ฟางเจียซินถามด้วยความงงงวยว่า “สำนักว่านหลงนั่นเป็นทหารรับจ้างไม่ใช่หรือคะ? หากพูดตามหลักแล้วทหารรับจ้างเป็นใครจ่ายเงินก็ทำงานให้คนนั้นไม่ใช่หรือ? ตามหลักแล้วควรจะเป็นพวกเขามาเอาใจเรา ทำไมพวกเราจะต้องไปเอาใจพวกเขาด้วย?”
หลิวเจียฮุยกล่าวอย่างดูถูก "ไม่รู้อะไรเอาซะเลย! สำนักว่านหลงไม่ใช่องค์กรรับจ้างทั่วไป แต่เป็นหนึ่งในทหารรับจ้างที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก! โดยพื้นฐานแล้วพวกเขารังเกียจที่จะทำงานกับบุคคลทั่วไป และล้วนให้ความร่วมมือกับบางประเทศรวมถึงทหารของประเทศเหล่านั้น ครั้งนี้บริษัทนานาซูขนส่ง จำกัดสามารถดึงสำนักว่านหลงเข้ามาได้ ก็เป็นเพราะตระกูลซูมีที่มาที่ไปกับสำนักว่านหลงอยู่บ้าง!”
จากนั้นเขาก็พูดอย่างภาคภูมิใจว่า "ฉันได้ตรวจสอบบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดเอาไว้นานแล้ว พ่อของว่านพั่วจวินประมุขสำนักว่านหลง ตอนนั้นเป็นน้องชายของซูโสว่เต้าตระกูลซูเย่นจิง เป็นซูโสว่เต้าที่พยุงเขาให้เติบโตขึ้นมา เท่ากับว่าตระกูลซูมีบุญคุณต่อตระกูลว่าน ดังนั้นว่านพั่วจวินหลังจากจัดการเรื่องตระกูลเย่แห่งเย่นจิงได้แล้วถึงไปร่วมมือกับตระกูลซู ไม่อย่างนั้น ต่อให้ตระกูลซูจะร่ำรวยมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเรียกใช้ว่านพั่วจวินได้!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลิวเจียฮุยก็เห็นว่าฟางเจียซินฟังจนมีสีหน้าสับสน เขาจึงเอ่ยเร่งเธอ "พอแล้ว คุณไปสั่งให้คนใช้ทำความสะอาดห้องรับแขกก่อนเถอะ แล้วบอกให้พ่อบ้านให้เตรียมงานเลี้ยงด้วย จากนั้นก็หาเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปที่สนามบินเพื่อรับคนกับฉัน! อ้อใช่ โทรเรียกม่านฉงกลับมาแล้วบอกว่าฉันมีเรื่องสำคัญที่จะต้องตามหาเธอ!”
ฟางเจียซินมีสีหน้าปั้นยากอยู่บ้างและเอ่ยว่า “เรียกม่านฉงกลับมาในเวลานี้ คุณหาเรื่องใส่ตัวหรือไง? หากม่านฉงต้องการทะเลาะกับคุณขึ้นมาอีกและเพิกเฉยต่อแขกของคุณ แบบนั้นจะกลายมาเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่สำหรับคุณรึเปล่า?"
หลิวเจียฮุยหัวเราะ “เป็นเพราะนิสัยของม่านฉงนี่แหละ ฉันถึงได้ต้องการให้ม่านฉงกลับมาติดตามอยู่ด้วย! เธอหน้าตาสวยมาก เมื่อผู้ชายเห็นเธอ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งก็ต้องถึงกับสติหลุดลอย มีเธออยู่ ไม่แน่ว่าเจ้าหนุ่มแซ่เย่นั่นจะกลับกลายมาเอาใจฉันแทนก็ได้! เธอมักจะทำตัวสูงส่งเย่อหยิ่ง นิสัยไม่มีเหตุผล แถมดื้อรั้น และไม่เห็นผู้ชายคนไหนอยู่ในสายตา แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะถูกเอาเปรียบแน่ เธอก็คือแครอทที่แขวนอยู่หน้าลา ให้ลามองเห็นแล้วแต่กินไม่ได้ ได้แต่ต้องออกแรงวิ่งให้มากขึ้น! ดังนั้น ขอแค่มีเธออยู่ ต่อให้เธอทำหน้าบูด ก็ยังช่วยลดงานของฉันไปตั้งครึ่ง!”
ฟางเจียซินเอ่ยพึมพำ “ลูกสาวคุณไม่ฟังคุณด้วยซ้ำ แล้วจะมาฟังฉันที่เป็นแม่เลี้ยงได้ยังไงกัน? หากคิดจะเรียกเธอมา คุณทำเองน่าจะดีกว่า...”
หลิวเจียฮุยไม่สบอารมณ์กับท่าทีของฟางเจียซินอยู่บ้าง แต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็โบกมือและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ช่างเถอะ อีกเดี๋ยวฉันค่อยบอกเธอทีหลัง! คุณไปจัดการเรื่องอื่นเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...
ไม่มีอัพเดตแล้วหรือครับ กำลังสนุกเลย...
99% เว็บนี้แปลใกล้เคียงคำพูดของคนไทยที่สุด เสียดายเขาไม่แปลต่อให้ เว็บอื่นเขาไปไกลแล้วแต่แปลเข้าใจยากหน่อย ต้องใช้การเดาเข้าช่วยถึงพอจะเข้าใจ มีเว็บที่เป็นภาษาจีนล้วน ลองใช้โปรแกรมแปลภาษาดู ก็เหมือนเว็บอื่นๆที่ว่า ผลสุดท้ายก็กลับมาอ่านเว็บนี้ต่อ คิดว่าถ้าอ่านจนจบที่เขาแปล ก็คงไปหาอ่านเว็บอื่นต่อ เดาเอา😁...
อัพตอนต่อไปหน่อยครับกำลังสนุกเลย...
il semble que c'est leur fin d'histoire comme ça . merci pour ce temps de lecture,nous aurions préféré un lien d'achat complète du livre hélas . il temps de faire autre chose désormais...
สงสัยไม่ได้อ่านต่อแล้ว...แต่งดีมากเลยคัฟ ได้อรรถรถ...
สงสัยจะไม่ได้อ่านต่อแล้ว กำลังสนุกเชี่ยว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ 6096...
ทำไหมไม่ต่อครับ รอมาหลายเดือนแล้วครับ...