสนอให้มาให้กำลังใจหนานหนาน เพราะเธอมีบุญคุณกับพวกเรา..."

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...