ในไม่ช้า ชายวัยกลางคนและผู้สูงอายุสวมแว่นตา และเดินเข้ามาพร้อมกับเด็กสาวสองคน
เด็กสาวสองคนก้มหน้าลง อาจเป็นเพราะพวกเขาประหม่า และดูเกรงกลัวอย่างยิ่ง
ทันทีที่หยางเทียนเซิงเดินเข้ามา ก็ได้มองเห็นหลิวเจียฮุยที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาที่หันหน้าไปทางประตู ดังนั้นเขาจึงยิ้มอย่างกระดือรือร้นและพูดว่า “เจียฮุย! ขอแนะนำให้คุณรู้จักกับคนใหม่สองคนที่ฉันเพิ่งเซ็นสัญญาเข้ามา!”
หลิวเจียฮุยโบกมือยิ้ม และพูดอย่างมีความสุขว่า “คุณอย่าเพิ่งรีบร้อนที่จะแนะนำ มา ฉันจะแนะนำเพื่อนใหม่ที่มีความสามารถตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่นให้คุณสักหน่อย”
หลังจากพูดจบ เขาก็พูดกับเย่เฉินด้วยความเคารพว่า “คุณเย่ ถ้าคุณสะดวก ฉันขอแนะนำคุณให้รู้จักกันสักหน่อย!”
หยางเทียนเซิงเห็นแต่ด้านหลังศีรษะของเย่เฉิน แต่เดิมเขายังคงสงสัยว่าทำไมคนคนนี้ถึงไม่มีมารยาทขนาดนี้ มีแขกเข้ามา ก็ไม่แม้แต่จะหันกลับมาเลย ซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินว่าหลิวเจียฮุยใช้ชื่อเรียกเขาว่า “คุณ” เขาก็รู้สึกตัวสั่น ตระหนักได้ว่าคนคนนี้ต้องเป็นคนยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
ดังนั้น เขาจึงขจัดความไม่พอใจในใจทันที และวิ่งไปที่หลิวเจียฮุย เมื่อเขาพบว่าเย่เฉินเป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ เขาก็ยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่ และชมเชยอย่างรวดเร็วว่า “โอ๊ย ไม่คาดคิดเลยว่าคุณเย่อายุยังน้อยแต่มีความสามารถยิ่งนัก มันช่างน่าประหลาดใจจริงๆ!”
เย่เฉินมองมาที่เขาด้วยความสนใจ และยิ้มว่า “เสี่ยหยางใช่ไหม คุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันทำอะไร ทำไมถึงตัดสินใจว่าฉันมีความสามารถล่ะ?”
หยางเทียนเซิงกล่าวโดยไม่ลังเลว่า “ฉันรู้จักเจียงฮุยเป็นอย่างดี ถ้าคุณเย่สามารถเป็นแขกรับเชิญของเขาได้ งั้นก็ต้องมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นแน่ๆ!”
หลังจากพูดจบ เขาก็ทักทายให้เด็กหญิงทั้งสองและพูดว่า “ทักทายกับคุณหลิว เร็วเข้า!”
หลิวเจียฮุยไม่คาดคิดเลยว่าหยางเทียนเซิงไอ้คนนี้จะทำตัวสุภาพบนผิวเผิน แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็เพิกเฉยต่อเย่เฉินโดยตรง ดังนั้นเขาจึงโบกมืออย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “อย่าๆๆ โปรดพวกคุณทักทายกับคุณเย่ก่อน!”
ในเวลานี้เด็กหญิงทั้งสองก็มองเห็นเพียงด้านหลังศีรษะของเย่เฉิน และเมื่อได้ยินคำทักทายของหลิวเจียฮุย หนึ่งในนั้นก็รีบเดินเข้ามาหาเย่เฉิน มองไปที่เย่เฉิน โค้งคำนับและกล่าวว่า “สวัสดีคุณเย่! ฉันชื่อหมี่เล่อฉี มีความสุขอย่างยิ่งที่ได้รู้จักคุณ!”
เย่เฉินชำเลืองมองดูหญิงสาวคนนั้น เด็กผู้หญิงคนนั้นอายุประมาณยี่สิบปี และนางมีความงามเล็กน้อย แต่เสื้อผ้าของนางดูเย้ายวนเกินไป นางสวมสายเอี๊ยมท่อนบนท่อนบน และกระโปรงสั้นมากอยู่ข้างใต้ มองไป ผิวขาวใสแบบเต็มน้ำเต็มเนื้อ
หญิงสาวมองดูเย่เฉินด้วยคำใบ้ และเมื่อเธอโค้งคำนับ เธอยังจงใจต้องการเปิดเผยคอเสื้อของเธอให้มากขึ้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...