เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะสวยงามยิ่งนัก แต่ก็ไม่ได้เข้าในสายตาของเขาเลยจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เคยชอบผู้หญิงประเภทที่ไม่รู้จะสงวนตัว ดังนั้นเขาจึงได้แต่พยักหน้าอย่างเย็นชา และไม่พูดอะไรเลย
หลิวเจียฮุยมองไปที่การแสดงของเย่เฉิน และรู้ว่าเขาต้องไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้แน่นอน ดังนั้นเขาจึงพูดกับผู้หญิงคนที่สองทันทีว่า “คุณ มาทักทายคุณเย่เร็วเข้า”
เด็กผู้หญิงขี้อายเล็กน้อย แต่หยางเทียนเซิงกระแอ๋ม ร่างกายของนางก็สั่นเทาเล็กน้อย และนางก็ทำได้เพียงกัดฟันและเดินเข้าไปต่อหน้าเย่เฉิน และกล่าวอย่างขี้อายว่า “คุณ........คุณ........สวัสดีคุณเย่.......ฉัน......ฉันชื่อเซวีย..........เซวียจื่อฉี......”
หลิวเจียฮุยไม่พอใจเล็กน้อย และพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันให้แกทักทายคุณเย่ คุณไม่กล้าแม้แต่จะมองตาของคุณเย่เลย คุณรู้จักคำว่ามารยาทหรือไม่?”
หญิงสาวตกใจและรีบมองขึ้นไปที่เย่เฉิน ในเวลานี้ สีหน้าของเธอตกใจมากจนพูดไม่ออก และเธอก็พูดโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า “ฮ๊ะ! ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ!”
เย่เฉินก็จำเด็กผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว
ไม่นึกเลยว่า มันคือตอนที่ตัวเองไปญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ อยู่แถวใกล้กับมหาวิทยาลัยโตเกียว และได้พบกับสาวหัวเซี่ย ที่กำลังร้องเพลงอยู่บนถนน
เย่เฉินเห็นว่าเธอก็เป็นเหมือนเด็กผู้หญิงในตอนเมื่อกี้นี้ ใส่เสื้อผ้าที่เซ็กส์ซี่ และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและถามว่า “คุณไม่ได้เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นเหรอ? ทำไมถึงมาที่นี่ได้?”
หลิวเจียฮุยถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณเย่ คุณรู้จักกับผู้หญิงคนนี้เหรอ?”
เย่เฉินพยักหน้า และพูดเบาๆ ว่า “ฉันเคยพบกับเธอครั้งเดียว”
ในเวลานี้เด็กหญิงรู้สึกละอายใจมากจึงพูดว่า “ฉัน.......ฉัน.......ฉันเพิ่งเรียนจบเมื่อเดือนที่แล้ว.......ดิมที......ฉันอยากอยู่เพื่อเรียนต่อปริญญาโทที่ญี่ปุ่น แต่คุณหยางเต้มใจเซ็นต์สัญญาจ้างกับฉัน และทำอัลบั้มให้ฉัน ดังนั้นฉันจึงมาที่เกาะฮ่องกางและเซ็นสัญญาเข้าบริษัทของคุณหยาง.....”
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมา เย่เฉินก็ได้ออกจากญี่ปุ่น และไม่เคยไปเดินบนถนนสายนั้นอีกเลย
จู่ๆ เธอก็ได้เจอเย่เฉินอยู่ที่นี่ นอกจากความประหลาดใจแล้ว เธอยังรู้สึกละอายใจมากขึ้น
เย่เฉินเหลือบมองหยางเทียนเซิง เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับการกระทำของไอ้โจรเฒ่าคนนี้มาแล้ว น่าตาก็พอจะดูดีอยู่บ้าง แต่จริงๆ แล้วเขาก็เป็นไอ้สัตว์นรกที่มีใบหน้ามนุษย์เท่านั้น แต่เดิมวงการบันเทิงก้สกปรกอย่างยิ่งอยู่แล้ว เขาก็ยิ่งเป็นเหมือนมารในความสกปรกเลยทีเดียว
ดังนั้น เขาจึงยกนิ้วขึ้นและชี้ไปที่หยางเทียนเซิง ขมวดคิ้วและถามว่า “ไอ้แก่คนนี้บังคับให้คุณแต่งตัวแบบนี้ใช่ไหม?”
ทันทีที่หยางเทียนเซิงได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ด่าอย่างโกรธเคืองว่า “มึงแม่งว่าใครเป็นไอ้แก่เหรอ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...